เมื่อได้รับบัตรคนจน หรือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะสามารถนำไปทำอะไรได้บ้าง ?
อันดับแรก มาทำความเข้าใจแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากบัตรคนจน หรือ เจ้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ของผู้มีรายได้น้อย เบื้องต้นก่อน โดยบัตรคนจน นี้ มีอายุ 5 ปี เป็นบัตรชิปการ์ดใช้รูดผ่านเครื่องรับบัตรอัตโนมัติ หรือ EDC
ประชารัฐสวัสดิการ คือ การให้วงเงินใน บัตรคนจน 200-300 บาทต่อเดือน สำหรับ
- นำไปใช้เป็นส่วนลดหรือใช้รับสวัสดิการรัฐ เช่น ส่วนลดค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ารถเมล์ รถไฟ และสามารถเพิ่มหรือลดสวัสดิการได้
- นำไปซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ในร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านค้าอื่น ๆ ด้วยวิธีการจ่ายเงินง่ายๆ ผ่านเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ของหน่วยงานหรือร้านค้าที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด จากนั้นก็จะได้ใบเสร็จเป็นแสดงยอดที่ใช้จ่ายไปและยอดคงเหลือในบัตรออกมา
โดยเมื่อชำระค่าสินค้าและบริการแล้ว วงเงินจะลดลงตามยอดที่ใช้จ่าย และถึงรอบวันที่ 1 ของทุกเดือนนั่นเอง (ยกเว้น วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม ทุกวันที่ 1 ของทุก 3 เดือน)
>> ในกรณีที่สินค้าที่ซื้อ มีราคาเกินกว่าเงินที่อยู่ใน บัตรคนจน ก็สามารถเติมเงินเข้าไปใน บัตรคนจน / บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้ผ่านบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Money ของธนาคารกรุงไทยได้
*หากใครนึกภาพไม่ออกให้นึกถึงวิธีการ บัตรเครดิต+บัตร ATM ที่แสนสะดวกสบายในการจ่ายเงิน เพียงแค่รูดบัตรผ่านเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ เครื่อง EDC ไปเลย
รายละเอียดของสิทธิและการใช้บัตรคนจน
การช่วยเหลือของโครงการผู้มีรายได้น้อยบัตรคนจน นี้จะแยกเป็น 2 ส่วน คือ
- ส่วนแรกจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ
- ส่วนที่สองจะช่วยเหลือในเรื่องค่าใช้จ่ายการเดินทาง
โดยในส่วนแรก…
1.) ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ
ผู้ถือ บัตรคนจน / บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะสามารถซื้อสินค้าต่างๆ ตามที่กำหนด จากร้านธงฟ้าประชารัฐ ได้ใน 3 หมวดใหญ่ๆ ประกอบด้วย
- สินค้าอุปโภค บริโภค เช่น หมวดอาหารสด, หมวดอาหารและเครื่องดื่ม, หมวดของใช้ประจำวัน, หมวดยารักษาโรค
- สินค้าเพื่อการศึกษา เช่น เครื่องแบบนักเรียน และ เครื่องเขียน อุปกรณ์การเรียน
- สินค้าเพื่อเกษตรกรรม เช่น ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ
ซึ่งรัฐบาลจะให้วงเงินช่วยเหลือใน บัตรคนจน / บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไปซื้อสินค้าต่างกัน สำหรับกลุ่มคนที่ต่างกัน คือ
- กลุ่มที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินจำนวน 300 บาทต่อเดือน (หรือ 3,600 บาทต่อปี)
- กลุ่มที่มีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป แต่ไม่กิน 100,000 บาท จะได้รับเงินจำนวน 200 บาทต่อเดือน (หรือ 2,400 บาทต่อปี)
นอกจากนี้ ทั้ง 2 กลุ่ม ยังได้วงเงินสำหรับเป็นส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าที่กระทรวงพลังงานกำหนดอีกคนละ 45 บาทต่อ 3 เดือน
**อย่างไรก็ตาม เงินในบัตรจำนวนดังกล่าวจะไม่สามารถนำไปใช้หนี้ที่ค้างชำระกับร้านค้า หรือนำไปซื้อสุรา บุหรี่ได้ เพราะไม่ใช่สินค้าอุปโภคที่จำเป็น แต่สินค้าที่สามารถซื้อได้ เช่น ข้าวสาร ผงซักฟอก ยาสีฟัน ชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน และปุ๋ยเคมีกรณี
ส่วนที่สอง…
2.) ช่วยลดค่าใช้จ่ายการเดินทาง
ประกอบด้วย ค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า รถร่วมของ บขส. และรถไฟ โดยเงินช่วยเหลือในบัตรคนจนที่ผู้มีรายได้น้อย ได้รับ
- ค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า จำนวน 500 บาทต่อเดือน (ใช้ชำระค่าโดยสารด้วยระบบ e-Ticket)
- ค่าโดยสารรถ บขส. วงเงินไม่เกิน 500 บาทต่อเดือน
- ค่าโดยสารรถไฟ วงเงินไม่เกิน 500 บาทต่อเดือน
โดยรถโดยสารที่ร่วมโครงการจะทำการติดตั้งอุปกรณ์ e-Ticket (อี-ทิกเก็ต) เพื่อใช้สำหรับคิดเงินค่าโดยสารจาก บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพียงแค่แตะเบาๆ ก็สามารถจ่ายค่าโดยสารไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
**ทั้งนี้ วงเงินช่วยเหลือในบัตรคนจน แต่ละส่วนจะแยกออกจากกันอย่างชัดเจน ไม่นำมารวมกัน
อ่านต่อ >> “เช็กจุดบริการที่คุณพ่อคุณแม่สารมารถใช้สิทธิบัตรคนจนได้” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่