ฝุ่นละอองกรุงเทพ วิกฤตหนัก เตือนแม่ท้องสูด กระทบลูกในท้อง

UNICEF เผย ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ทำลายสมองลูกในท้องได้!

ในช่วงที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงเกินมาตรฐานนั้น สำหรับคนทั่วไปควรสวมหน้ากากอนามัย N95 เพื่อป้องกันฝุ่นหากมีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง แต่สำหรับแม่ท้อง และ ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ หรือโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรหลีกเลี่ยงการเข้าสู่พื้นที่ที่มีฝุ่นละอองเกินมาตรฐานที่กำหนด เนื่องจากฝุ่นละอองขนาดเล็กนี้มีอันตรายต่อสุขภาพของลูกในท้อง และ ผู้ป่วยในกลุ่มนี้เป็นอย่างมาก ดังที่ UNICEF ได้อธิบายถึงผลร้ายจากฝุ่นละออง ดังนี้

เนื่องจากฝุ่นละออง PM 2.5 มีขนาดเล็กมาก จึงสามารถฝ่าระบบป้องกันฝุ่นของร่างกาย เข้าสู่ปอดได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งเข้าไปในเส้นเลือดฝอยที่ถูกส่งไปทั่วร่างกาย รวมทั้งอวัยวะที่มีความสำคัญคือ สมองและหัวใจ ซึ่งจะทำให้เกิดโรคได้ในอนาคต ได้แก่ โรคมะเร็งปอด โรคหัวใจ โรคทางสมอง เป็นต้น

และหากแม่ท้องสูดฝุ่นละอองขนาดเล็กนี้เข้าไป ก็สามารถส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์ได้อีกด้วย โดยอาจทำให้เด็กเมื่อโตขึ้น ก็จะมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคทางสมอง ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีผลต่อระดับสติปัญญาตลอดชีวิตของเด็กอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับการที่แม่ท้องสูดดมฝุ่นละอองที่มีค่าเกินมาตรฐานนั้น มีความสัมพันธ์ให้เกิดความเสี่ยงต่อการแท้ง, คลอดก่อนกำหนด, และลูกในท้องมีน้ำหนักแรกคลอดน้อยกว่าปกติ ได้อีกด้วย

ทีมงาน Amarin Baby & Kids ได้สอบถามทางกรมควบคุมมลพิษ ถึงปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐานนี้ โดยทางกรมควบคุมมลพิษกล่าวว่า ยังไม่อยากให้แม่ ๆ แตกตื่นกับตัวเลขที่สูงเกินจริงจากในข่าว เนื่องจากค่าจริงของ PM 2.5 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เฉลี่ยอยู่ที่ 50-80 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรเท่านั้น สำหรับมาตรฐานการวัดค่าฝุ่นละอองในกรุงเทพฯ ที่อยู่ในเกณฑ์ที่เกินมาตรฐานในคนปกติอยู่ที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สำหรับคนป่วย

สามารถติดตามรายงานสถานการณ์ ฝุ่นละอองกรุงเทพ ได้ที่นี่

Facebook กรมควบคุมมลพิษ

กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรุงเทพมหานคร

กองจัดการคุณภาพอากศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