ไม่อยากเป็นแม่ขี้หงุดหงิด

Alternative Textaccount_circle
event

ดุว่า หงุดหงิด โมโหง่าย ไม่ฟังก็ “ตี” สิ :ไหนจะงานบ้านที่ต้องดูแล ต้องดูแลลูกและสมาชิกในบ้านทุกวี่วันและทุกอารมณ์บางบ้านเป็นครอบครัวเดี่ยวคุณพ่อคุณแม่ทำงานนอกบ้านทั้งคู่ และดูแลบ้านกันเองอีก ไม่ว่าครอบครัวแบบไหน มีโอกาสปั่นป่วนวุ่นวาย จนหงุดหงิด ไปจนถึงโมโห และพลั้งเผลอจัดหนักลูกไปบ้าง หรือคุณพ่อคุณแม่บางคนก็ข้ามขั้นหงุดหงิดปุ๊บ ก็ “เพี๊ยะ” เลย แต่รู้ไหม…

  • รู้ไหม…ที่เราดุว่า หงุดหงิดโมโหก็เพราะเราคาดหวังในตัวลูกน้อย มีความปรารถนาดีให้ แต่ลูกกลับไม่เชื่อฟังใช่ไหมคะ
  • รู้ไหม…การเลี้ยงลูกด้วยอารมณ์ลบหรือแรงลูกน้อยจะยิ่งต่อต้าน ดื้อมากขึ้นนั่นเอง
  • รู้ไหม…“ตี” เป็นการลงโทษแบบหนึ่ง ขณะเดียวกัน“ตี” ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ความรุนแรงต่อกันไปเป็นทอดๆ เริ่มจากพ่อแม่ตีกัน พ่อแม่ตีลูก พี่ตีน้อง น้องไปตีเพื่อน แม้แต่การ “ขู่จะตี “ซึ่งอาจใช้ควบคุมลูกได้ในช่วงแรก แต่ไม่นานเขาจะไม่เชื่อ และต่อต้านหนักกว่าเดิมได้

โมโห ก็ปรับได้นะ : บอกความรู้สึกลบของคุณพ่อคุณแม่คุณแม่ให้ลูกน้อยรู้ได้โดยไม่ต้องสาดอารมณ์ไม่ดีใส่ “แม่โมโหแล้วนะคะ แม่ไม่ชอบที่หนูทำแบบนี้เลย หรือบอกพฤติกรรมที่เราไม่ชอบ เช่น“แม่หงุดหงิดนะที่ลูกเล่นแล้วเลอะทั่วบ้าน” การโฟกัสที่พฤติกรรมไม่ได้แสดงอารมณ์อย่างเดียวลูกจะเข้าใจได้มากกว่า หรือถ้าทนไม่ไหวจริงๆ ก็ให้หลีกเลี่ยงการปะทะ และอารมณ์ที่มากขึ้น ด้วยการออกไปจากตรงนั้น สงบสติอารมณ์ก่อนก็จะเป็นวิธีแก้ไขสถานการณ์ที่ดีกว่าค่ะ

 

 

 

บทความโดย : กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up