ถ้าเอ่ยชื่อ “พีช สิตมน ผลดี” หลายคนคงเกิดอาการอิจฉาเล็กๆ เพราะเธอคือนางเอกในชีวิตจริงของพระเอกสุดฮอตตลอดกาลอย่าง “พี่ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี” เธอคนนี้จัดว่าครบเครื่องทั้งสวยและเก่ง ทุกวันนี้นอกจากรับหน้าที่แม่และภรรยาแล้ว เธอยังขอหวนคืนวงการด้านดีไซน์ที่เธอชื่นชอบ ด้วยการเปิดแบรนด์เสื้อผ้าเด็กในชื่อ LittleFox และเป็นความโชคดีของ Amarin Baby&Kids สุดๆ ที่เราได้บุกมาถึงโชว์รูมเสื้อผ้าของเธอ และยังได้พูดคุยกับเธอแบบเจาะลึกทุกเรื่องอีกด้วยค่ะ
- จุดเริ่มต้นความรักของคุณพีชกับพี่ติ๊กเกิดขึ้นได้อย่างไรคะ
พีชกับพี่ติ๊กมีโอกาสได้รู้จักกันค่ะ พอได้คุยกัน มันค่อนข้างคลิก เพราะเรามีแนวคิดอะไรบางอย่างที่ไปในทิศทางเดียวกัน ก็เป็นเพื่อนกันก่อน แล้วคบกันมาเรื่อยๆ 6-7 ปีได้ค่ะ เลยตัดสินใจแต่งงานกัน
- ดูไลฟ์สไตล์ของทั้งคู่ค่อนข้างแตกต่างกัน เราหาจุดลงตัวที่จะใช้ชีวิตร่วมกันอย่างไรบ้างคะ
พีชคิดว่าทุกคนต้องมีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง และเราควรจะรักษาพื้นที่ตรงนี้ไว้ แต่เราก็ต้องมีพื้นที่ส่วนหนึ่งที่ใช้ร่วมกันได้ พีชคิดว่าอย่างนี้มันจะทำให้ชีวิตคู่มีความสุข เป็นวงจรที่แข็งแรงกว่า คือถ้าเราต้องดึงเขามาอยู่กับเราตลอดหรือเขาดึงเราไปอยู่กับเขาตลอด ในสิ่งที่เขาหรือเราไม่ได้เป็นมันจะอึดอัด เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำให้กันได้ คือสนับสนุนกันไปมา เท่าที่เราจะทำได้ พีชว่าแค่นี้ก็แฮปปี้แล้ว
- รวมเวลาที่คุณพีชกับพี่ติ๊กคบกันและแต่งงานกันก็เกินสิบปีแล้ว แต่ทุกวันนี้ก็ยังหวานกันเหมือนเดิม มีเคล็ดลับการใช้ชีวิตคู่อย่างไรคะ
ความเข้าใจกันเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดค่ะ เราต้องเข้าใจในตัวเขา และเข้าใจตัวเองด้วย ส่วนเรื่องความรู้สึกก็สำคัญเหมือนกัน พอเราอยู่ด้วยกันมานานเราจะรู้แล้วว่าเขาชอบหรือไม่ชอบอะไร เพราะฉะนั้นอะไรที่มันเกินขอบเขต เป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบเราก็จะไม่ทำ และพีชไม่ชอบการปะทะ ไม่ชอบความเครียด เลี่ยงได้ก็จะไม่ทะเลาะกับใครเลย อะไรยอมได้เราจะยอม และพีชก็คิดว่าพี่ติ๊กก็คงคิดเหมือนกัน เพราะเราถึงได้อยู่กันมาได้ เขาก็ยอม เราเลยไม่ค่อยทะเลาะกัน อาจจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันบ้างเราก็จะคุยกันมากกว่า
