ไม่อยากให้ลูกติดจอ เราก็ต้องคอยหาอะไรสนุกๆให้ลูกทำ และควรเป็นกิจกรรมที่ลูกใช้เวลากับเราได้นานๆ ยิ่งถ้าเราสนุกไปด้วยกันได้ มันจะกลายเป็นกิจกรรมครอบครัวที่ติดหนึบกันทั้งคุณพ่อคุณแม่และคุณลูก แต่กิจกรรมแบบนั้นก็ใช่จะหาได้ง่ายๆ แต่ก็โชคดีที่เราก็ค้นพบอีก 1 ทางเลือกและมาเล่าสู่กันฟัง แถ่น แทน แท้นนนนนน นั่นคือ บอร์ดเกม
บอร์ดเกม หรือ เกมกระดานเป็นกิจกรรมที่เราค้นพบโดยบังเอิญว่าเด็กวัย 4 ขวบกว่าก็เล่นได้อย่างสนุกสนานแล้ว (จริงๆ อาจจะเล่นได้ตั้งแต่เด็กกว่านั้นหรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจ แต่ผมเอาเจ้าลูกชายเป็นเกณฑ์) จากเดิมเราเข้าใจว่า บอร์ดเกม ต้องเด็กโตๆ จึงจะเข้าใจ
การเล่นบอร์ดเกมครั้งแรกของพี่ปูนปั้นเกิดจากเราอยากไปเดินเล่นที่ อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ ช่วงที่เพิ่งเปิดปีแรก แล้วเราก็เลยไปที่ร้านบอร์ดเกมแถวนั้น เพื่อลองดูว่าพี่ปูนปั้นอยากลองเล่นจริงมั้ย เพราะตอนเล่าให้ฟัง เจ้าปูนปั้นบอกว่าอยากไปลองเล่นมาก แล้วก็ปรากฏว่า เมื่อได้ลองแล้วติดใจทำให้สัปดาห์ต่อมาก็ต้องพาไปอีก เราก็เลยอยากชวนคุณพ่อคุณแม่ลองพาลูกไปลองเล่นบอร์ดเกมกัน
ในการเล่น บอร์ดเกม ครั้งแรกๆ การเลือกที่จะไปเล่นตามร้านมีข้อดีคือ มีเกมส์ให้เลือกหลากหลาย และที่สำคัญพนักงานตามร้านจะเลือกเกมส์ที่เหมาะกับวัยของเด็ก เพื่อไม่ให้ยากเกินไป เพราะการที่เด็กลองอะไรที่ไม่ถูกใจและรู้สึกว่ายากเกินไป อาจจะทำให้เลิกสนใจไปเลย แต่ถ้าลองแล้วชอบ คราวนี้ยาวเลยฮะ นอกจากนั้นการไปเล่นตามร้านก่อนจะได้ไม่เสียเงินซื้อเกมส์ที่ลูกอาจจะไม่ชอบมาฟรีๆ
1.Spinderella
การเล่น บอร์ดเกม ฝึกอะไรได้มากกว่าสร้างไหวพริบ อย่างบอร์ดเกมแรกที่ทำให้พี่ปูนปั้นถูกใจและเชื่อว่าเด็กๆ เมื่อได้ลองน่าจะชอบ ชื่อ Spinderella เป็นเกมส์โยนลูกเต๋าแล้วเดิน แต่ความสนุกอยู่ที่จะมีการบังคับเจ้าแมงมุมโดยใช้แม่เหล็กในการควบคุมชักรอกลงมากินเบี้ยคู่แข่งซึ่งเป็นไฮไลท์ความสนุกของเด็กๆ จะเห็นว่าเกมส์ง่ายๆ แต่ฝึกทั้งการควบคุมกล้ามเนื้อ การกะระยะ เรียนรู้คุณสมบัติของแม่เหล็ก รวมไปถึงการหัดเรียนรู้การเล่นตามกฏกติกาได้ด้วย
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากได้ไปเล่นบอร์ดเกมตามร้าน ครั้งหนึ่งร้านอาหารที่เราชอบร้านหนึ่งมีจัดกิจกรรม ‘เล่นบอร์ดเกมหัวค่ำถึงเที่ยงคืน’ ในช่วงวันหยุดสงกรานต์ เราก็เลยพาพี่ปูนปั้นไปที่ร้านตามคำเรียกร้อง พอไปถึงที่ร้าน เราถึงทราบว่า กิจกรรมพิเศษนั้น จัดโดยเหล่ามิชชันนารีหนุ่มสาวที่มาทำงานเพื่อสังคมในไทย เราก็คิดในใจว่า ‘เอาหละสิเล่นกับต่างชาติ พี่ปูนปั้นจะยอมเล่นมั้ย’ ปรากฏว่าพี่ปูนปั้นพยักหน้าและก็เดินไปเล่นกับพี่ๆ แม้พี่ๆ เหล่านั้นจะพูดไทยได้คล่องปรื๋อ แต่ผมก็ขอให้เขาพูดอังกฤษกับพี่ปูนปั้นตลอด มีเพียงเกมส์แรกที่พี่ปูนปั้นขอให้ป๊าเล่นเป็นเพื่อนด้วย จากนั้นเกมส์ถัดๆ มา พี่ปูนปั้นก็ไปนั่งเล่นกับพี่ๆ เอง โดยป๊าก็นั่งเม้าท์กับมิชชันนารีหนุ่มสาวเหล่านั้นว่า มาทำอะไรกันบ้าง ตอนเลิกเล่นและกลับบ้าน ก็ประมาณ 3 ทุ่มกว่าได้ พี่ๆ ที่เล่นเกมส์ด้วยและเจ้าของร้านต่างมาชมพี่ปูนปั้นว่า เก่งจังที่กล้าเล่นกับฝรั่งคนเดียวทั้งๆ ที่เพิ่งเจอและต้องฟังกฏกติกาการเล่นเอง ซึ่งจากครั้งนั้นก็ได้เกมส์สนุกๆ ติดมาในลิสต์อีก 2 เกมส์ ซี่งป๊าก็จัดการสอยจาก amazon ให้มาส่ง แม้ทั้ง 2 เกมส์จะเหมาะกับเด็กที่วัยโตกว่าพี่ปูนปั้น แต่พี่ปูนปั้นก็เล่นได้สบายและชอบมาก แปลว่าเด็กๆ ท่านอื่นก็เล่นได้เหมือนกัน โดย 2 เกมส์นั้นคือ Splendor และ Patchwork
2. Splendor
Splendor เป็นเกมส์การซื้อขายเพชรที่สนุกมาก ต้องใช้ไหวพริบวางแผน ตั้งแต่การวางแผนหยิบเหรียญ การวางแผนว่าจะซื้อชิ้นไหน ที่จะทำให้ได้เปรียบในการแข่งขันเป็น และได้รู้จักการคำนวณบวกลบง่ายๆ ซึ่งคุณจะรู้ได้เลยว่า ถ้าลูกเล่นเป็นและชอบ แสดงว่าลูกหัดวางแผนเป็น ซึ่งรับรองว่า คุณจะแอบสนุกและภูมิใจมากๆ ถ้าเล่นแพ้ลูก
3. Patchwork
Patchwork เป็นเกมส์ที่มีต้นกำเนิดมาจากการเย็บผ้า และก็เช่นเดียวกับ Splendor ที่เป็นหนึ่งในบอร์ดเกมยอดนิยม การวางแผนการใช้เหรียญ การวางแผนการเดิน การวางแผนการวางลายผ้า ต้องประกอบเข้าด้วยกันให้ดี เพราะเกมส์จะแพ้ชนะต้องเอาคะแนนจากหลายส่วนมารวมกัน การได้เห็นเด็กอนุบาลเด็กหรือประถมต้นฝึกสมองแบบนี้ คุณจะรู้ว่าดีกว่าไปเรียนพิเศษเป็นไหนๆ
4. Monopoly
ตอนนี้พี่ปูนปั้นอยู่ ป.1 แล้ว และชอบเล่น Monopoly มากๆ ใครจะคิดว่าการเล่น Monopoly เกมส์นึง จะสามารถทำให้เด็กแอบทำแบบฝึกหัดบวกลบเลขไปเป็น 10-20 ข้อ โดยไม่บ่น เพราะการจะซื้อ จะขาย จะจ่ายค่าปรับ ผมจะมีกระดาษและดินสอไว้ให้ แต่ต้องบวกลบเอง หยิบเงินทอนเงินจากธนาคารเอง แค่นี้ก็คุ้มมากแล้ว เล่นเกมส์แต่เหมือนแอบให้ลูกทำแบบฝึกหัดเลขไปด้วย นอกจากนั้น ยังสามารถให้หัดอ่านชื่อที่สถานที่ต่างๆบนโฉนดเป็นการฝึกอ่านไปในตัวได้ด้วย
จริงๆ ตอนนี้ที่บ้านมีบอร์ดเกมอยู่เกือบ 10 อย่างแล้วก็วนเล่นไป เด็กที่หัดเล่นเกมส์ มันฝึกไหวพริบไปในตัว และใครคิดว่า เด็กจะสนุกแต่กับเกมส์ที่อยู่บนมือถือเท่านั้นหละก็ ผมบอกได้ว่า คุณคิดผิด …. อยู่ที่คุณมีเวลาให้ลูก เล่นกับลูกมั้ยต่างหาก
>>แวะไปดู รอยยิ้มหวานฉ่ำ ที่มีแจกฟรีทุกวันได้ที่เฟซบุ๊ค
หมุนรอบลูก – พี่ปูนปั้น กับ น้องปั้นแป้ง นะครับ<<
บทความน่าสนใจอื่นๆ
“ลูกทำผิด” เทคนิคสอนลูก แบบไม่ต้อง “ทำโทษ”
โรงเรียนทางเลือก เรียนรู้ตามทางของลูก
“ลูกช่างถาม” รับมืออย่างไร ไม่ขัดพัฒนาการลูก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่