แจกเงินจุก ๆ 15 ล้านคน ศบศ.แจกเงิน 3000 บาท มีเงื่อนไขเพียงอายุ 18 ปีขึ้นไป คุณพ่อคุณแม่รอเช็ครายละเอียดได้เลย
ศบศ.แจกเงิน 3000 บาท แจกให้ 15 ล้านคนได้ช้อป
ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ จากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ได้ประกาศข่าวดีภายหลังการประชุม ถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยหนึ่งในมาตรการสำคัญที่จะช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายของครอบครัวได้ คือการแจกเงิน 3000 บาท ให้กับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ใช้ซื้อของเซเว่น-ห้าง ได้สิทธิ์ถึง 15 ล้านคน
กระตุ้นเศรษฐกิจไทย แจกเงิน 3,000 บาท ให้ช้อปของกินของใช้
นายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการสภาพัฒนทหารเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ จากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ ศบศ. ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่า ศบศ.เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2 มาตรการหลัก โดยมาตรการแรกเป็นมาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ มีวงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท สำหรับวัตถุประสงค์หลักของมาตรการนี้ ก็เพื่อช่วยเหลือประชาชน ลดค่าครองชีพ ส่งเสริมการบริโภค พร้อมกับช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยทั่วไป ที่ครอบคลุมไปถึงผู้ประกอบการหาบเร่แผงลอย
ส่วนรายละเอียดเบื้องต้นของโครงการดังกล่าวมีดังนี้
- รัฐบาลจะช่วยค่าใช้จ่ายร้อยละ 50 ในวงเงินไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน
- หากได้รับเงิน 3,000 บาท จะให้เวลาใช้ 3 เดือน โดยจะกำหนดให้ใช้วันละ 100-250 บาท
- เมื่อได้สิทธิจะนำเงินไปใช้กับร้านค้าหาบเร่แผงลอยที่มาลงทะเบียน ทั้งยังเปิดให้ซื้อของในร้านค้าเซเว่น และในห้างสรรพสินค้าได้
- การซื้อของจะเป็นแบบร่วมจ่าย โดยผู้ซื้อจะจ่าย 50% และรัฐจะจ่ายให้ 50%
- ผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน ประมาณ 15 ล้านคน
สำหรับกลุ่มร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการจะมุ่งเน้นไปที่ร้านค้ารายย่อยทั่วไป ซึ่งจะครอบคลุมไปถึง ผู้ประกอบการหาบเร่ แผงลอย ประมาณ 80,000 ร้านค้า ผ่านกลไกการดำเนินงานผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงการคลังไปจัดทำรายละเอียดโครงการเพื่อนำเสนอต่อ ศบศ. ในอีก 2 สัปดาห์ เพื่อเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี โดยคาดว่า โครงการนี้จะเริ่มได้ในเดือนตุลาคม 2563 นี้
ทั้งนี้ รัฐบาลจะใช้เงินกู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจในโครงการนี้จำนวน 4.5 หมื่นล้านบาท ใช้ในโครงการนี้ เมื่อรวมกับที่ผู้ได้สิทธิต้องออกด้วย จะทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบ 9 หมื่นล้านบาท
มาตรการการจ้างงาน
อีกหนึ่งมาตรการที่ ศบศ.เห็นชอบคือ มาตราการการจ้างงานสำหรับเด็กจบใหม่ โดยรัฐบาลจะสมทบจ่ายกับนายจ้าง เป็นระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2563 – ต.ค. 2564 วัตถุประสงค์หลักเพื่อสนับสนุนการจ้างงานผู้จบการศึกษาใหม่ใน 3 กลุ่ม ได้แก่ ระดับปริญญาตรี ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) รวมจำนวน 260,000 อัตรา วงเงินรวม 2.3 หมื่นล้านบาท สำหรับอัตราจ้างตามวุฒิการศึกษาดังนี้
- ปริญญาตรี เดือนละ 15,000 บาท
- ประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.) เดือนละ 11,500 บาท
- ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) เดือนละ 9,400 บาท
รัฐบาลจะให้การสนับสนุนเงินค่าจ้าง ร้อยละ 50 ของเงินเดือนตามวุฒิการศึกษา สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาทต่อคนต่อเดือน แต่จะอยู่ภายใต้เงื่อนไขสำคัญคือนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการจะต้องอยู่ในระบบประกันสังคม มีการยืนยันตัวตนผ่าน กระทรวงแรงงาน และต้องมีเงื่อนไขเลิกจ้างลูกจ้างเดิมไม่เกินกว่าร้อยละ 15 ภายในระยะเวลา 1 ปี (กรณีที่ลูกจ้าง ลาออกในระหว่างโครงการ นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการสามารถหาลูกจ้างใหม่ทดแทนได้) ขณะที่ ลูกจ้างที่จะเข้าร่วมโครงการจาเป็นต้องมีคุณสมบัติดังนี้ (1) มีสัญชาติไทย และ (2) อายุไม่เกิน 25 ปี หรืออายุเกิน กว่า 25 ปี ซึ่งสาเร็จการศึกษาในปี 2562 หรือปี 2563
หากคุณพ่อคุณแม่อยากรู้ว่าโครงการดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ มีรายละเอียดอย่างไร แนะนำให้ติดตามในแฟนเพจ Amarin Baby & Kids หากมีข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อไหร่ จะรีบมาอัปเดตให้ทราบกันอย่างแน่นอนค่ะ
อ้างอิงข้อมูล : bangkokbiznews และ posttoday
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
ผู้ประกันตนได้เฮ ครม. ไฟเขียวลดหย่อน เงินสมทบประกันสังคม เหลือ2% นาน 3 เดือน
ลงทะเบียนผู้สูงอายุ ปี 64 ใกล้เปิดรับลงทะเบียนแล้ว อายุ 60 ปีขึ้นไปเตรียมตัวเลย