10 เคสจริง เลี้ยงลูกดีเกินไป ทำให้เด็กมีปัญหา (ภาคสอง) - amarinbabyandkids

10 เคส เลี้ยงลูกดี แต่กลับทำให้เป็นเด็กมีปัญหา (ภาคสอง)

Alternative Textaccount_circle
event

3.จุดจบสายช็อปพัฒนาการของแม่ฉัน

เรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้ปกครองท่านหนึ่งมาปรึกษาผมหลายๆ อย่าง เกี่ยวกับพัฒนาการลูกของเค้า  ในหลายๆ ครั้งที่ผู้ปกครองท่านนี้พยายามส่งเสริมพัฒนาการของเด็กให้ดีขึ้น สมัยเด็กๆ ก็พาไปเรียน เล่นกีฬา เข้ากิจกรรมหลายๆ อย่าง เพื่อดูว่าลูกตนเองชอบอะไร แล้วให้ตัดสินใจ ตระเวนหากิจกรรมเรียนพิเศษ ดนตรี ศิลปะ กีฬา เพื่อดูว่าลูกชอบกิจกรรมไหน ผมก็เลยถามผู้ปกครองว่าได้บังคับลูกเรียนหรือเปล่า เค้าเล่าว่า ตัวเค้าเองไม่อยากบังคับลูกเรียนหรือทำกิจกรรมมากเกินไป ส่วนใหญ่ก็จะพูดโน้มน้าวใจให้อยากทำมากกว่า สิ่งที่ผู้ปกครองคนนี้ทำเหมือนจะดีนะ แต่มันไม่ใช่อย่างที่คิด เด็กรู้สึกสับสนมากๆ รู้สึกกังวล ผมลองถามเด็กหลายๆ อย่างเกี่ยวกับการตัดสินใจ ปรากฎว่าเด็กตอบไม่ได้เลย ผมก็เลยพอที่จะเดาออกเลยว่า คือ ผู้ปกครองพยายามส่งลูกเรียนสิ่งต่างๆ มากมาย ในช่วงที่เรียนเด็กเกิดความชอบอยากเรียนต่อ แต่ก็โดนผู้ปกครองโน้มน้าวใจให้ไปเรียนแบบอื่นบ้านวนกันไปเรื่อยๆ ให้เด็กเกิดทักษะหลายอย่าง ซึ่งผลลัพธ์มันน่าจะออกมาดี ผมลองให้เด็กแสดงความสามารถด้านต่างๆ ออกมา เด็กก็ทำออกมาได้ดีมากๆ จนเก่งแทบทุกด้านเลยละ คำพูดที่เด็กพูดมามันทำให้ผมรู้สึกสะอึก เด็กพูดว่า หนูไม่เก่งใช่ไหม แม่หนูจึงให้หนูเรียนทุกอย่าง หนูไม่เข้าใจจริงๆ ว่าหนูควรชอบอะไรดี

(บทความแนะนำ ชั่วโมงเรียนพิเศษ แบบแม่ๆลูกๆ)

เลี้ยงลูกดีเกินไป

วิเคราะห์ปัญหาของเด็ก ปัญหานี้เกิดจากที่ผู้ปกครองได้พาลูกไปเรียนเสริมต่างๆ ตั้งแต่เด็ก ประเด็นสำคัญคือ การเรียนเสริม มันไม่ต่อเนื่อง คือเรียนแล้วหยุดไปและไปเรียนอย่างอื่นไปเรื่อย โดยไม่ดูความสามารถของเด็กที่ว่าเด็กเรียนแล้วชอบอะไร ผู้ปกครองต้องการให้ลูกตนเองเก่งทุกด้าน มีต้นทุนที่สูงและเพิ่มโอกาสให้ลูกตัดสินใจมากมาย แต่ในตัวเด็กเองก็แยกไม่ออกว่าตัวเองทำอะไรได้ดีหรือชอบเพราะ ผู้ปกครองให้แต่ข้อมูลที่จะโน้มน้าวจิตใจตัวเด็กเพียงเท่านั้น เด็กจึงเกิดความสับสน ไม่เข้าใจตัวเองว่า ตัวเองชอบอะไรรักสิ่งไหน เพราะทำได้ดีทั้งหมด จึงกังวน หากเป็นอย่างนี้จนโต เด็กจะไม่สามารถตั้งเป้าหมายว่า ตัวเองจะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จได้

