ท่าโล้สำเภา

เปิดภาพ! ท่าโล้สำเภา ของจริงที่คุณพี่เดชพูดถึง

event
ท่าโล้สำเภา
ท่าโล้สำเภา

ทำไมแม่การะเกดถึงได้ลูกแฝด

ซึ่งหลังจากที่ คุณพี่เดชและแม่นายการะเกด ได้ ละเล่นโล้สำเภา และก็ดันมีลูกที่น่ารักๆเกิดขึ้น โดยท้องแรกนั้น มาแบบแพ็คคู่ กับ ลูกแฝดชาย เป็น พ่อเรือง กับ พ่อริด ที่ทำเอาหลายคนสงสัยว่าแค่ โล้สำเภา นั้นสามารถทำให้ทั้งคู่ได้ลูกแฝดจริงๆ หรือ?

ท่าโล้สำเภา ได้ลูกแฝด

ซึ่งแท้จริงแล้วนั้น ลูกแฝดชายทั้งสองคนนี้ เป็นคนในเรือนกลับชาติมาเกิดนั่นเอง เพราะเนื่องจากว่าก่อนหน้าที่ลูกแฝดจะมาเกิดนั้น ก็มีเหตุการณ์ให้ต้องสูญเสียคนในเรือนไป 2 คน และ 2 คนนั้นเป็นเพศชาย ซึ่งก็คือ ท่านออกญาโหราธิบดี และ ศรีปราชญ์ ผู้เป็นพ่อและพี่ชาย ของคุณพี่เดชของเรานั่นเอง

แต่อีกความลับหนึ่งที่แม่นายการะเกดได้ลูกแฝด นั่นเป็นเพราะ กรรมพันธุ์ คือถ้าคนในครอบครัวมีประวัติการตั้งครรภ์แฝด คุณแม่จะมีโอกาสตั้งครรภ์แฝดมากขึ้น (การถ่ายทอดทางพันธุกรรมของครรภ์แฝดนั้นจะมาจากทางฝ่ายแม่มากกว่าฝ่ายพ่อ) ซึ่งก็คงเป็นเรื่องจริง เพราะอย่างที่ทราบกันมาแล้วหากใครได้ดูตอนก่อนหน้านี้ ก็มีการเปิดเผยเรื่องราวของ แม่หญิงการะเกดตัวจริง กับ เกศสุรางค์ ว่าทำไมทั้งสองคนถึงมีหน้าตาเหมือนกัน

เกศสุรางค์-การะเกด

เพราะแท้จริงแล้วความสัมพันธ์ของ “เกศสุรางค์-การะเกด ในอดีต ทั้งสองนั้นเป็นฝาแฝดกัน แต่ว่า “เกศสุรางค์” ได้เสียชีวิตตอนเด็ก ส่วน “การะเกด” มาตายตอนโต ด้วยมนต์กฤษณะกาลีนั่นเอง ส่วนในชาติภพปัจจุบัน เกศสุรางค์และการะเกด ยังเป็นฝาแฝดกันเช่นเดิม แต่เป็นการะเกดที่ตายตอนเด็ก ส่วนเกศสุรางค์ตายตอนโต (รถชน) – ด้วยผลบุญและดวงวิญญาณทั้งคู่

จึงเป็นเหตุให้ “เกศสุรางค์” มาอยู่ในร่างของ “การะเกด” และเมื่อ เกศสุรางค์ ในร่างแม่นายการะเกด มีลูก จึงทำให้สามารถเกิดเป็น ลูกแฝด ออกมาได้โดยไม่ต้องสงสัย

ท่า Missionary

ทั้งนี้ในเรื่องของการทำลูกแฝดนั้น ยังรวมไปถึงลักษณะการโล้สำเภา ดังที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ก็มีส่วน เพราะคล้ายกับ ท่า Missionary โดยท่านี้จะทำให้ช่องคลอดมีมุมชันขึ้นเวลาที่หลั่งน้ำอสุจิออกมาจะได้ไม่หายหกตกหล่นไปไหน จากนั้นก็บรรเลงบทเพลงสุดท้ายให้สมใจที่รอคอยจนเมื่อหลั่งเรียบร้อย ก็ถอนร่างกายออกได้ ปล่อยให้ฝ่ายหญิงนอนในท่าดังกล่าวต่อไปอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็เป็นอันเสร็จพิธีกรรมอันสุนทรีย์ที่จะมั่นใจได้ว่าลูกแฝด กำลังเดินทางมาแน่นอน (ซึ่งต้องอาศัยปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นด้วย)

 

 

 

อ่านต่อ “บทความดีๆ น่าสนใจ” คลิก!


ขอบคุณข้อมูลจาก :  www.ch3thailand.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up