ทักษะชีวิต หมายถึง ความสามารถที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความหมายไปเรื่อยๆ โดยไม่ยอมแพ้ ประกอบด้วยความสามารถในการมองไปยังอนาคต เห็นภาพฝันของตนเอง อยากได้อะไร อยากเป็นอะไร รู้จักวางแผนไปถึงอนาคตนั้น กล้าตัดสินใจทำตามแผนแม้ว่าแผนจะไม่ดีที่สุด ตัดสินใจไปแล้วหากผิดพลาดหรือไม่ดีพอก็ยอมรับผิด ไม่ตีโพยตีพายหรือโทษคนอื่นโทษพ่อแม่ รู้จักปรับแผน เปลี่ยนแผน เปลี่ยนเส้นทางเดิน ลงมือปฏิบัติการอีกครั้งหนึ่ง พลาดหรือล้มก็นอนพัก ไม่ยอมแพ้แล้วลุกขึ้นใหม่ได้อีก เป็นเช่นนี้เรื่อยไป ทักษะชีวิตเป็นของฝึกได้ด้วยการฝึกทำงานบ้าน ซึ่งการศึกษาในศตวรรษที่ 21 คือไม่สอน แต่ฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาด้วยความรู้ แต่การศึกษาบ้านเราไม่มีให้อีกเช่นกัน การสอนหนังสือและท่องสอบเอาชนะกันไม่ฝึกทักษะชีวิต พลาดก็ฆ่าตัวตาย
วกกลับมาเรื่องอุปกรณ์ไอที มีความสำคัญมาก ดีกว่าและเร็วกว่าห้องสมุดหรือหนังสือแน่ๆ (ถึงอย่างไรห้องสมุดและหนังสือยังมีประโยชน์อยู่) ปัญหาคือเรากำลังเผชิญปัญหาว่าเด็กไทยมิได้ใช้ไอทีเพื่อพัฒนาชีวิตของตนเอง ในทางตรงข้ามกลับใช้ไอทีไปกับกิจกรรมที่ไม่มีประโยชน์หรือไม่ตรงประเด็น (irrelevant) เสียมาก เมื่อวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของการใช้ไอทีไม่ชัดเจนเสียแล้ว ของเล่นเสริมทักษะหรือ gadget ต่างๆ ก็จะกลายเป็นของฟุ่มเฟือย คุณพ่อคุณแม่ก็บริหารเงินภายใต้หัวข้อสิ่งฟุ่มเฟือย หากวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของการใช้ไอทีชัดเจน ของเล่นเสริมทักษะหรือ gadget ต่างๆ ก็จะกลายเป็นของจำเป็น คุณพ่อคุณแม่ก็บริหารเงินภายใต้หัวข้อสิ่งจำเป็นได้ครับ
เรื่อง : นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ จิตแพทย์แผนกจิตเวช โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
ภาพ : Shutterstock