New Normal หลังโควิดยังไม่ยอมจางไป แต่การปลูกฝังจิตสำนึกต่อสังคมให้แก่ลูกคงจางไม่ได้ มาเติมความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย โครงการจิตอาสา ที่อยู่บ้านก็ทำความดีได้
โครงการจิตอาสา สอนลูกช่วยสังคมได้ง่าย ๆ แม้อยู่บ้าน
“การทำงานจิตอาสาเป็นสิ่งที่ช่วยปลูกฝังให้เด็กมีทักษะชีวิตที่สำคัญ ได้แก่ การเสียสละ การมีน้ำใจ ความขยัน อดทน ความรับผิดชอบ การเข้าสังคม อ่อนน้อมถ่อมตน ลดความเห็นแก่ตัว มีเมตตาต่อกันทำให้สังคมน่าอยู่ยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือการเห็นอกเห็นใจและเข้าใจผู้อื่น” คำกล่าวของแพทย์หญิงถิรพร ตั้งจิตติพร จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ ที่ได้แนะนำถึงว่าทำไมควรให้ลูกได้ทำงานจิตอาสา
ยิ่งในยุคปัจจุบันที่เด็กติดหน้าจอ และรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่าง ๆ มากมาย ทำให้กิจกรรมพบปะปฎิสัมพันธ์ระหว่างกันก็น้อยลง ส่งผลให้เด็กขาดทักษะชีวิตที่สำคัญไปหลายอย่าง เช่น ทักษะการทำงานเป็นทีม ทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เป็นต้น ซึ่งทักษะเหล่านี้เป็นทักษะที่จำเป็นต่อลูกเมื่อเขาโตขึ้นไป และเข้าสู่วัยทำงาน ดังนั้นการช่วยให้เขาได้เพิ่มพูนทักษะต่าง ๆ เหล่านี้ จากสถานการณ์จำลองการทำงานร่วมกับผู้อื่นจาก โครงการจิตอาสา ต่าง ๆ ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดี แถมยังได้บุญอีกด้วย
งานอาสาที่เหมาะแต่ละช่วงวัย
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอันดับแรก คือเรื่องความปลอดภัย พัฒนาการ ทักษะของเด็กและความพร้อมให้เหมาะสมกับกิจกรรม
- วัยอนุบาล: กิจกรรมส่วนใหญ่มักเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกับคุณพ่อคุณแม่ เป็นกิจกรรมที่ทำง่ายๆไม่ต้องใช้ทักษะมาก แต่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือส่วนรวม และผู้อื่น
ตัวอย่างงานอาสาในวัยนี้
- ช่วยเก็บของหรือจัดเรียงของ หรืออาจให้ลูกช่วยเก็บรวบช้อนส้อม เขี่ยข้าวที่กินเหลือกระจัดกระจายในจานตนเองให้มารวมกันเพื่อง่ายต่อการเก็บจาน ในระหว่างที่ไปทานข้าวนอกบ้าน เพื่อเป็นการช่วย แบ่งเบาภาระแก่ผู้ที่มีหน้าที่เก็บล้าง เหมือนดั่งวิธีการเลี้ยงลูกแบบชาวญี่ปุ่น นอกจากจะช่วยเรื่องความมีระเบียบวินัยแล้วยังช่วยลูกให้มีนิสัยรับผิดชอบหน้าที่ของตน และไม่ไปสร้างภาระแก่ผู้อื่น
- ทำความสะอาดง่าย ๆ การช่วยทำงานบ้านก็เป็นจิตอาสารูปแบบหนึ่ง
- แบ่งของเล่นหรือเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใช้แล้วให้ผู้อื่น เป็นการปลูกฝังความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แบ่งปัน
- วัยประถม: เริ่มทำกิจกรรมด้วยตนเองได้มากขึ้น จึงสามารถเพิ่มภาระงานให้แก่ลูกให้ยากท้าท้ายขึ้นอีกหน่อย เพื่อเป็นแรงดึงดูดให้เขาหันมาสนใจ และไม่เบื่อที่จะทำ แต่ต้องเป็นงานที่เห็นผลลัพธ์ในระยะเวลาอันสั้น
ตัวอย่างงานอาสาในวัยนี้
- ทำขนมทำอาหาร ไปบริจาค หรือแจกจ่ายแก่ผู้อื่น
- เก็บขยะ จัดหรือตกแต่งสถานที่ ให้พื้นที่ในบ้านให้ลูกได้รับผิดชอบว่าส่วนนี้เขาต้องเป็นคนดูแล เช่น ห้องนอน หรือตู้เก็บของเล่นของเขาเอง โดยคุณพ่อคุณแม่ต้องปล่อยให้เขาจัดการเองอย่างจริงจัง ทำดีได้รับคำชม ถ้าขาดเหลือส่วนไหน จับมือลูกไปทำด้วยกัน ไม่ทำให้ลูกทั้งหมด ท่องไว้ว่าเพื่อการเรียนรู้ของลูกเรา
