ต่อ สาระสำคัญนอกเหนือจากการห้ามทางโรงเรียนจัด สอบเข้า ป.1
Good to know : เด็กปฐมวัย คือ ตั้งแต่อนุบาล1 – ป.3 การเรียนการสอนที่ถูกต้องควรเน้นให้เรียนรู้เพื่อเตรียมความพร้อมตามสมรรถนะตามวัยของเขา เน้นการเรียนให้สนุก เรียนรู้กับธรรมชาติตามพัฒนาการของเด็ก เป็นการเรียนรู้วิชาการตามสมรรถนะของวัย ที่เตรียมความพร้อม ให้อ่านออกเขียนได้เพื่อให้สามารถเรียนต่อได้ในชั้นที่สูงขึ้น
กำหนดให้เด็กปฐมวัยได้รับการดูแล พัฒนาและจัดการเรียนรู้ โดยให้อยู่รอดปลอดภัยและได้รับการคุ้มครองจากการล่วงละเมิดไม่ว่าในทางใด ให้มีพัฒนาการที่ดีทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและปัญญาที่ดีสมวัย สามารถเรียนรู้อย่างสอดคล้องกับหลักการพัฒนาศักยภาพและความต้องการจำเป็นพิเศษ ซึมซับสุนทรียะและวัฒนธรรมที่หลากหลายได้ มีอุปนิสัยใฝ่ดี มีคุณธรรม มีวินัย ใฝ่รู้ มีความคิดสร้างสรรค์ และมีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลเมืองโลก
กำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีหน้าที่และอำนาจจัดให้มีการให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชนเกี่ยวกับการวางแผนครอบครัว การตั้งครรภ์ที่มีคุณภาพ การเลี้ยงดูบุตร การพัฒนาเด็กปฐมวัย รวมทั้งให้มีหน้าที่และอำนาจจัดให้มีสวัสดิการแก่หญิงมีครรภ์ในท้องถิ่นอย่างเหมาะสม
กำหนดหน้าที่ให้รัฐและอปท.จัดให้มีบริการและสวัสดิการด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา และด้านสังคมอย่างมีคุณภาพ แก่เด็กปฐมวัย หญิงมีครรภ์ และบุคคลในครอบครัวของเด็กปฐมวัยอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน โดยไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่าย เว้นแต่หลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด
กำหนดให้การรับเด็กปฐมวัยเพื่อเข้ารับการพัฒนาในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยและสถานศึกษา ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติโดยวิธีการสอบคัดเลือกจะกระทำมิได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่คณะกรรมการประกาศกำหนด และผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5 แสนบาท
อย่างไรก็ตาม จากนี้คณะกรรรมการกฤษฎีกาจะดำเนินการตรวจพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ…ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
ซึ่งสำหรับร่างพ.ร.บ.การพัฒนาเด็กปฐมวัย ฉบับนี้ถือเป็นฉบับแรก ที่สำคัญมีการระบุไว้ชัดด้วยว่า… การรับเด็กในระดับอนุบาลและประถมศึกษาปีที่ 1 ให้คณะกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยเป็นผู้กำหนดแนวทางโดยจะไม่มีการสอบ หากสถานศึกษาใดฝ่าฝืนจะถูกปรับไม่เกิน 5 แสนบาท ซึ่งเงินดังกล่าวจะนำเข้ากองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา