7. ไม่ตั้งความหวังสูงกับสิ่งที่วางแผนไว้
คุณแม่หลาย ๆ คนออกจากงานเพื่อทุ่มเวลาให้กับการเลี้ยงเจ้าตัวน้อยโดยเฉพาะ หลาย ๆ คนก็คาดหวังไว้ว่าอาจรับทำงานที่บ้าน จัดบ้าน ทำสวน หรือปลูกต้นไม้ ดอกไม้ ให้สวยงาม แต่ในความจริงการเลี้ยงเด็กอ่อนอาจยุ่งกว่าที่คุณคิด คุณอาจไม่ได้ลงมือทำในสิ่งที่คาดไว้สักอย่างเลยก็ได้ และเพื่อไม่ให้ตัวเอง เหนื่อย เครียด เลี้ยงลูก ไม่ไหว จนเกิดความรู้สึกท้อแท้ผิดหวัง ฉะนั้นแล้วสู้คาดหวังแต่เรื่องดูแลลูกให้ดี และค่อยแบ่งเวลาว่าง (ถ้าหากมี) ไปทำงานที่อยากทำจะดีกว่า
8. รับความช่วยเหลือจากคนอื่น
อย่าลังเลขลาดเขินที่จะตอบรับความช่วยเหลือของคนอื่นบ้าง เช่น พ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนสนิท หรือว่าเพื่อนบ้าน ที่อาสาช่วยดูแลเจ้าหนูน้อยของคุณให้ เพื่อคุณจะได้มีเวลาส่วนตัวเล็ก ๆ บ้าง
9. ขอความช่วยเหลือจากคนอื่นบ้าง
บางทีการที่คุณแสดงออกว่าเป็นคุณแม่คนเก่งและแกร่ง ที่สามารถดูแลลูกด้วยตนเองได้ อาจทำให้คนที่คอยเป็นห่วงอยากจะช่วยเหลือรู้สึกขลาดเขินที่จะออกปากเสนอตัวคอยช่วย แต่เชื่อเถอะ ถ้าวันไหนที่คุณเหนื่อยล้ามาก ๆ ลองออกปากขอความช่วยเหลือฝากดูแลลูกน้อยสักหน่อย คนที่คอยเป็นห่วงรอบ ๆ ตัวคุณเขาจะไม่ลังเลที่จะตอบตกลงเลยล่ะ
10. คิดเสียว่าการที่ลูกร้องไห้คือการพยายามสื่อสารกับคุณ
หลายครั้งที่คุณต้อง เหนื่อย เครียด เลี้ยงลูก คนเดียวแบบธรรมดาก็จะไม่ไหวแล้ว และจะยิ่งเครียดหนักไปกว่าเดิมกับการทำให้ลูกน้อยที่กำลังร้องโยเยสงบลง ให้คิดเสียว่าการที่เขาร้องไห้นั้นคือการพยายามสื่อสารกับคุณ (ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ แหละค่ะ) ไม่ว่าจะเรื่องหิว อับชื้น ไม่สบายตัว ร้อน หวาดกลัว ฯลฯ การที่คุณได้เรียนรู้ว่า การร้องแบบไหนของลูกแทนการสื่อสารอย่างไร จะทำให้คุณรู้สึกเข้าอกเข้าใจ สนุกที่ได้คุยกับลูก และสามารถปลอบเขาได้อย่างเห็นผล
11. เข้ากลุ่มกับคุณแม่มือใหม่คนอื่น ๆ
สิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้าและท้อมาก ๆ กับการเป็นคุณแม่มือใหม่ คือการที่คุณคิดว่ามีเพียงตัวคุณคนเดียวเท่านั้นที่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ แต่ความจริงแล้ว ความรู้สึกเช่นนี้ล้วนเกิดขึ้นกับคุณแม่มือใหม่ทุกคนทั่วโลก การได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้สึก แลกเปลี่ยนคำแนะนำซึ่งกันและกัน จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้มาก ลองเข้ากลุ่มคุณแม่มือใหม่ที่โรงพยาบาล หรือศูนย์เด็กอ่อนดูนะคะ
12. ยอมรับตัวเองว่ารู้สึกอ่อนไหวง่ายขึ้น
คุณแม่บางคนรู้สึกว่าตัวเองอ่อนไหวมากขึ้น แค่เรื่องลูกมากระทบนิด ๆ หน่อย ๆ ก็พาลจะร้องไห้ หลาย ๆ คนไม่ชอบที่ตัวเองเป็นเช่นนี้ แต่การอ่อนไหวไม่ได้แปลว่าอ่อนแอหรอกนะคะ อารมณ์เช่นนี้เหมือนจะเกิดขึ้นเป็นธรรมชาติ เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งได้ก้าวขึ้นมาเป็นแม่ ดังนั้นมาเปิดใจยอมรับความเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ในจุดนี้ของตัวเองดีกว่า แล้วคุณจะสบายใจขึ้นเยอะเลยล่ะค่ะ
สุดท้าย ขอแถม หากคุณแม่กำลัง เหนื่อย เครียด เลี้ยงลูก ไม่ไหวแล้ว …ขอให้คิดว่า “ปัญหาทุกอย่างจะผ่านไปเอง” เมื่อเจอปัญหา เพียงคุณแม่ลองใจเย็นๆ และคิดเสมอว่าปัญหาทุกอย่างจะผ่านไปเองในที่สุดค่ะ ลองนึกย้อนไปเมื่อตอนที่ลูกยังเป็นเบบี๋ ทั้งเสียงร้องไห้ ทั้งการอดนอน ตอนนั้นคุณแม่ยังผ่านมันมาได้ ตอนนี้ก็เหมือนกันค่ะ เวลาผ่านไปเร็วมาก ในที่สุดทุกเรื่องก็จะคลี่คลายไปเองค่ะ
เพราะก้าวแรกของการเป็น “แม่” จะเติบโตและพัฒนาไปพร้อม ๆ กับก้าวย่างในชีวิตของเจ้าหนูตัวน้อยของคุณเช่นกันค่ะ แม้อาจจะต้อง เหนื่อย เครียด เลี้ยงลูก ไม่ไหว และท้อบ้าง แต่ผู้เขียนก็มั่นใจว่าด้วยสัญชาติญาณของความเป็นแม่ คุณจะผ่านพ้นมันไปได้อย่างแน่นอนค่ะ
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ:
- 5 คุณค่าของชีวิต ที่แม่อย่างฉันมีลูกเป็นผู้สอน
- 12 ประโยคที่รับรองว่าคุณแม่ลูกอ่อนทุกคนอยากได้ยิน
- วิจัยเผย! แม่เลี้ยงลูกลำพังเสี่ยงเป็น โรคซึมเศร้าหลังคลอด!
- เตือนสติพ่อแม่! นี่คือวิธีระงับอารมณ์เมื่อคุณโมโหลูก
ขอบคุณที่มาจาก : loveandmarriageblog.com, baby.kapook.com