- อ่านหนังสือให้ผู้พิการทางสายตา
- วัยมัธยม: กิจกรรมที่ทำเพื่อคนอื่นมากขึ้น เพราะลูกเริ่มมีศักยภาพในตนเองมากขึ้น และในวัยนี้เขาต้องการการยอมรับ การเป็นส่วนหนึ่ง การทำงานจิตอาสาจะช่วยให้ลูกวัยนี้ เห็นคุณค่าของตนเอง หลังจากที่หลุดมาจากวัยเด็กที่เห็นตัวเองเป็นศูนย์กลาง หากเขาไม่มีความรู้สึกถึงคุณค่าของตนเอง อาจจะทำให้ลูกกลายเป็นคนที่เฉื่อยช้า หรือขี้เกียจ ไม่รับผิดชอบในสายตาคุณพ่อคุณแม่นั่นเอง แต่แท้ที่จริงแล้วเขาแค่ไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร หรือสามารถทำสิ่งใดได้บ้าง เพราะวัยรุ่น นับว่าจะเป็นเด็กก็ไม่ใช่ รับรู้ รับผิดชอบแบบผู้ใหญ่ก็ยังได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่จะช่วยให้เขาได้เห็นว่า เขาก็สามารถทำตัวมีประโยชน์ต่อผู้อื่นได้ ซึ่งการพาเขาไปทำงานจิตอาสาจึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์เด็กในวัยนี้มากที่สุด
ตัวอย่างงานอาสาในวัยนี้
- ออกค่ายอาสาพัฒนาชุมชน
- สอนหนังสือให้เด็กๆ
- ดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุ จัดกิจกรรมช่วยบำบัดผู้ป่วย
- งานแสดงดนตรีการกุศล
ชีวิต New Normal 2020 กับ โครงการจิตอาสา
ถึงแม้จะรู้ว่า การให้ลูกได้มีโอกาสช่วยงานจิตอาสา จะส่งผลดีทั้งต่อตัวลูกเอง และสังคมอย่างไร แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่มีโรคระบาดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทั่วทั้งโลกก็ยังไม่สามารถคาดคะเนได้ว่าโรคจะหยุดระบาดไหม และจะหยุดเมื่อใด จึงเป็นสาเหตุให้เกิดแนววิถึชีวิตแบบใหม่ (New Normal) ขึ้นมาในยุค 2020 นี้ นั่นคือ การต้องใช้ชีวิตแบบเว้นระยะห่าง (Social Distancing) ทำให้การทำกิจกรรมแบบรวมกลุ่มกันของงานจิตอาสา จึงเป็นเรื่องที่ยากยิ่งขึ้น แต่ในเมื่อลูกของคุณพ่อคุณแม่ก็ยังคงต้องการการเรียนรู้ทักษะชีวิตอยู่ ทาง ทีมแม่ ABK จึงได้หาวิธีและรวบรวม โครงการจิตอาสา ที่สามารถทำได้ที่บ้านมาฝากกัน
อาสาอ่านหนังสือให้คนตาบอด
Read for the Blind อ่านหนังสือเพื่อคนตาบอด เป็นแอพพลิเคชั่นแรกที่คิดค้นมาเพื่อทุกคน ได้มีโอกาสร่วมกันสร้างหนังสือเสียงให้คนตาบอด ด้วยการอ่านหนังสือหรือบทความสั้นๆ จาก เวบไซต์ แมกาซีน หนังสือพิมพ์ หรือคอลัมน์ที่น่าสนใจ Read for the Blind แอพพลิเคชั่น รองรับการอ่านหนังสือจากหลายๆคนรวมกันเป็นหนึ่งเล่ม หนึ่งคนอาจจะอ่านเพียงแค่บทเดียว และจากหลายๆบทจะรวมเป็นหนึ่งเล่ม หนังสือเสียงหรือบทความที่สมบูรณ์แล้วเหล่านี้จะถูกแปลงเป็นไฟล์เสียงที่เหมาะสมสำหรับคนตาบอดและส่งไปยัง สายด่วนข่าวสารความรู้ ที่เบอร์ 1414 ซึ่งเป็นการให้การบริการฟรีเพื่อฟังหนังสือเสียงผ่านทางโทรศัพท์
เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Read for the Blind แล้วทำตามขั้นตอนในแอพ ก็สามารถเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา อ่านหนังสือเพื่อคนตาบอดได้แล้ว
Read for the Blind ระบบ Android
อาสาส่งพลาสติกกลับบ้าน
