บทความนี้ผมอยากจะขอแชร์ประสบการณ์ และวิธีการ เลี้ยงลูกเชิงบวก ของบ้านเรา
หม่ามี๊กับปะป๊ากลับถึงบ้านเมื่อตอนเย็นวันหนึ่ง ภาพห้องนั่งเล่น อยู่ในสภาวะหลังสงครามก็ว่าได้ ของเล่นเกลื่อนและมีเศษกระดาษฉีกขาดอยู่บนพื้นพร้อมกับคำรายงานจิตพิสัยจากคุณยายหลังการถล่มบ้านของพี่ปูนปั้นและปั้นแป้งว่า
“ก่อนที่ปะป๊าหม่ามี๊จะเข้าบ้านพี่ปูนปั้นทำบ้านเละ โยนของ และพี่ปูนปั้นตีน้อง”
สิ่งแรกที่เราทำหลังจากได้เห็นภาพและได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นคืออะไร …. ลองเดากันฮะ แล้วมาแบ่งปันประสบการณ์กัน
เลี้ยงลูกเชิงบวก คุยกับลูกแบบนี้ ไม่ต้องตี ลูกก็เชื่อฟัง
สิ่งแรกคือ ปะป๊าเดินไปหาปูนปั้นคุยกันแบบปกติดังนี้
ปะป๊า : ปูนปั้นครับ ของเล่นมันเกลื่อนไปหมด และมีเศษกระดาษฉีกด้วยเกิดอะไรขึ้นครับ
ปูนปั้น : ปูนปั้นอยากฉีกกระดาษมาล่อมด เพราะมดมันเดินมากินขนม
ปะป๊า : อืมมม ปูนปั้นครับ เราตกลงกันไว้ว่าในครอบครัวเราว่ายังไงนะครับ
ปูนปั้น : เราจะพูดแต่ความจริง
ปะป๊า : ใช่เลย บอกปะป๊าได้มั้ยครับ ว่าทำไมฉีกกระดาษ
ปูนปั้น : ปูนปั้นฉีกเล่นครับ
ปะป๊า : OK เมื่อกี้ทำไมปูนปั้นไม่ตอบอันนี้เอ่ย
ปูนปั้น : ปูนปั้นกลัวปะป๊าดุ
ปะป๊า : ปะป๊าดุแล้วน่ากลัวหรอ
ปูนปั้น : ก็ปะป๊าจะไม่ยิ้ม
ปะป๊า : OK ไม่เป็นไร ปะป๊าไม่ได้จะดุ ปะป๊าเข้าใจ ปูนปั้นคงเล่นสนุกมาก ปูนปั้นเก็บของเล่นให้เสร็จ แล้วเราค่อยมาทำการบ้านและอ่านหนังสือกันมั้ย
ปูนปั้น : ได้ครับ
ปะป๊า : ครั้งนี้ปะป๊าจะช่วยนิดเดียวนะ เพราะปูนปั้นรื้อเองก็ต้องเก็บเองง
(ในระหว่างนั้น ก็ช่วยแค่เล็กๆน้อยๆ แค่ไม่ให้เขาเสียกำลังใจ)
เก็บทีละชิ้น สองชิ้น จนเสร็จ เกลี้ยงพอเก็บของเสร็จเราก็ชมลูกว่าต้องแบบนี้สิ ทำแล้วก็ต้องเก็บเองให้เรียบร้อย “ปะป๊ารู้ว่าพี่ปูนปั้นมีความรับผิดชอบ”เราให้เขาเบรกดื่มน้ำ ขนมเล็กน้อย เพื่อเตรียมการบ้านและเตรียมอารมณ์ให้พร้อม
ปะป๊า : ปูนปั้นครับ ปะป๊ามีเรื่องจะคุยกับปูนปั้นอีกเรื่องนึง ok มั้ย
ปูนปั้น : Ok ครับ
ปะป๊า : เราจะพูดกันแต่เรื่องจริงใช่มั้ยเอ่ย
ปูนปั้น : ใช่ครับ (เอามือตบกันเป็นสัญญา)
ปะป๊า : ปูนปั้นตีน้องหรอครับ
ปูนปั้น : ครับ
ปะป๊า : ทำไมเอ่ย
ปูนปั้น : เพราะน้องดื้อครับ โยนของ
ปะป๊า : ปูนปั้นไปดึงของจากมือน้อง ตอนน้องเล่นอยู่หรือป่าวครับ
ปูนปั้น : ป่าวครับ
