กินนม เคล้าเสียงเพลง สุดยอดอย่าบอกใคร - Amarin Baby & Kids

กินนม เคล้าเสียงเพลง สุดยอดอย่าบอกใคร

Alternative Textaccount_circle
event

“ช่วงเวลาระหว่างให้นมลูกไม่ว่าจะเป็นนมจากขวดหรือนมจากเต้านี่ล่ะเป็นช่วง เวลานาทีทองของพัฒนาการซึ่งทำได้ง่ายๆ คือร้องเพลงกล่อมลูกไปด้วยไม่ว่าคุณแม่จะร้องเก่งแบบสูสีกับเจนนิเฟอร์คิ้ม หรือร้องเพี้ยนขนาดไหนก็ตามนั่นไม่สำคัญ เพราะเสียงของแม่ที่ร้องเพลงออกมานั้นจะเจือด้วยความรักความห่วงใยซึ่งลูก สามารถสัมผัสรับรู้ได้”

 

                จริงๆแล้วเรื่องของการดื่มนมสามารถทำได้ทั้งครอบครัวไม่จำเป็นต้องเฉพาะเด็กเล็กๆผู้เขียนเองตอนนี้ก็ดื่มโดยเฉพาะนมจืดไร้ไขมัน เพราะปีนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น(อดีต)ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจกับเขาบ้างแล้วเลยจำเป็นต้องงดของทอดและของเค็มๆมันๆซึ่งเคยเป็นของโปรด หันมาบริโภคของซึ่งมีประโยชน์แบบไม่ต้องทอดไม่เค็มไม่มัน นมอย่างที่ว่าก็เลยกลายเป็นสมาชิกในเมนูหลักทุกวันของผู้เขียนไปง่ายๆอย่างนี้เอง

แทบไม่ต้องอธิบายเรื่องประโยชน์ของนมเพราะเป็นเรื่องที่ทราบกันดีอยู่แล้วและพิสูจน์ได้ว่านมนั้นช่วยในการเจริญเติบโต บำรุงกระดูกและฟันแถมยังเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี แต่ก็แปลกที่เรายังไม่ค่อยสนใจจะดื่มนมกันสักเท่าไร

อีกเรื่องที่ทราบกันดีคือสำหรับเด็กเล็กนั้นนมที่ดีที่สุดคือนมแม่เพราะฉะนั้นถ้าคุณแม่ท่านใดอยู่ในวิสัยที่จะให้นมลูกเองได้ก็ชอเชียร์เลย

ไหนๆชื่อคอลัมน์ก็บอกชัดๆอยู่ว่า kid & music เพราะฉะนั้นจะไม่พูดถึงเพลงเลยคงจะใช่ที่เลยจะขอแนะนำว่าช่วงเวลาระหว่างให้นมลูกไม่ว่าจะเป็นนมจากขวดหรือนมจากเต้านี่ล่ะเป็นช่วงเวลานาทีทองของพัฒนาการซึ่งทำได้ง่ายๆคือร้องเพลงกล่อมลูกไปด้วย ถ้าไม่ถนัดร้องก็หาเพลงที่คุณแม่ชอบมาเปิดคลอไป ไม่จำเป็นต้องเป็นเพลงคลาสสิคหรือต้องเป็นเพลงของโมสาร์ทยกเว้นว่าถ้าคุณแม่ชอบก็ฟังได้ไม่ว่ากัน

ที่บอกว่าไม่จำเป็นต้องคลาสสิคเพราะถ้าคุณแม่ไม่ชอบฟังไปก็คงไม่มีความสุขแล้วถ้าคุณแม่ไม่มีความสุขคุณลูกคงไม่มีความสุขไปด้วยเลือกเพลงที่ชอบนี่ล่ะดีสุดฟังไปมีความสุขไปให้นมลูกไปแหม…เพลินอย่าบอกใคร

อย่างไรก็ตามผู้เขียนยังเชียร์ให้คุณแม่ร้องเพลงกล่อมลูกเวลาให้นมเองเพราะเสียงเพลงของคุณแม่มีผลดีต่อพัฒนาการของลูกอย่างมีนัยสำคัญ (นี่ใช้สำนวนนักวิชาการกับเขาสักหน่อย)

ไม่ว่าคุณแม่จะร้องเก่งแบบสูสีกับเจนนิเฟอร์คิ้มหรือร้องเพี้ยนขนาดไหนก็ตามนั่นไม่สำคัญ เพราะเสียงของแม่ที่ร้องเพลงออกมานั้นจะเจือด้วยความรักความห่วงใยซึ่งลูกสามารถสัมผัสรับรู้ได้จะทำให้เขารู้สึกอบอุ่นปลอดภัยและมีความสุขส่งผลให้เขาสามารถมีพัฒนาการที่ดีตามลำดับตามวัย

 

เรื่องโดย คุณชนะ  เสวิกุล เขียนเพลง คอลัมน์ หนังสือและช่วยภรรยาเลี้ยงเจ้าอาย ลูกสาวคนเดียว
จากคอลัมน์ Kid music ฉบับเดือนสิงหาคม 2558

ภาพประกอบ : ข้าวตู

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up