เช็คสิทธิ์ด่วน!! ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ 26 ก.ค.65 ได้อนุมัติโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 หรือ คนละครึ่งเฟส 5 แล้ว แจกคนละ 800 บาท!!
มาแล้ว!! คนละครึ่งเฟส 5 แจกคนละ 800 เช็คสิทธิ์ด่วน!!
สำหรับโครงการ คนละครึ่ง ที่ทุกคนรอคอย วันนี้ 26 ก.ค.65 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 โดยมีวงเงิน 21,200 ล้านบาท
คนละครึ่งเฟส 5 เริ่มเมื่อไหร่?
ระยะเวลาดำเนินการ 4 เดือน (ส.ค.-พ.ย.65) โดยให้สิทธิแก่ประชาชนผู้ได้รับสิทธิตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.-31 ต.ค.65
ได้รับเงินเท่าไหร่?
ผู้ที่มีสิทธิ์จะได้รับเงินผ่านเข้าแอพเป๋าตัง สิทธิ์ละ 800 บาท ตลอดระยะเวลาโครงการ
จำนวนผู้ได้รับสิทธิ์
ผู้ได้รับสิทธิจำนวนไม่เกิน 26.5 ล้านคน
ทั้งนี้จะได้รับสิทธิประโยชน์โดยภาครัฐร่วมจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้า และบริการที่กำหนด ในอัตรา 50% โดยจะได้ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 800 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ
โครงการ คนละครึ่ง คืออะไร?
“โครงการคนละครึ่ง” เป็นหนึ่งในมาตรการที่ดำเนินการโดยรัฐบาล มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ ด้วยการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ร้านค้ารายย่อยทั่วประเทศ เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศทั้งระบบ
การลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งจะมีด้วยกัน 2 ส่วน คือ การลงทะเบียนรับสิทธิสำหรับประชาชน และการลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งสำหรับร้านค้า โดยรัฐบาลได้เข้ามาดำเนินการอุดหนุนการจับจ่ายใช้สอยในส่วนของประชาชนที่ได้รับสิทธิในโครงการคนละครึ่งและให้ร้านค้าที่ต้องการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ซึ่งลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์คนละครึ่ง โดยรัฐจะช่วยออกค่าใช้จ่ายให้ครึ่งหนึ่งของมูลค่าสินค้า ในขณะที่ผู้ได้รับสิทธิจะต้องจ่ายเพิ่มอีกครึ่งหนึ่งของมูลค่าสินค้า โดยผู้เข้าร่วมโครงการที่มีคุณสมบัติตามที่รัฐบาลกำหนดจะต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ คือ
- มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย
- มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
- ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (ผ่านบัตรประชาชน) และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้
การลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิโครงการคนละครึ่งสามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง ได้แก่ ลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com และลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า “เป๋าตัง” พร้อมผูกกับกระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีชื่อว่า G-Wallet (กดแถบโครงการคนละครึ่ง)
สำหรับการใช้งานสามารถใช้สิทธิผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ผู้ใช้จะต้องเติมเงินเข้ากระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ (G –Wallet) โดยสามารถเติมได้ผ่าน 3 ช่องทาง ดังนี้
- Mobile Banking
- QR code Prompt pay
- ตู้ ATM
ทั้งนี้ ประเภทร้านค้าที่ร่วมโครงการคนละครึ่งสามารถเป็นร้านค้าที่เป็นร้านอาหาร เครื่องดื่ม และร้านค้าทั่วไป ยกเว้น สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และการบริการ
ผู้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งจะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลไม่เกินวันละ 150 บาท ซึ่งปัจจุบันโครงการ คนละครึ่งเฟส 5 จะดำเนินการจ่ายทั้งโครงการสูงสุดไม่เกิน 800 บาทต่อคน ตัวอย่างเช่น หากผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งจะซื้อสินค้าที่มีมูลค่า 200 บาท รัฐจะดำเนินการจ่ายให้ครึ่งหนึ่ง คือ 100 บาท และผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งจะต้องจ่ายเองอีก 100 บาท แต่หากผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งจะซื้อสินค้าที่มีมูลค่า 500 บาท รัฐจะดำเนินการจ่ายสูงสุดที่ 150 บาทเท่านั้น โดยอีก 350 บาทผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งต้องดำเนินการจ่ายเอง ประชาชนที่มีความประสงค์จะซื้อสินค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งจะต้องสังเกตป้ายโครงการคนละครึ่ง
วิธีการเข้าร่วมสิทธิ์สำหรับร้านค้า
- คุณสมบัติและประเภทกิจการที่สามารถเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป และค่าบริการ (นวด สปา ทำผมทำเล็บ ค่าเดินทางโดยบริการขนส่งสาธารณะหรือขนส่งมวลชนสาธารณะ) ไม่รวมถึงสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ บัตรกำนัล (gift voucher/gift card) บัตรเงินสด (cash card) และสินค้า/บริการรูปแบบอื่น ๆ ที่เป็นการชำระล่วงหน้า (prepaid)
- การซื้อสินค้า/บริการจริงตรงตามมูลค่าที่สแกนจ่าย ไม่อนุญาตให้ผู้ประกอบการทอนเงินสดหรือรับแลกสินค้า/บริการคืนเป็นเงินสดไม่ว่ากรณีใด
- ไม่ได้จดทะเบียนในรูปแบบนิติบุคคล ยกเว้น ร้านธงฟ้า,กองทุนหมู่บ้าน วิสาหกิจชุมชน และบริการขนส่งสาธารณะมวลชน
- ไม่เป็นร้านสะดวกซื้อที่เป็นธุรกิจเฟรนไชส์
นอกจากโครงการ คนละครึ่งเฟส 5 แล้ว ครม. ยังมีโครงการช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติม โดยการเติมเงินช่วยเหลือผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กรณีพิเศษเช่นผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ หรือผู้ที่ไม่สามารถใช้แอปฯเป๋าตัง แลถะ ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน โดยช่วยเหลือเป็นระยะเวลา 2 เดือน วงเงิน 200 บาทต่อคน รวมเป็น 400 บาทในช่วงก.ย. – ต.ค. 2565 อีกด้วย
สำหรับความคืบหน้าของทั้ง 2 โครงการ ทีมกองบรรณธิการ ABK จะนำมาอัพเดทให้พ่อ ๆ แม่ ๆ ได้ติดตามกันต่อไปนะคะ
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.dailynews.co.th, www.pptvhd36.com, หอสมุดรัฐสภา, www.คนละครึ่ง.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่