“เริ่มแรก ฉันก็กลัวว่าเขาจะรังแกลูกสาวฉัน แต่พอเห็นว่าเขาทั้งสองเข้ากันได้ดี พวกเราจึงย้ายออกมา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าฉันจะได้อุ้มหลานเร็วขนาดนี้” คุณหญิงถูบอก
เด็กคลอดออกมาปกติดี ลูกเขยดีใจมาก และอุ้มลูกตลอดเวลา และยังหอมแก้มภรรยาของเขา เธอยิ้มอย่างมีความสุข คุณหมอเห็นเข้าจึงถาม “คุณเป็นห่วงบ้างหรือเปล่า ว่าเด็กคนนี้อาจจะติดพันธุกรรมจากแม่” ลูกเขยยิ้มแล้วตอบว่า “ผมไม่กลัวว่าลูกผมผิดปกติ ภรรยาผมทุกวันนี้ก็สบายดี ดูแลตัวเองพอได้ เมื่อก่อนผมยากจนไม่มีครอบครัว ตอนนี้ผมมีครอบครัวแล้ว ถ้าเธอดูแลลูกเป็นก็จะดี”
เขายังบอกอีกว่า “ถึงสมองเธอจะไม่ปกติ แต่ไม่มีผลกระทบกับชีวิตประจำวันเลย เธอทำอาหารและทำความสะอาดบ้านได้ และยังชอบถักไหมพรม ผมซื้ออุปกรณ์ถักมาให้เธอ เธอซื้อของในอินเทอร์เน็ตเป็น และฟังที่ผมพูดรู้เรื่อง” คุณหมอแปลกใจและถามว่า “แล้วทำไมไม่ให้เธอออกไปทำงาน?” เขาถอนหายใจแล้วตอบว่า “มีคนเคยด่าเธอ เพราะผมไม่สามารถไปควบคุมคนอื่นได้ ผมไม่อยากให้ครอบครัวของผมโดนรังแก”
คุณหมอได้ยินคนอื่นนินทากันว่า พอลูกเขยได้เลื่อนตำแหน่งแล้วจะทิ้งลูกสาวของคุณหญิงถูแน่ๆ คุณหมอจึงเข้าใจว่าทำไมไม่ให้ภรรยาออกมาทำงาน เพราะคนในสังคมหลายคนจิตใจไม่ดี ยังมีบางคนหาว่าลูกเขยทำแบบนี้เพราะเห็นแก่เงิน ไม่ได้รักภรรยาจริง แค่ทำเพราะความสงสาร
หลังจากนั้น คุณหมอได้พบคุณหญิงถูอีกครั้ง ครั้งนี้เธอพาหลานชายมา และยังอุ้มหลานสาวมาฉีดยาด้วย คุณหญิงถูบอกว่า ลูกสาวของเธอเปิดร้านขายอุปกรณ์ถักไหมพรม ครอบครัวลูกสาวเธอมีความสุขดี
ความสุขนั้นไม่ได้มาจากเงินทอง เราไม่สามารถไปบังคับให้คนอื่นไม่ว่าร้ายนินทาเราได้ แต่สามารถทำชีวิตของเราเองให้มีความสุข ความร่ำรวยที่แท้จริง คือการที่มีชีวิตที่มีความสุข ไม่ใช่มาจากเงินตรา
เครดิต: liekr.com