4.ฉันมีสัมมาคารวะตลอดแต่ทำไมคนรอบข้างเกลียดฉัน

เคสนี้จริงๆ แล้วหลายอย่างเกิดในภาวะตัวเด็กด้วย คือพ่อแม่เด็กคนนี้เค้าปลูกฝังให้ลูกรู้จัก สวัสดี ขอบคุณ ขอโทษ ปัญหามันอยู่ตรงคำขอโทษ เนี้ยละ ผมได้รับเคสนี้มาจากในโรงเรียนแห่งนึง ผมก็เลยสังเกตพฤติกรรมของเด็กคนนี้ ก็พบว่า เวลาเด็กคนนี้ทำอะไรผิดก็จะขอโทษเสมอ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ปัญหาคือ เด็กคนนี้ชอบแกล้งเพื่อน เช่น เอารองเท้าเพื่อนไปซ่อน พอจับได้ก็บอกครูว่า ผมขอโทษครับ แรกๆ ครูก็ฟังกัน ไม่ว่าอะไรแต่ตอนหลัง การกระทำของเด็กคนนี้ไม่ได้ปรับพฤติกรรมตนเองเลย มีปัญหาชกต่อยกับเพื่อน แกล้งเอาสมุดคณิตศาสตร์ไปซ่อน คือผมเห็นแล้วก็หงุดหงิดมาก จับได้ก็จบด้วยการขอโทษ ครูทุกคนก็ไม่ชอบขี้หน้าเด็กคนนี้ วันหนึ่งก็เรียกพ่อแม่มาพบ ก็มีปากเสียงกัน ก็เด็กมันขอโทษแล้วนี่ ลูกของฉันมีสัมมาคารวะตลอด จะอภัยให้เด็กหน่อยไม่ได้หรอ แต่มันก็หลายครั้งแล้วนะ เด็กคนนี้หลังๆ ก็เอาแต่ร้องไห้ ผมเลยเข้าไปปลอบ ครูครับ ผมผิดตรงไหนละ ผมไม่เข้าใจ แม่ผมก็บอกว่า ทำผิดอะไรก็ขอโทษไม่ใช่หรอ แม่ผมสอนว่าถ้าทำผิดแล้วขอโทษจะได้รับการอภัย แม้กระทั้งสารภาพบาปก็จะได้รับการอภัย (คือเด็กเป็นคริสต์) จริงๆ พ่อแม่ยังไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้เลย

เลี้ยงลูกดีเกินไป

วิเคราะห์ปัญหาของเด็ก ในเรื่องของการมีสัมมาคารวะ บางครั้งต้องสอนให้เข้าใจด้วยว่า มันมีเรื่องของการกระทำมาเกี่ยวข้องด้วย เด็กคนนี้ใช้คำขอโทษเป็นเครื่องมือในการแกล้งคนอื่นและก่อเรื่องไม่ดีและคิดว่าคำขอโทษสามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ จริงๆ แล้วมันมีเรื่องของการกระทำด้วย คำขอโทษใช้กับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่บางครั้งสิ่งที่พ่อแม่สอนคือ การสอนที่ไม่เน้นการกระทำ ไม่ชี้ให้เด็กเห็นผลของการกระทำต่างๆ พอนานเข้าเด็กก็จะไม่เข้าใจ และเครียดว่าทำไมมีแต่คนไม่ชอบ ไม่มีความสุขเพราะคิดไม่ออกนอกจากคำขอโทษ ยังมีวิธีการแก้ปัญหาอื่นๆ อีก

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อ “10 เคส เลี้ยงลูกดี แต่กลับทำให้เป็นเด็กมีปัญหา” คลิกหน้า 3

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up