10 เคสจริง เลี้ยงลูกดีเกินไป ทำให้เด็กมีปัญหา (ภาคสอง) - amarinbabyandkids

10 เคส เลี้ยงลูกดี แต่กลับทำให้เป็นเด็กมีปัญหา (ภาคสอง)

Alternative Textaccount_circle
event

9.หลายคนบอกว่าฉันเก่ง แต่ฉันรู้สึกโง่มากเลย

เรื่องนี้เป็นเคสเด็กที่ผมทำโครงการเพิ่มทักษะเรียนรู้อยู่ เด็กคนนี้เขาเข้ามาปรึกษาผม เค้าบอกกับตัวเองว่า ผมมันโง่มากเลยใช่ไหม ผมมันไม่เก่งเลยใช่ไหม ใจเย็นๆ ครูเข้าใจเธอนะ ระหว่างที่เด็กคนนี้เล่าความทุกข์ในใจให้ผมฟัง ผมฟังแล้วรู้สึกว่า ทำไมนะความต้องการคนเป็นพ่อแม่ไม่เคยที่จะพอใจในสิ่งที่ลูกเป็นเลย เด็กเล่าว่าตอนนั้นว่า ผมสอบได้คะแนน 25 คะแนนเต็ม 30 แล้วพ่อบอกว่าไง พ่อบอกว่า ลูกแค่นี้ก็ดีแล้วนะ แล้วเรื่องที่ยังทำไม่ได้ละ เมื่อไหร่ลูกจะทำได้ ลูกจะอยู่ในสังคมได้ไหม และผมก็ทำงานบ้านทำอะไรช่วยตลอด ผมทำได้ตั้งหลายอย่าง พ่อแม่ก็มักจะพูดเสมอ ทำได้แค่นี้เลย ต่อไปลูกจะอยู่ในสังคมได้อย่างไรละ และก็มีไอ้เรื่องนี้ทำได้ และเรื่องอื่นละ คือทำอะไรพ่อแม่ผมไม่เคยชมสักอย่างเดียว มีแต่ว่ากับว่า ถามจริงครับครู คนเราอยู่ในสังคมได้ คือต้องเก่งทุกอย่าง ทุกด้านใช่ไหม ผมฟังแล้วรู้สึกว่า ทำไมนะการที่เด็กมีความพร้อมในใช้ชีวิต ต้องเตรียมการหนักขนาดนี้เลยหรอ ผมก็ได้แต่นึกอยู่ในใจว่า ทำไมไม่ทำให้เด็กรู้สึกภูมิใจเลยหรอ พ่อแม่หลายคนประสบการณ์เยอะ ผ่านชีวิตมาก็เยอะ แต่การที่จะชมได้เด็กภูมิใจก็เป็นสิ่งจำเป็นเหมือนกัน

(บทความแนะนำ ชมลูกอย่างไรให้ถูกวิธี?)

เลี้ยงลูกดีเกินไป

วิเคราะห์ปัญหาของเด็ก คือพ่อแม่ของเด็กมีความตั้งใจอยากให้ลูกใช้ชีวิตให้ได้ด้วยตนเอง อย่างสบบูรณ์แบบ หมายความว่าบริหารชีวิตได้อย่างดีไม่มีปัญหาเลย โดยไม่สนใจเลยว่าสภาพจิตใจเด็กจะรู้สึกต้อยต่ำเพียงใด พ่อแม่มักกระตุ้นให้ลูกรู้สึกว่า ทุกสิ่งอย่างมันไม่สมบูรณ์แบบ ต้องพยายามต่อทุกเรื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการใช้ชีวิตที่มีรูปแบบต่างๆ ตามประสบการณ์ที่ตนได้รับความยากลำบากมา และป้องกันความผิดพลาดที่ลูกตนเองจะเกิดขึ้นเหมือนกับตนเอง ผลก็คือ เด็กเก่งแต่รู้สึกต้อยต่ำในชีวิตตนเอง

