อ่านเรื่องราว แกงค์มิจฉาชีพ ที่แอบอ้างว่าเป็น ไปรษณีย์ไทย กันต่อเลยค่ะ
เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ ตรวจสอบไปที่หมายเลข 1133 แล้วพบว่าตรงกัน สายแปลกโทรเข้ามาอีกครั้ง ชายที่อ้างว่าเป็นนายตำรวจก็อ้างว่า การตรวจสอบนี้ต้องให้แบงก์ชาติ (ธนาคารแห่งประเทศไทย) ระงับบัญชีทั่งหมดที่มี แล้วทำการตรวจสอบ ซึ่งจะกินเวลานานมาก ไม่สามารถทำธุรกรรมใด ๆ ได้เลย แล้วแนะนำให้ผู้เสียหายถอนเงินแล้วใส่ตู้โอนเงินเพื่อตรวจสอบ โดยอ้างว่าจะคุยกับแบงก์ชาติให้ตัดสัญญาณแล้วเปลี่ยนสัญญาณตู้นั้นเป็นระบบส่งเข้า เพื่อแยกทรัพย์สินเราไว้ตรวจสอบ
จากนั้น ปลายสายได้แนะนำให้ผู้เสียหายดังกล่าวทำธุรกรรม มีทั้งการโอนแบบถอนแล้วมาใส่ตู้โอน รวมถึงเสียบบัตรแล้วกดโอน รวมทั้งสิ้นกว่า 1 แสนบาท จากนั้นปลายสายยังอ้างว่า พูดถึงชั้นสอบสวน และเล่าถึงการโกง โดยการนำสลิปที่มีอยู่ไปใช้โกง จึงสั่งให้ฉีกสลิปเอทีเอ็มทั้งหมด ซึ่งผู้เสียหายก็ฉีกจนละเอียด แล้วทิ้งถังขยะ ปลายสายจึงพูดย้ำว่า จะทำการตรวจสอบบัญชีแล้วจะโทรกลับไป ระหว่างนี้ห้ามทำธุรกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น แล้ววางสายไป
เมื่อเจ้าของโพสต์ทราบความจริงว่า ถูกมิจฉาชีพหลอกลวง จึงไปที่ธนาคาร จากการคุยกับทั้งธนาคารที่โอน และธนาคารปลายทางได้ความว่า ไม่มีอำนาจยกเลิกธุรกรรมในลักษณะนี้ได้ เพราะไม่ใช่การโอนผิดบัญชี ซึ่งหากเป็นการโอนผิดบัญชีต้องมีบัญชีอ้างอิง และเลขบัญชีต้องผิดเพียง 1-2 ตัว ทางธนาคารจะช่วยติดต่อทางบัญชีที่ผิดเพื่อขอให้โอนเงินคืนให้ แต่นี้ไม่ใช่ ทำได้เพียงแจ้งความ และเมื่อแจ้งความกับตำรวจ ก็ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียหายหลายราย บางรายเสียหายไป 7-8 แสนบาท ระหว่างลงบันทึกประจำวัน ตำรวจก็ถามถึงเลขบัญชีปลายทาง ก็บอกฉีกแล้วทิ้งไป แล้วไปโกยกลับมาแล้วแต่ต่อกลับไม่ได้ และเมื่อตรวจสอบแอปพลิเคชันจึงพบว่า ไม่มีรายการโอน แต่เป็นรายการถอน จึงทำได้แค่บันทึกแจ้งความเท่านั้น