3. ตีลูกด้วยอารมณ์ ใช้ความรุนแรง
การที่พ่อแม่โมโห หงุดหงิด พาเอาความเครียดมาจากที่ทำงาน หรือใครทำอะไรให้ไม่ได้ดั่งใจ แล้วมาพาลใส่กับลูก เอะอะ โวยวาย แล้วลงไม้ลงมือตีลูกด้วยความรุนแรง ทั้งไม้เรียว ทั้งสายยาง ไม้ก้านมะยม หรือใช้ไม้แขวนเสื้อผ้าตีลูก รู้ไหมว่าไม่ใช่แค่กายลูกที่เจ็บ แต่หัวใจลูกก็เจ็บปวดเสียใจมากด้วยนะคะ การที่พ่อแม่ชอบตีลูกจะด้วยเหตุผล หรือไม่มีเหตุผล รู้ไหมว่าได้สร้างความหวาดกลัวให้กับลูก ยิ่งถ้าเป็นเด็กที่ถูกพ่อแม่ตีมาตั้งแต่เล็กๆ เขาจะเติบโตขึ้นมาอย่างคนที่มีปมด้อย และชอบใช้ความรุนแรงกับคนอื่น ดังนั่นก่อนทำโทษลูก พ่อแม่ลองคิดหาวิธีการทำโทษอื่นๆ ดูก่อน เพื่อจะได้ลดความรุนแรงที่ใช้กับลูก ลดการสร้างบาดแผลในใจลูกด้วยค่ะ
4. ใช้วาจาที่หยาบคายกับลูกตลอดเวลา
พ่อแม่บางคนชอบใช้คำพูด “มึงๆ กูๆ” กับลูก หรือไม่ก็ว่าลูกว่า “โง่เป็นควาย” , “อีเด็กเปรต” , “ไอ้เด็กนรก” ฯลฯ คำสรรพนาม หรือคำว่าด่าเหล่านี้ รู้ไหมว่าไม่ได้ส่งผลดีกับตัวลูกเลย เขาจะคิดได้อย่างเดียวและตลอดเวลาว่า ทำไมแม่ถึงเรียก ถึงด่า ถึงชอบว่าเขา แม่ไม่รักเขาหรืออย่างไร แล้วจะต้องทำยังไงแม่ถึงพูดด้วยดีๆ
ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาจากตัวลูกค่ะ แต่มาจากพฤติกรรมความเคยชินของพ่อแม่ ที่อาจคิดว่า ก็ลูกฉัน ฉันจะเรียก จะพูดอะไรกับลูกก็ได้ ถ้าคุณเป็นพ่อแม่ที่คิดแบบนี้ บอกได้เลยว่าคุณได้สร้างสิ่งสะเทือนใจฝังไว้ให้ติดตัวลูกไปจนโต แล้วรู้ไหมว่า ลูกจะเติบโตขึ้นอย่างเด็กที่ไม่มั่นใจ ไม่กล้าคิด ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น เพราะกลัวถูกพ่อแม่ ถูกคนรอบข้างว่า ประณามหยามเหยียด
ถ้าคุณเป็นพ่อแม่ที่รักลูก อยากให้ลูกเติบโตขึ้นไปได้ ประสบความสำเร็จ ควรให้คำพูดที่ลูกฟังแล้วดีต่อหัวใจ มีแรงบันดาลใจ จนเกิดความอบอุ่นขึ้นในหัวใจ เพื่อใช้ในการก้าวเดินต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นคง จะดีมากๆ เลยค่ะ
5. ต้องเห็นพ่อแม่หย่าร้างกันตั้งแต่เล็ก
ภาพที่สวยงามสำหรับเด็กๆ ก็คือ การได้เห็นโต๊ะกินข้าวที่บ้านมีพ่อแม่นั่งกินด้วย มีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ ได้มีวันหยุดทำกิจกรรมกันระหว่างพ่อแม่ลูก วันประชุมผู้ปกครอง วันพ่อ วันแม่ ได้เห็นทั้งพ่อและแม่มาร่วมงานอย่างพร้อมหน้า ในวันที่เหนื่อยล้า ได้อ้อมกอดจากทั้งพ่อและแม่พร้อมกัน ฯลฯ นี่คือความสุข ความอบอุ่นใจของลูกที่แท้จริงที่เขาอยากได้จากพ่อกับแม่
แต่วันที่สวยงามก็ไม่ได้มีจริงอย่างยั่งยืนเสมอไป เพราะมีเด็กน้อยอีกหลายครอบครัวที่ต้องมาอยู่กับแม่ 4 วัน กลับไปอยู่กับพ่อ 3 วัน ช่วงวันหยุดก็ไม่ได้ทำกิจกรรมแบบพ่อแม่ลูก เพราะพ่อกับแม่หย่ากันแล้ว ที่สำคัญพ่อแต่งงาน แม่แต่งงานมีครอบครัวใหม่ ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นแล้วคนที่เป็นพ่อแม่ไม่สามารถ หรือไม่ได้ให้ความรักกับลูกได้มากเหมือนเคย อาจทำให้เด็กน้อยคนนึกเสียใจ และเฝ้าคิดตลอดเวลาว่า เขาเกิดมาด้วยความรักจากพ่อแม่หรือเปล่า ทำไมพ่อกอดน้องใหม่ แต่ไม่กลับมากอด มารับที่โรงเรียนได้เหมือนแต่ก่อน ทำไมแม่มีน้องใหม่แล้วอะไรๆ ก็ให้แต่น้องใหม่
จริงๆ ปัญหาการหย่าร้างจะไม่เป็นพิษต่อหัวใจของเด็กน้อยอีกหลายๆ คนที่กำลังอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ หากพ่อแม่ยังให้ความรัก ความอบอุ่นกับลูกเหมือนเดิม ให้เขารู้สึกได้ว่าถึงพ่อแม่ไม่อยู่ด้วยกันแล้ว ก็ไม่ได้มีอะไรขาดหายไปจากชีวิตเขาเลย เพราะในหนึ่งสัปดาห์ คุณสามารถหาเวลาหนึ่งวันพาลูกไปทานข้าวที่มีพ่อแม่และลูกไปด้วยพร้อมหน้าพร้อมตากัน ให้เขารู้สึกว่าพ่อแม่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่เหมือนเดิม การหย่าร้างอาจเป็นเหมือนปมในใจเด็กได้ แต่พ่อแม่สามารถแก้ปมนั้นออกง่ายๆ เพียงแค่ทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม เวลาเจอหน้ากันอย่าทะเลาะ อย่าโทษกันต่อหน้าลูก อย่าทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเขาเป็นปัญหาของพ่อแม่ก็เท่านั้นเองค่ะ
พ่อแม่ที่รัก หากอยากให้ลูกๆ เติบโตขึ้นอย่างคนที่มีความแข็งแรง ความแกร่ง ทั้งกาย ใจ พ่อแม่ต้องหยิบยื่นให้แต่สิ่งที่ดีกับลูกเท่านั้น พฤติกรรมแย่ๆ ที่ร้ายต่อใจลูก ขอให้หยุด ขอให้ทิ้งไป …ด้วยความใส่ใจและห่วงใยค่ะ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก
7 พฤติกรรมแม่ท้อง กระตุ้นลูกในครรภ์ฉลาด
ตีลูก ความเชื่อที่ผิดๆ ของพ่อแม่คนไทยกับการลงโทษลูก
10 การกระทำพ่อแม่ ทำร้ายจิตใจลูก แบบไม่รู้ตัว!!!
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
baby.kapook.com