TRBN ร่วมกับภาคีโครงการ “ส่งพลาสติกกลับบ้าน” รับมือวิกฤตขยะจากสถานการณ์โควิด-19 ฝึกวินัยจาก “ต้นทาง” ในบ้านเรา: แยกพลาสติกใช้ครั้งเดียว และขยะอันตราย ออกจากขยะทั่วไป ง่ายๆ และทำได้ทันทีช่วยลดความเสี่ยงให้พี่ๆ พนักงานเก็บขยะ ส่งพลาสติกและวัสดุอื่นๆ เข้าสู่ระบบ recycle หรือ upcycle ลดภาระบ่อฝังกลบ และทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นไปได้จริง เพื่อความยั่งยืน
เป้าหมายและจุดประสงค์หลักของโครงการอาสาส่งพลาสติกกลับบ้านนี้ หากคุณพ่อคุณแม่สนใจ และมีแนวคิดร่วมด้วยกับกิจกรรมอาสานี้ สามารถพาลูก ๆ เข้าร่วมกับโครงการได้ไม่ยากเลย โดยเริ่มได้ที่บ้าน จากชีวิตประจำวัน ช่วยกันแยกขยะ ทำความสะอาด และรวบรวมทิ้งตามจุดที่ทางโครงการอาสากำหนดไว้ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ FB: ส่งพลาสติกกลับบ้าน
Paper Ranger จิตอาสาสมุดเพื่อน้อง
- ร่วมบริจาคกระดาษที่ใช้แล้ว เป็นกระดาษเอสี่ที่ผ่านการใช้งานมาหนึ่งหน้าและยังมีอีกหน้าที่ว่างอยู่ (ได้ทุกแบบ ทุกสี ผ่านการเข้าเล่มเจาะรูแล้วก็ได้เช่นกัน) สามารถจัดส่งมาที่ บ้านจิตอาสา (โครงการ Paper Ranger) 2044/21 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. 10310 (กรุณาส่งมาเป็นแบบธรรมดาก็เพียงพอครับ ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนหรือ EMS) หรือสามารถนำมาให้ด้วยตนเองก็ได้
- ช่วยกันกดไลท์ กดแชร์ เพื่อส่งต่อเรื่องราวของโครงการของเราไปยังคนอื่น ๆ เพื่อที่ว่าทุกคนจะได้รับรู้และมาช่วยกันคนละไม้คนละมือในรูปแบบที่ทุกคนสามารถช่วยได้
นอกจากวิธีร่วมงานอาสาทั้งสองแบบแล้วทางโครงการยังมีกิจกรรมให้ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ แก่สังคมอีกมาก สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ FB: Paper Ranger จิตอาสาสมุดเพื่อน้อง
เคล็ดลับสอนลูก กับกิจกรรมจิตอาสา
- งานจิตอาสาที่เลือกควรมีทั้งแบบทำร่วมกับเด็กอื่น และทำร่วมกันกับครอบครัว ข้อดีของการทำร่วมกับพ่อแม่ คือ เขาจะได้เห็นตัวอย่างที่ดี มีต้นแบบ การเรียนรู้ที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก คือ การได้เห็นตัวอย่างและได้ลงมือทำ
- สร้างบรรยากาศที่ดีเวลาร่วมกันทำกิจกรรม ข้อควรระวังสำหรับคุณพ่อคุณแม่ คือ อย่าดุลูก เพื่อสร้างบรรยากาศที่สนุกสนาน ให้เขาได้รู้สึกว่างานอาสาเป็นเรื่องสนุก อยากทำด้วยใจไม่ใช่การบังคับ
- พยายามให้ลูกได้ทำด้วยตัวเอง หากคุณพ่อคุณแม่ไปทำทุกอย่างให้ลูกเสียหมด เขาจะไม่รู้สึกภาคภูมิใจในงาน และตนเอง ให้ลูกได้เผชิญปัญหา และรู้จักแก้ไขปัญหานั้นด้วยตนเอง โดยมีคุณพ่อคุณแม่คอยแนะนำพอ เปิดโอกาสให้ลูกได้แสดงศักยภาพออกมา
- หลังจากได้ร่วมทำกิจกรรมอาสาแล้ว ควรมีการนั่งพูดคุยถึงสิ่งที่ได้ทำมาว่า ตรงตามจุดประสงค์ที่ตั้งใจไว้ไหม เกิดอุปสรรคอะไรบ้าง แล้วแก้ปัญหากันอย่างไร ดีพอไหม คราวหน้าจะวางแผนอย่างไรไม่ให้เกิดขึ้นอีก เป็นต้น
ข้อมูลอ้างอิงจาก ปิดเทอมสร้างสรรค์
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
Apple แนะนำ 30 กิจกรรมสร้างสรรค์ ให้ลูกทำบน iPhone, iPad (ดาวน์โหลดฟรี)
12 กิจกรรมจิตอาสา ปลูกฝังให้ลูกมีน้ำใจ สร้างจิตสาธารณะตั้งแต่เล็ก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่