คุณแม่แอนเล่าให้เราฟังว่า “เริ่มต้นจากน้องภูริอยากได้โน้ตบุ๊ก แม่จึงบอกว่าถ้าหนูอยากได้ก็ต้องหารายได้เสริม เราจึงเริ่มสอนการเก็บออมให้เขา ด้วยการคุยกันและนั่งหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตว่าจะปลูกอะไรดี ที่เริ่มต้นปลูกผักเพราะบ้านเราชอบปลูกต้นไม้อยู่แล้วเป็นทุนเดิม” แม่แอนเล่า “สำหรับลูกค้าของเราส่วนใหญ่ คือบรรดาคุณป้า ที่ทำงานของญาติ นอกจากนี้บางส่วนแม่ก็เอาไปฝากขายไว้กับร้านของคุณยาย รวมถึงร้านหมูกระทะแถวบ้าน ซึ่งรายได้ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มปลูกมาจนถึงตอนนี้ก็ 5,000 บาทแล้วค่ะ”
“ต้นอ่อนต้องรดน้ำ 2 ครั้งครับ เช้ากับเย็น เลี้ยงง่ายมากๆ เลย คุณแม่เป็นคนสอน ขนาดน้องผมยังทำได้ เด็กตัวเปี๊ยกก็ปลูกได้ พี่ดูสิ” น้องภูริชี้ให้ดูต้นอ่อนผักบุ้งที่งอกอยู่บนพื้น จากฝีมือน้องสาวคนเล็กที่แอบโปรยลงดินไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ “
“ภูริเป็นเด็กที่ชอบวาดรูป และเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ แต่แม่จะจำกัดให้เขาดูเพียงวันละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ทีเหลือก็ใช้เวลากับการดูแลแปลง ตั้งแต่เราเริ่มปลูกผัก เขาจะรู้แล้วว่าเขามีหน้าที่ทำอะไร รู้ว่าควรเก็บเงินอย่างไร และไม่ใช่แค่ปลูกผักอย่างเดียว ด้วยความที่เราทำงานด้านออกแบบผลิตภัณฑ์ เลยเริ่มสอนให้ภูริออกแบบโลโก้ ทำแพ็คเกจ เองด้วย ผักของเราจึงมีสัญลักษณ์และชื่อจำง่ายคือ เด็กปลูกผัก จำหน่ายในราคาถุงละ 15 บาท ซึ่งรายได้ที่เข้ามาเขายังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ต้องคอยสอนอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่สิ่งหนึ่งที่เขาได้จากการปลูกผักนี้ คือรู้จักความรับผิดชอบ ด้วยการรดน้ำต้นอ่อนทุกวัน ” ระหว่างนี้ภูริก็พาพวกเราเลาะรั้วไปดูรถเกี่ยวข้าวหลังบ้าน และบรรดานกที่ตกใจเสียงเครื่องยนต์จนพากันบินหนีขึ้นฟ้า ทีนี้เราก็เข้าใจแล้วว่าศัตรูพืชตัวร้ายนั้นบินข้ามมาจากทุ่งนาหลังบ้านนี่เอง
ผมเป็นเด็กขายผักคร้าบบ
น้องภูริ – ภูริ ทองป้อง อายุ 8 ปี โรงเรียนสากลศึกษาบางบัวทอง
คุณแม่อัญชลี หิรัณยรัชต์
มีจำหน่ายที่ เด็กปลูกผัก