6. หลังแผลผ่าคลอดแห้งสนิทแล้ว สามารถเปิดแผลได้ ถ้ามีแผลเป็นให้ใช้ครีมซึ่งมีส่วนผสมของเสตียรอยด์อ่อนๆ หรือครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินอีทาบริเวณแผล ไม่มีผลต่อน้ำนมเพราะเป็นยาใช้ภายนอก
7. ปรับหัวนอนให้สูงขึ้น จะช่วยให้แผลผ่าที่หน้าท้องไม่ตึงจนเกินไป ช่วยลดอาการเจ็บแผล
8. เนื่องจากการผ่าคลอด เป็นวิธีที่หายช้ากว่าแบบธรรมชาติ เสี่ยงภาวะเลือดอุดตันที่ขา จึงควรเดินบ่อยๆ
9. ใช้แผ่นซิลิโคนใสเหมาะสำหรับแผลเป็นที่มีสีแดงหรือสีคล้ำหรือนูน ซึ่งตามคำแนะนำการดูแลรอยแผลเป็นของ The International Clinical Guidelines for Scar Management 2002 บอกว่าเมื่อใช้แผ่นเจลซิลิโคนแล้วจะช่วยปรับสีของแผลให้จางลงและแผลแบนราบลงได้ ในการใช้แผ่นเจลซิลิโคนนี้ไม่ควรจะใช้ในขณะแผลเปิด ควรเริ่มใช้ทันทีที่แผลปิดสนิทหรือหลังตัดไหมสำหรับแผลเย็บ โดยปิดแผ่นเจลซิลิโคนนี้ทับแผลเป็นหรือคีลอยด์เป็นระยะเวลานานมากกว่า 12 ชั่วโมงต่อวัน จะช่วยให้แผลเป็นนี้ยุบลงได้ โดยที่ไม่เจ็บ
10. การฉีดยาคอร์ติโคสตีรอยด์ (Intra lesional corticosteroid) ตามคำแนะนำการดูแลรอยแผลเป็นของ The International Clinical Guidelines for Scar Management 2002 ซึ่งต้องปรึกษาแพทย์ โดยศัลยแพทย์ตกแต่งจะฉีดยาเสตียรอยด์นี้เข้าใต้ตำแหน่งของแผลเป็น ซึ่งจะช่วยให้แผลเป็นนั้นนุ่มลงและแบนราบลงได้ ยานี้ควรใช้เมื่อใช้แผ่นซิลิโคนใสแล้วยังไม่หายดี ซึ่งการฉีดยาได้ผลพอใช้ได้ แต่ก็ทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บขณะที่ฉีดยา และต้องมาฉีดเป็นระยะตามที่แพทย์นัด
11.การนวดบริเวณแผลเป็น เป็นการกระตุ้นให้แผลนุ่มขึ้น แต่ควรจะใช้มอยเจอร์ไรเซอร์และโลชั่นมาช่วยนวดและทาด้วยเพื่อให้แผลเป็นชุ่มชื้น จะได้นุ่มได้ไวขึ้น แบนราบได้เร็วขึ้น และทำให้อาการปวดจากแผลเป็นเหล่านี้ลดลงไปได้ด้วย อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังในการนวดก็คือ นวดในแผลเปิด แผลอาจปริขึ้นมา หรือบวมขึ้นมา หรือแพ้โลชั่นก็ต้องหยุด
เครดิต: ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย, The International Clinical Guidelines for Scar Management 2002, นพ.ธรรมนูญ พนมธรรม ศัลยแพทย์ตกแต่ง โรงพยาบาลราชวิถี
อ่านต่อบทความน่าสนใจคลิก!
8 วิธีดูแลรักษาแผลนูนแดง หลังผ่าคลอด ให้สวยเรียบ
ไขข้อข้องใจ! “ผ่าคลอด น้ำนมไหลช้า” จริงหรือ? พร้อมเทคนิคนวดเปิดท่อน้ำนม (มีคลิป)
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่