แพทย์หญิงยุพยง แห่งเชาวนิช รองประธานมูลนิธินมแม่แห่งประเทศไทยได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า หนทางสู่ความสำเร็จของการให้นมแม่นั้นไม่ได้มีเพียงแค่รหัส 1-6-2 เท่านั้น หากแต่ 14 วันหลังการคลอดก็นับเป็นช่วงเวลาเริ่มต้นสำคัญที่นำไปสู่การประสบความสำเร็จได้ด้วยเช่นกัน
“ระหว่างที่แม่อยู่ในโรงพยาบาลนั้นจะต้องเรียนรู้เรื่องการให้นมแม่กับลูกน้อย อุ้มลูกให้ถูกวิธี ให้ลูกดูดนมอย่างถูกต้อง ระยะเวลาในการให้นม รวมไปถึงพฤติกรรมต่างๆ ของลูกที่แสดงออกมาเพื่อสื่อสารกับแม่ ถ้าแม่ไม่ได้รับความรู้เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไม่เพียงพอในช่วง 7-14 วันหลังคลอด จะทำให้ไม่เข้าใจการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างถูกต้อง รวมไปถึงการดูแลและสังเกตพฤติกรรมลูก สิ่งเหล่านี้ทำให้เราต้องกลับมานั่งทบทวนว่า นี่คือช่องว่างของปัญหาที่เกิดขึ้น และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องต้องแก้ไขหรือไม่”
“ช่วงเวลา 14 วัน น่าจะเพียงพอในการที่แม่และลูกเรียนรู้พฤติกรรมซึ่งกันและกัน และแก้ไขปัญหาเรื่องนมแม่ที่เกิดขึ้น เช่น นมไม่พอ วิธีการให้ลูกดูดนมถูกวิธี การดูว่าลูกกินนมอิ่มหรือเพียงพอไหม ด้วยการสังเกตสีหน้าแววตา หรือการนอนหลับของลูก รวมถึงจำนวนผ้าอ้อมของลูกเป็นต้น” แพทย์หญิงยุพยง ย้ำ
นอกจากนี้กุมารแพทย์ชื่อดังระดับประเทศอย่าง แพทย์หญิงสุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ ก็ได้ออกมาแนะแนะถึงหนทางสู่การให้นมแม่ได้อย่างสำเร็จดังนี้
หนทางสู่การให้นมแม่ได้สำเร็จลุล่วง!
การให้นมแม่บางคนอาจเคยได้ยินว่า หากน้ำนมน้อย หรือหัวนมบอดก็ไม่สามารถให้นมลูกได้ หรือให้นมแม่เป็นเรื่องยาก ความจริงแล้วผู้หญิงที่เป็นแม่ทุกคนสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้หากรู้วิธีการถูกต้องด้วยการอาศัยกุญแจสำคัญ 4 ประการอันได้แก่
หนึ่ง… อย่าใช้นมผง
สอง… อย่าด่วนหมดกำลังใจ และ
สาม… ต้องกระตุ้นเต้านมบ่อยๆ และ
สี่…ตัวช่วยที่สำคัญ ผู้ให้คำแนะนำ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล ผู้ให้คำปรึกษาเรื่องนมแม่ หรือคุณแม่ที่เคยมีประสบการณ์เลี้ยงลูกด้วยนมแม่มาก่อน เป็นต้น
การให้ลูกเริ่มดูดนมเร็วที่สุดภายใน 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด การให้ลูกอยู่ร่วมห้องเดียวกับแม่ การให้ลูกได้ดูดนมบ่อยๆ เท่าที่ลูกต้องการ ยิ่งลูกได้ดูดบ่อยจะยิ่งชำนาญในการดูดมากขึ้น และแม่จะผลิตปริมาณน้ำนมเพิ่มขึ้นด้วย