ปะป๊า : Ok ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว เพราะถ้าน้องเล่นอยู่แล้วพี่ปูนปั้นจะไปดึงมาเก็บน้องคงไม่ชอบใจ แต่ถ้าไม่ได้ทำแบบนั้นก็ดีแล้ว ปูนปั้นลองนึกซิ เวลาปูนปั้นดื้อปะป๊าตีมั้ย
ปูนปั้น : ไม่ครับ … แต่บางครั้งก็ตีนะครับ
ปะป๊า : เวลาปะป๊าตี ปะป๊าตีเจ็บมั้ย
ปูนปั้น : ไม่เจ็บครับ
ปะป๊า : ปะป๊าบอกก่อนมั้ยว่าจะตี และทำไมตี
ปูนปั้น : บอกครับ
ปะป๊า : ปะป๊าตีครั้งสุดท้าย นานมากหรือยัง
ปูนปั้น : นานแล้ว จำไม่ได้แล้ว
ปะป๊า : ที่ปะป๊าตีไม่เจ็บ ที่ปะป๊าบอกก่อน เพราะปะป๊าไม่ได้อยากตีลูกไงครับ ปะป๊าแค่บอกให้รู้ว่าอันนี้ไม่ดีนะ ปะป๊าก็เลยตีแบบมือแปะๆใช่มั้ย ให้รู้ไม่ได้ให้เจ็บ ทำไมปะป๊าไม่ตีปูนปั้นรู้มั้ยครับ
ปูนปั้น : เพราะปูนปั้นเป็นเด็กดี
ปะป๊า : นั่นก็ใช่ แต่ที่สำคัญคือ ปะป๊ารู้ว่า เราคุยกันรู้เรื่อง มีอะไรเราก็คุยกันใช่มั้ย ไม่ต้องใช้ตี
ปูนปั้น : (พยักหน้า)
ปะป๊า : แล้วถ้าน้องดื้อปูนปั้นคิดว่าจะใช้วิธีตี หรือ วิธีพูดคุยแบบปะป๊าดีครับ
ปูนปั้น : พูดคุยแบบปะป๊าครับ
เลี้ยงลูกเชิงบวก ด้วยการพูดคุย แทนการตีลูก
- เราเลือกที่ เลี้ยงลูกเชิงบวก โดยจะเริ่มคุยกับเขาด้วยอารมณ์ปกติ ไม่ใช่ขุ่นมัวจากของที่เกลื่อนพื้น เพราะเราต้องรู้จักว่าลูกเราเป็นอย่างไร กรณีปูนปั้น เรารู้ว่า ปกติเล่นเสร็จ เราจะให้เก็บของก่อนจะไปทำอย่างอื่น ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เขา ok เราจึงเลือกคุยเรื่องนี้ก่อน เพราะทำเสร็จ เขาจะได้รับคำชม ได้เบรกจนอารมณ์ปกติ พร้อมที่จะคุยเรื่องอื่นในต่อไป
- พอจบข้อ 1) ได้พัก เราก็ค่อยชวนคุยเรื่องน้อง พอตอนนี้อารมณ์พร้อม ไม่กลัวถูกดุ เพราะเพิ่งทำดีและได้คำชมมาและอารมณ์นิ่ง เขาก็จะพูดด้วยความสบายใจ เข้าใจกัน และเขาไม่รู้สึกว่าโดนตำหนิเรื่องน้อง
พอทุกอย่างอยู่ในภาวะปกติ พี่ปูนปั้นก็เดินเอาของเล่นไปให้น้องเอง ก่อนจะกลับมาทำภารกิจตามสัญญา คือ เราก็ทำการบ้านด้วยกันแบบสนุกสนาน จากนั้นก็ตามด้วย อ่านหนังสือนิทาน 4 เล่มตามที่พี่ปูนปั้นเลือก อารมณ์ดีก็ได้เวลาขึ้นนอน ขึ้นไปเจอน้องก็กอดปล้ำ ฟังเพลงกล่อมนอนและคืนนั้นก็เริ่มความฝันอย่างสวยงาม
>>แวะไปดู รอยยิ้มหวานฉ่ำ ที่มีแจกฟรีทุกวันได้ที่เฟซบุ๊ค
หมุนรอบลูก – พี่ปูนปั้น กับ น้องปั้นแป้ง นะครับ<<
บทความน่าสนใจอื่นๆ
ทำไมลูกกลัวผี สอนลูกไม่ให้ กลัวผี ทำอย่างไร โดย พ่อเอก
4 ประโยชน์ที่ลูกจะได้จากการเล่น “พับกระดาษ”
เทคนิค ฝึกลูกเริ่มดื่ม นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่