อยากให้ลูกเป็นสุดยอดเด็ก ต้องมีให้ครบทั้ง 3I
- I AM = มีทักษะรู้คิด จิตสำนึกที่ดีต่อตนเอง
- I HAVE = เติบโตในสังคมแวดล้อมที่ดี เป็นสังคมใกล้ชิดตัวเด็ก ทั้งที่บ้าน ชุมชน โรงเรียน (สื่อที่สร้างสรรค์) ที่ก่อให้เกิดทักษะรู้คิด และจิตสำนึกที่ดีต่อสาธารณะ
- I CAN = ลูกต้องมีพลังอึดอดทนและสามารถต่อสู้ เอาชนะ และผ่านพ้นจากปัญหาหรืออุปสรรคความยากลำบากต่างๆ ได้ ด้วยความสามารถของตนเอง ทำให้ลูกเกิดความภาคภูมิใจและมีภูมิคุ้มกันอย่างแท้จริง
ฝึกพลังแกร่งบนฐานจิตสำนึกที่ดี : ทักษะที่ต้องมีของเด็ก Gen Alpha
ทราบกันแล้วว่าปัญหาสำคัญข้อหนึ่งของเด็ก Gen Alpha คือการขาดทักษะความอดทนอดกลั้น ทักษะนี้จำเป็นสำหรับเด็กแค่ไหนบ้าง ดังนั้น การทำให้ลูกน้อยของเราในอนาคตเป็นทั้งเด็กเก่ง ฉลาด มีพลังแกร่ง และมีจิตสำนึกที่ดีได้นั้น มาจากพลังแกร่งที่ฝึกได้ 3 ประการ โดยคุณหมอขอยกตัวอย่างจากกรณีของแม่สู้ชีวิต ที่ฝึกตัวเองให้มีความแกร่งมาก และเป็นสิ่งที่สะท้อนแง่คิดให้กับครอบครัวไทยเราในปัจจุบัน นั่นคือ
1. ทำดีให้ลูกดู
ไม่ใช่พูดดีให้ลูกฟัง ลองมองดูตัวเราว่า ทุกวันนี้เราพูดเยอะ แต่ไม่ได้ลงมือทำหรือเปล่า ซึ่งลูกไม่อาจเข้าใจได้ว่าการเป็นคนดีเขาเป็นกันอย่างไร ดังนั้น พ่อแม่จึงควรทำดีให้ลูกดู ลงมือทำทุกวันให้เด็กเห็นเป็นพฤตินิสัย ลูกก็จะซึมซับโดยไม่รู้ตัว มองเห็นวิธีการทำความดี จนสุดท้ายกลายเป็นวิถีชีวิตของลูก
2. พาลูกสู้ชีวิตไปด้วยกัน
ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เมื่อครอบครัวต้องเผชิญกับภาวะยากลำบาก พ่อแม่ไม่ควรรับความทุกข์ไว้เพียงคนเดียว การที่พาลูกสู้ชีวิตไปด้วยกัน ลูกจะรู้จักการรับมือกับความยากลำบากและกลายเป็นคนมีพลังอึดฮึดสู้ แต่การปรนเปรอลูกด้วยความสุขอย่างเดียวลูกจะอดทนอดกลั้นไม่ได้ ไม่รู้คุณค่าของเงินและสิ่งใดๆ ความรักและสายใยแบบนี้มีชื่อเรียกว่า Tender Loving Care คือความรักที่เกิดขึ้นบนฐานของความทุกข์และเจ็บปวด เมื่อเจอกับความทุกข์และความเจ็บปวดแล้ว ความรักจะจีรังยั่งยืน ไม่หายไปไหน นี่ต่างหากคือรักที่แท้จริงที่มีให้กับลูก
3. เป็นผู้ให้แก่สังคม
เมื่อครอบครัวผ่านวิกฤตจนลืมตาอ้าปากได้ คุณพ่อคุณแม่ก็ลุกขึ้นมาชวนลูกเป็นผู้ให้ของสังคม เอื้ออาทรสังคมที่ตัวเองใช้ชีวิตอยู่ ผลที่ได้คือ ลูกกลายเป็นอริยชนและรู้จักเป็นผู้ให้ไปจนโต