ครูบาอาจารย์ในการเลี้ยงลูกของครอบครัวเราท่านหนึ่ง คือ คุณหมอประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ เรื่องหนึ่งที่ท่านสอนคือ เทคนิค ฝึกวินัยการกินให้ลูก ที่เราเอามาใช้ได้ผลและอยากมาเล่าให้ฟังคือ ‘การกำหนดเวลากินข้าวให้ลูก’
เรื่องนี้น่าจะเป็นปัญหาปวดหัวของหลายๆ ครอบครัว ซึ่งเราก็เจอปัญหานี้เช่นกัน สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่เคยแวะเวียนไปที่เพจ ‘หมุนรอบลูก’ อาจจะคิดว่า ปูนปั้นกับปั้นแป้ง ดูไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องทานข้าวนี่นา ดูเป็นเด็กเจริญอาหาร แต่เด็กก็คือเด็กครับ บทจะไม่กินจะเล่นก็จะงอแงได้เสมอ วันหยุดเนี่ยบ่อยทีเดียวที่ พี่ปูนปั้นหรือเจ้าปั้นแป้งจะหม่ำมื้อหนึ่งเป็นชั่วโมงกว่าจะหมด ซึ่งเราก็อยากจะปรับพฤติกรรมตรงนี้ ฝึกวินัยการกินให้เขาเป็นเด็กมีระเบียบ ซึ่งคุณหมอแนะนำไว้ว่า
เทคนิค ฝึกวินัยการกินให้ลูก โดยคุณหมอประเสริฐ
‘ให้เวลาครึ่งชั่วโมง กินไม่หมดก็เก็บ แล้วก็งดขนมจนกว่าจะมื้อถัดไป’
ครั้งแรกที่เราทดลอง ฝึกวินัยการกินให้ลูก ด้วยวิธีคุณหมอ เราก็บอกกฎกติกากับลูก ถามเขาว่าเข้าใจและยอมเห็นด้วยมั้ย เราอธิบายพร้อมบอกประโยชน์ว่าเวลาเรามีจำกัด กินหมดเร็วก็มีเวลาเล่นเยอะ กินหมดช้าก็เวลาเล่นเหลือน้อยลง
แต่ผลในการทดลองครั้งยอมรับว่า ‘ค่อนข้างล้มเหลว’ คือมีมื้อที่ทำสำเร็จน้อยกว่ามื้อที่ทำไม่สำเร็จ สาเหตุที่ล้มเหลวไม่ใช่ว่าวิธีการไม่ดี แต่เพราะเราเองที่ใจอ่อน ซึ่งก็มาจาก 2 ประเด็นหลักๆ คือ
- เลยครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ลูกขอต่อเวลา เราก็ให้เพราะกลัวลูกไม่อิ่ม
- เก็บจานเป๊ะ 30 นาที แต่พอลูกขอขนมก็ใจอ่อนเพราะกลัวลูกหิว
เมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าปูนปั้นตัวแสบก็รู้ทาง จะบอกกติกายังไง เขาอยากทำก็ทำ ไม่อยากก็ไม่ทำ
จนกระทั่งวันหนึ่ง ปะป๊ากับหม่ามี้คุยตกลงกันอีกรอบว่า เราจะเริ่มใหม่กันอีกครั้งงวดนี้ ‘เราจะเอาจริงแล้วนะ’ เพราะมันไม่ใช่แค่การกินข้าว แต่มันจะเป็นการฝึกระเบียบวินัยในตนเอง หากจัดการได้ในครึ่งชั่วโมง ก็จะสามารถเอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้และจะเป็นสิ่งที่ติดตัวจนโต
อีกทั้งเมื่อกำหนดกติกาแล้ว เมื่อถึงเวลาเก็บก็เก็บก็จะไม่ต้องมาต่อสู้กันบนโต๊ะอาหาร ให้เสียอารมณ์กัน (ซึ่งหลายๆ ครอบครัวก็คงมีประสบการณ์คล้ายกัน ที่อารมณ์หลุดสู้รบกับลูก เพื่อคะยั้นคะยอให้กิน จนกลายเป็นสงครามบนโต๊ะอาหาร)
