ลูกติดมือถือ

พ่อแชร์มาตรการเจ๋ง! รักษา ลูกติดแท็บเล็ต จนหาย

Alternative Textaccount_circle
event
ลูกติดมือถือ
ลูกติดมือถือ

ทั้งตัวพ่อและแม่ปฎิบัติตามมาตรการนี้ได้เป็นอย่างดี ถึงขั้นที่ผมต้องไปแชทไลน์คุยงาน ตอบลูกค้าในห้องน้ำนานเกือบชั่วโมงก็เคยทำมาแล้ว ทั้งต้องพยายามหาสิ่งอื่นมาดึงดูดความสนใจของเค้า ไม่ว่าจะพาเล่นกีตาร์ ร้องเพลง ปั่นจักรยาน เล่นการ์ดคำศัพท์ อ่านนิทาน ซึ่งต้องใช้เวลาเยอะกว่าการส่งแท็บเล็ตให้เค้าเล่นอย่างแน่นอน
เวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ผลที่ได้คือ เด็กน้อยเข้าใจแล้วว่าโทรศัพท์มึไว้ใช้งาน ใช้คุยงาน ใช้คุยกับคนที่เราคิดถึง ไม่ได้มีไว้เล่นไว้ดูการ์ตูน และไม่เคยขอเล่นอีกเลย แถมหลายครั้งที่เห็นปู่เล่นแท็บเล็ตยังเข้าไปเรียกปู่ว่า “ปู่ ๆ ๆ มาเล่นกับหนูดีกว่า” แล้วก็ชวนปู่ไปวาดรูป อ่านนิทาน สนุกสนานตามธรรมชาติของเด็ก
ข้อคิดหนึ่งของผมจากเหตุการณ์ข้างต้นนี้คือ “สำหรับเด็กน้อย พ่อกับแม่คือโลกจริง ๆ ของเขา ลูกควรจะได้เรียนรู้ทุกอย่างผ่านโลกจริงใบนี้อย่างถ่องแท้ก่อนจะเริ่มไปเรียนรู้โลกเสมือนจากอินเทอร์เน็ต”
มือของพ่อแม่มีหน้าที่ประคองมือน้อย ๆ ของลูกขีดเขียนตัวหนังสือ และรูปต่าง ๆ แล้วมือน้อยนั้นก็จะได้รับรู้ทั้งความอบอุ่นจากมือ อ้อมแขน น้ำเสียงของพ่อแม่ไปพร้อมกับการขีดเขียนนั้น ซึ่งคงดีกว่าปล่อยให้มือเล็ก ๆ นั้นสไลด์ไปบนหน้าจอโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตเพียงลำพัง และสัมผัสได้เพียงไออุ่นจากความร้อนของจอสี่เหลี่ยมอย่างแน่นอน
ครั้งต่อไปที่คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายต้องเลือกว่าจะยื่นกระดาษกับดินสอสีแล้วใช้เวลาร่วมกับเค้า หรือยื่นแท็บเล็ตให้ลูกไปนั่งดูเงียบ ๆ พึงระลึกไว้สักหน่อยว่าเด็กน้อยที่นั่งอยู่ตรงหน้าคุณนั้นไม่เคยขอคุณมาเกิดเลย มีแต่พ่อ ๆ แม่ ๆ อย่างเรา ๆ นี่แหละที่นับวันเฝ้ารอวันที่จะได้เห็นหน้าเค้า ดังนั้นจงมอบสิ่งที่มีค่าที่สุดให้เค้าเถิด สิ่งมีค่าที่ไม่ต้องไปหาซื้อที่ไหน…”เวลา”
ด้วยรักและปรารถนาดี
จากพ่อน้องจันทร์เจ้า
จัดได้ว่าเป็นประสบการณ์ของคุณพ่อที่แชร์ได้ครบทุกแง่มุมจริง ๆ เลยนะคะ บางทีเราอาจจะไม่รู้หรอกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เรากำลังทำเป็นประจำทุกวันอยู่นั้น ลูก ๆ กำลังมองดูเราอยู่ และคอยซึมซับพฤติกรรมทุกอย่างของเราโดยที่ตัวเราเองไม่รู้ตัว
คลิกอ่าน 5 ตัวอย่างที่ดีที่พ่อแม่ควรสอนลูก

เครดิต: Pantip

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up