10.คิดบวกๆ +++ ชีวิตฉันมีแต่ความทุกข์

เรื่องทัศนคติของมนุษย์เนี้ย อะไรที่มีมากไปก็ไม่ดีจริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องของเด็กในโรงเรียนคนนึ่ง ที่โดนเพื่อนแกล้งเป็นประจำ จนเด็กรู้สึกไม่อยากมาโรงเรียน ครูส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยเห็น ผมเองก็ไม่รู้เช่นกัน มีอยู่วันหนึ่ง ผมได้ไปเข้าห้องน้ำเด็กนักเรียน คือตอนนั้นมันปวดไม่ไหวจริงๆ ก็ได้ยินเสียงเอะอะ หน้าห้องน้ำ นี่แกเอาเงินมา ถ้าไม่เอามาฉันจะจับแมลงสาบใส่เธอ และก็ได้ยินเสียงกรีดร้อง ผมรีบออกมาดู เด็กคนที่ทำก็กลัวกัน ไม่ทำต่อ ปรากฏว่าแมลงสาบที่ใส่เป็นของปลอม เด็กคนที่ถูกแกล้งร้องไห้หนักมาก ผมจึงพาไปที่โต๊ะทำงานที่ห้องพักครูเพื่อสอบถามเรื่องราวว่า มีความเป็นมาอย่างไร เด็กบอกว่า หนูถูกเพื่อนแกล้งประจำละและฟ้องใครก็ไม่มีใครช่วยให้ดีขึ้นเลย หนูโดนเพื่อนจับขังในห้องน้ำนักเรียน โดนเพื่อนเอาน้ำสาดใส่เสื้อเปียกตอนเย็น ถูกขโมยของทุกอย่าง โดนขีดหนังสือด้วย หนูอยากตายนะครู ผมฟังแล้วรู้สึกว่า แม่ไม่ฟังลูกบ้างเลยหรือ เด็กเล่าต่อ หนูละบอกแม่ทุกครั้ง แม่มักจะพูดว่า ไม่เป็นไรนะลูก เดี๋ยวก็ผ่านไป สู้ๆนะ พอลูกโดนขโมยตัง ก็บอกว่าไม่เป็นไร เพื่อนเค้าคงอยากกินขนมแต่ไม่มีตังเลยไถตังลูก ผมฟังแล้วสุดเหลือเชื่อเลย ว่าแม่จะไม่ทำอะไรเลย ผมฟังแล้วจึงรอคุยกับแม่ของเด็กคนนี้ ในระหว่างที่สนทนา ผมได้ฟังแนวคิดของแม่คนนี้ เค้าบอกว่า คนเราคิดบวกเข้าไว้ชีวิตจะดีขึ้น แต่ชีวิตครอบครัวแย่สุด พ่อเด็กกินยาล้างห้องน้ำฆ่าตัวตาย ชีวิตเป็นหนี้เป็นสิน แต่ดูเหมือนว่าแม่เด็ก จะไม่สนใจเลย

เลี้ยงลูกดีเกินไป

วิเคราะห์ปัญหาของเด็ก แม่เด็กเป็นคนที่คิดบวกมากเกินไป คิดว่าเดี๋ยวเวลาผ่านไปก็คงดีขึ้นเอง ทั้งอันที่จริงปัญหาเกิดขึ้นยังไงเราก็ต้องแก้ ไม่ใช่ปล่อยไว้จนบานปลายขนาดนี้ จนเด็กก็มีปัญหาอะไร แม่ก็ไม่ยอมแก้ปัญหาให้ ทำให้เด็กรู้สึกโดดเดี่ยวไม่มีใคร และเจ็บปวดกับทัศนคติที่ดีของแม่ ซึ่งถ้าหากปล่อยไว้ต่อไป เด็กก็คงฆ่าตัวตายตามเป็นแน่แท้ ผมรับรู้เรื่องราวแล้วรู้สึกสงสารจัง

เครดิต: น้องเชาว์ กระทู้จากพันทิป

อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!

อาชีพเสริม สำหรับคุณแม่บ้าน ทำได้ที่บ้านหรือแม้เลี้ยงลูก

สุดเจ๋ง! 15 ไอเดียสำหรับพ่อแม่มือใหม่ใช้เลี้ยงลูก

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up