บทความแนะนำ นวดกดจุดลูกน้อย เพิ่มสูง-แก้ลูกไม่กินข้าว ตามแพทย์จีน
ครั้งที่ 2 ที่เราพยายาาม ฝึกวินัยการกินให้ลูก เช่นเดิมคือ เราก็บอกกฎกติกากับลูก ถามเขาว่าเข้าใจและยอมเห็นด้วยมั้ย แต่ย้ำว่า งวดนี้เราเอาจริงและไม่มีการต่อเวลา ไม่มีขนมให้จนกว่าจะมื้อถัดไปแน่นอน (ช่วงนั้นเราจัดการขนมที่บ้านให้สาบสูญไปจากสารบบด้วย) ซึ่งงวดนี้สัญญาณออกมาดีทีเดียว จากนั้นเราก็ทำเช่นนั้นต่อเนื่องมา
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ที่บอกว่าดีนั้นเป็นอย่างไร เช่น มื้อเช้าวันเสาร์วันหนึ่ง พี่ปูนปั้นหม่ำไม่ทัน เราก็เก็บแล้วก็ไม่ให้ขนม พอสายๆ ออกมาข้างนอก พี่ปูนปั้นก็ถามซ้ำหลายครั้งว่า
“ปะป๊าครับใกล้มื้อเที่ยงหรือยังครับ”
หรือ “เราทานมื้อเที่ยงกันเร็วขึ้นหน่อยไหมครับ”
ตอนนั้นก็ทั้งสงสารแต่ก็ขำ อย่างไรก็ดี ลูกก็ต้องทน (เราเองก็เช่นกัน) แล้วพอมื้อเที่ยงคราวนี้เราได้เห็นการกินเร็วปรื้ดเลย
แต่เด็กก็คือเด็ก มันก็จะมีมื้อ ที่ขี้เกียจกินอีก แล้วก็โดนเก็บจานตอนครบเวลา แต่ข้อดีคือ ระเบียบวินัย และความซื่อสัตย์เกิดขึ้น เพราะมีครั้งหนึ่ง ขณะที่เรากำลังล้างจาน แล้วปั้นแป้งซึ่งทานข้าวหมดแล้ว เราก็อนุญาตให้เขากินนมอัดเม็ดตามที่ขอ และเราได้ยินเสียงพี่ปูนปั้นพูดคุยกับน้องว่า
“พี่ปูนปั้นยังกินไม่ได้นะ หนูหม่ำๆ เนอะ”
ตรงนั้นป๊าล้างมือทันที เดินมาหาปูนปั้น และบอกเขาว่า “ป๊าได้ยินที่เขาพูดนะ” และให้เขาเล่าเรื่องราวการสนทนาของเขากับปั้นแป้งให้ฟัง (ว่าใช่อย่างที่เราเข้าใจไหม) ซึ่งเรื่องราวก็คือ ปั้นแป้งยื่นนมเม็ดแบ่งให้ แต่พี่ปูนปั้นไม่รับ และตอบประโยคที่เราได้ยินนั้นกับน้อง พอเล่าจบป๊าก็บอกเขาว่า “ป๊าภูมิใจมาก” พี่ปูนปั้นทำหน้า งงๆ เล็กน้อย แล้วป๊าก็กอดเขา
จากนั้นส่วนใหญ่เขาก็ทานในกรอบเวลา อย่างต่อเนื่อง แถมบางมื้อพี่เขากินไม่ถึง 15 นาทีก็มี และส่วนใหญ่ก็แถวๆ 20 กว่านาที การจัดการบริหารเวลาดีขึ้น พอหม่ำได้เร็ว จะเล่น จะกินขนมก็สามารถทำต่อได้ตามตกลง ตัวพี่ปูนปั้นกับเจ้าปั้นแป้งเองก็รู้สึกว่า
“กินตรงเวลา สนุกกว่าเนอะ”
>>แวะไปดู รอยยิ้มหวานฉ่ำ ที่มีแจกฟรีทุกวันได้ที่เฟซบุ๊ค
หมุนรอบลูก – พี่ปูนปั้น กับ น้องปั้นแป้ง นะครับ<<
บทความน่าสนใจอื่นๆ
“สุภาษิตสอนพ่อแม่” รับมือ ลูกต่อต้าน โดย พ่อเอก
เป็น “ดาวฤกษ์” หรือ “หลุมดำ” เลี้ยงลูกแบบไหนดี โดย พ่อเอก