ค่าลดหย่อน เป็นหนึ่งองค์ประกอบในการคำนวณภาษีที่กฎหมายกำหนดให้นำไปหักออกจากเงินได้ได้อีกหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว โดยมีการหักลดหย่อนกรณีต่าง ๆ แตกต่างกันออกไป ซึ่งนอกจากการเพิ่มค่าลดหย่อน กับการ ลูกคนที่ 2 – ค่าฝากครรภ์ – ค่าคลอด สำหรับคนที่มีครอบครัวควรรู้เรื่องเกี่ยวกับค่าลดหย่อนอื่นๆ นอกเหนือจาก การเพิ่มค่าลดหย่อน ข้างต้นนี้ นั้นก็เพื่อไม่ให้เสียสิทธิไป โดยมีรายการค่าลดหย่อนที่เกี่ยวข้องกับคนมีครอบครัว ดังนี้
กรณีบุคคลธรรมดา หรือผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี
>> ผู้มีเงินได้ 60,000 บาท
>> คู่สมรส (ไม่มีเงินได้) 60,000 บาท
>> ผู้มีเงินได้หรือคู่สมรสต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ ให้หักลดหย่อนรวมกันได้ ไม่เกิน 120,000 บาท
>> ลูกที่ชอบด้วยกฎหมายและลูกบุญธรรม หักค่าลดหย่อนได้คนละ 30,000 บาท ต้องเข้าเงื่อนไข ดังนี้
- ลูกที่ชอบด้วยกฎหมาย หักลดหย่อนได้ไม่จำกัดจำนวน
- ลูกบุญธรรม หักลดหย่อนได้ไม่เกิน 3 คน
- กรณีมีลูกที่ชอบด้วยกฎหมายที่มีชีวิตอยู่จำนวนตั้งแต่ 3 คน จะนำบลูกบุญธรรมมาหักอีกไม่ได้
- กรณีมีลูกที่ชอบด้วยกฎหมายมีจำนวนไม่ถึง 3 คน ให้นำลูกบุญธรรมมาหักได้รวมกับลูกที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่รวมกันต้องไม่เกิน 3 คน
ลูกที่นำมาหักลดหย่อนต้องไม่มีเงินได้ตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป และเข้าหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
- เป็นผู้เยาว์
- มีอายุไม่เกิน 25 ปี และกำลังศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยหรืออุดมศึกษา
- เป็นผู้ที่ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถอันอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดู
การนับจำนวนลูก ให้นับเฉพาะลูกที่มีชีวิตอยู่ตามลำดับอายุสูงสุดของลูก โดยนับรวมลูกที่อยู่ในเกณฑ์ได้รับการลดหย่อนด้วย
>> ค่าอุปการะเลี้ยงดูพ่อแม่ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูของผู้มีเงินได้ โดยพ่อแม่ต้องมีเงินได้พึงประเมินในปีภาษีที่ขอหักลดหย่อนไม่เกิน 30,000 บาท หักค่าลดหย่อน คนละ 30,000 บาท และสามารถหักลดหย่อนสำหรับพ่อแม่ของคู่สมรสได้อีกคนละ 30,000 บาท
>> ค่าเบี้ยประกันชีวิต (กรมธรรม์อายุ 10 ปีขึ้นไป) ของผู้มีเงินได้หักค่าลดหย่อนและได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้เท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท ทั้งนี้ หากคู่สมรสมีการประกันชีวิต และความเป็นสามีภริยาได้มีอยู่ตลอดปีภาษี ผู้มีเงินได้มีสิทธิหักลดหย่อน สำหรับเบี้ยประกันชีวิตของคู่สมรสที่ไม่มีเงินได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาท แต่หากสามีภริยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้
(ก) ถ้าความเป็นสามีภริยามิได้มีอยู่ตลอดปีภาษีที่ได้รับยกเว้นภาษี ให้สามีและภริยาซึ่งเป็นผู้มีเงินได้ต่างฝ่ายต่างได้รับยกเว้นภาษีตามจำนวนที่จ่ายจริง เฉพาะส่วนที่เกิน 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 90,000 บาท ซึ่งไม่เกินเงินได้พึงประเมินของแต่ละคนหลังจากหักค่าใช้จ่าย ตามมาตรา 42 ทวิ ถึง มาตรา 46 แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว
(ข) ถ้าความเป็นสามีภริยาได้มีอยู่ตลอดปีภาษีที่ได้รับยกเว้นภาษีและภริยาไม่ใช้สิทธิแยกยื่นรายการและเสียภาษีต่างหากจากสามีตามมาตรา 57 เบญจ แห่งประมวลรัษฎากร ให้สามีและภริยาซึ่งเป็นผู้มีเงินได้ต่างฝ่ายต่างได้รับยกเว้นภาษีตามจำนวนที่จ่ายจริง เฉพาะส่วนที่เกิน 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 90,000 บาท ซึ่งไม่เกินเงินได้พึงประเมินของแต่ละคนหลังจากหักค่าใช้จ่าย ตามมาตรา 42 ทวิ ถึงมาตรา 46 แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว
(ค) ถ้าความเป็นสามีภริยาได้มีอยู่ตลอดปีภาษีที่ได้รับยกเว้นภาษีและภริยาใช้สิทธิแยกยื่นรายการและเสียภาษีต่างหากจากสามี ตามมาตรา 57 เบญจ แห่งประมวลรัษฎากร ให้สามีและภริยาซึ่งเป็นผู้มีเงินได้ต่างฝ่ายต่างได้รับยกเว้นภาษีตามจำนวนที่จ่ายจริง เฉพาะส่วนที่เกิน 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 90,000 บาท ซึ่งไม่เกินเงินได้พึงประเมินของแต่ละคนหลังจากหักค่าใช้จ่าย ตามมาตรา 42 ทวิ ถึงมาตรา 46 แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว
>> ค่าเบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดาของผู้มีเงินได้และคู่สมรส หักค่าลดหย่อนเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท ทั้งนี้ บิดามารดาของผู้มีเงินได้และคู่สมรสต้องไม่มีเงินได้พึงประเมินในปีภาษีที่ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้เกิน 30,000 บาท
อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!
- ลดหย่อนภาษี 2560 เพิ่มสิทธิลดหย่อนสามี-ภรรยาและลูกเป็น 2 เท่า
- มีลูกคนที่ 2 เป็นต้นไปได้ ค่าลดหย่อนบุตร เพิ่มจากเดิมเป็น 30,000 บาท
- แม่ดีใจได้! รัฐเตรียมขยายสิทธิ ให้ลาคลอด ได้ 6 เดือน
- กระทรวงสาธารณสุข ชวนคนไทยมีลูกเพื่อชาติ
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.rd.go.th