เราอะ เคยมีช่วงที่เปลี่ยน ร.ร. เปลี่ยนสังคม เราเคยไม่อยากให้เพื่อนมาบ้าน ไม่อยากให้เพื่อนมารู้จักแม่ เพราะเรากลัวเค้าไม่เข้าใจและรังเกียจ แต่จริงๆ แล้ว เราโชคดีมาก ที่เรามีเพื่อนที่เค้าไม่รังเกียจ และเป็นห่วงและรักแม่เรา รวมถึงตัวเราด้วย
เวลามีเพื่อนมาสัมผัสตัวแม่เรา เราดีใจนะ ที่เค้าไม่คิดรังเกียจเลย ^^
พอโตขึ้นมาอีกหน่อย เราเคยลองใจพาผู้ชายเข้าบ้าน มาลองเจอแม่ด้วย 5555
อยากรู้ว่าจะรับได้มั้ย สุดท้าย เหมือนจะรับได้ แต่ก็รับไม่ได้นะ
แต่เอาจริง เราไม่เคยโกรธเค้าเลย เราเข้าใจนะ คนเรามีสิทธิ์เลือกอะไรให้กับตัวเอง
เพราะถ้ามองกลับกัน เราก็ไม่รู้ว่าเราจะรับได้มั้ย
เราไม่รู้หรอก ว่าในอนาคตเราจะเป็นแบบแม่มั้ย แต่แม่บอกว่า ถ้าเลย สามสิบ มันก็คงไม่ขึ้นแล้วแหละ เพราะ แม่กับพี่ชาย เริ่มมีตุ่มขึ้นตั้งแต่ สิบกว่าๆ แล้ว แม่บอกให้ไหว้พระเยอะๆ และอย่ากินของมันๆ ของทอด เฮ้อ อร่อยด้วย
เราโชคดีที่เคยมีพ่อ ที่รักเราและเลี้ยงดูเราจนเติบใหญ่ มีพี่ชายสองคน พี่คนโต เราไม่ค่อยถูกกับมัน แต่เราก็พอรู้ว่า มันก็ยังรักและเอ็นดูเรา มีพี่ชายคนกลางที่เป็นเหมือนพ่อคนที่สอง ตั้งแต่พ่อเราเสียไป พี่ชายที่เป็นเสาหลักของบ้าน เป็นที่พึ่งพิงให้กับแม่และน้องสาว
แม้แม่เรารูปลักษณ์ภายนอกอาจจะไม่เหมือนแม่คนอื่นๆ อาจจะไม่สวยงาม
แต่แม่เราคนนี้ ก็เลี้ยงเรามาจนอายุป่านนี้ ให้ทุกอย่างที่มนุษย์พึงมี
ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยสี่ การศึกษา เงินทอง และความรัก แม้ไม่ค่อยแสดงออก
แม่เราเก็บเงินเก่งมาก แม่บอก ที่เก็บก็เก็บให้พวกมึง พวกมึงอีกหน่อยจะได้ไม่ลำบาก
เพราะเราก็ไม่เหมือนคนอื่น
เราคิดไว้ว่า ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เราจะพยายามดูแม่เราเป็นตัวอย่าง
แม่ผ่านอะไรมามากมาย เคยจะถูกพ่อเลิก แต่สุดท้ายก็อยู่ดูแลกันจนตายไปข้างนึง
แม่บอกว่า มีครอบครัวได้ ถ้าหาสามีดีๆ และรับเราได้ 55555 แต่อย่ามีลูกเลย
สมมุติเราไม่เป็น ลูกเป็น ก็ไม่อยากให้เค้าเจ็บปวด ซึ่งเรื่องนี้ เราเคยบอกตัวเองอยู่เหมือนกัน ว่าเราก็ไม่ได้อยากมีลูก แต่ให้มันเป็นเรื่องของอนาคต วิวัฒนาการทางการแพทย์อาจจะช่วยได้ จริงๆ แม่บอก ถ้ามีเงิน อยู่คนเดียวสบายใจกว่า 555555 และเราขอบคุณที่เรามีเพื่อนดีๆ ที่เข้าใจครอบครัวเราเสมอมา
* รูปนี้ถ่ายหน้าบ้านที่อยู่มาตั้งแต่เกิด 27 ปี ผ่านพ้นไป
* เวลาเจอคนเป็นโรคนี้อย่ารังเกียจเค้าเลยนะ มันก็คือผิวธรรมดา แต่เหมือนมีกราฟฟิกเพิ่มเติม อิอิ
* ขอบคุณที่อ่านจนจบ
เครดิต: Naruemol Sae-eng