- หลังจากใช้ชีวิตสามีภรรยาแค่ 2 คน แล้วพอมีสมาชิกตัวน้อยคนที่ 3 ชีวิตเปลี่ยนไปขนาดไหน
ย้อนกลับไปหลังจากแต่งงานประมาณ 3 ปี ก็ท้อง ตอนนั้นตื่นเต้นและดีใจมากเพราะว่า ทีแรกเรายังไม่ตัดสินใจจะมีลูก แต่พอตัดสินใจว่าจะมีลูก น้องเต็นท์ก็มาเลย ชีวิตเปลี่ยนไปต้องระวังไปทุกอย่าง ดูแลตัวเองมากขึ้น ทั้งเรื่องจิตใจและร่างกาย พยายามไม่เครียดและทำอะไรที่ตัวเองชอบ โชคดีว่าเป็นช่วงนั้นเป็นช่วงที่ตั้งใจท้องจริงๆ ไม่ได้ทำงาน เลยมีเวลาดูแลตัวเองเต็มที่ ได้ออกกำลังกายบ้าง ทั้งเดินรอบบ้าน เล่นโยคะ พิลาทิส และออกกำลังกายในน้ำ
- แต่เห็นว่าเรื่องอาหารการกินนี่ต้องปรับตัวมากใช่ไหมคะ
ใช่ค่ะ ปกติพีชเป็นคนกินตามใจตัวเองมาก อยากกินอะไรก็กิน ขนมชอบมาก (ลากเสียงยาว) ตอนท้องก็ยังกินทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ต้องเพิ่มอะไรที่เราไม่ชอบเข้าไป เช่น ตับ เพราะพีชไม่กินเครื่องใน แต่คุณหมอบอกว่าต้องกินบ้างเพราะมันมีธาตุเหล็ก ก็พยายามลองหลายแบบกว่าจะกินได้ บังคับตัวเองสุดๆ
- ช่วงนั้นพี่ติ๊กได้ดูแลคุณพีชเป็นพิเศษไหมคะ
ปกติเพราะพี่ติ๊กเขาเป็นคนใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆอยู่แล้ว อย่างเวลาเราเดินออกกำลังกาย เขาก็จะมาเดินเป็นเพื่อน หรือเราอยากทำอะไรเขาไม่เคยห้ามแต่ขอให้ระวังตัวเองนิดหนึ่ง พีชเลยค่อนข้างจะโชคดีได้ทำอะไรที่ตัวเองอยากทำ อยากจะออกไปข้างนอก ไปเดินเล่น หรือช้อปปิ้งก็ไป พีชพยายามทำตัวเป็นปกติที่สุด ไม่ปล่อยตัวเองให้โทรม ยังทาปากแดงออกจากบ้านทุกวัน
- แล้วตอนที่พี่ติ๊กออกไปทำงานนอกบ้านเคยมีอารมณ์น้อยใจไหม
ก็มีช่วงที่ฮอร์โมนพลุ่งพล่าน อารมณ์ขึ้นๆลงๆแปรปรวนบ้าง แต่ไม่ใช่อารมณ์น้อยใจ เพราะปกติเขาก็ไปทำงานทุกวัน แต่บางวันเราจะรู้สึกเหงา พี่ติ๊กเขาก็พยายามเอาใจ โทรหาระหว่างวัน เพราะเขาออกไปทำงานตอนเช้า ตอนเย็นก็เจอกันแล้ว ส่วนพีชก็พยายามเข้าใจอารมณ์ตัวเองและปรับที่ตัวเองก่อน
- จนถึงวันที่น้องเต็นท์คลอด เห็นหน้าลูกครั้งแรกรู้สึกอย่างไรบ้าง
พีชผ่าคลอดนะคะ เพราะมีปัญหาเรื่องความดันต่ำคลอดธรรมชาติไม่ได้ ตอนนั้นก็มึนๆ ยานิดหนึ่งแต่ก็ยังจำโมเมนต์ที่เห็นหน้าเขาได้ มันมีหลายๆความรู้สึกเลย ทั้งดีใจ โล่งใจ ตื้นตัน แต่สิ่งที่เราเป็นห่วงเขามากกว่าก็คืออยากรู้ว่าเขาแข็งแรงสมบูรณ์ไหม พอเราถามไปแล้วพี่ติ๊กตอบว่าโอเค เราก็สบายใจแล้ว
- ตอนกลับบ้านคุณพีชและพี่ติ๊กเลี้ยงลูกกันเองด้วย พ่อแม่มือใหม่ชุลมุนขนาดไหนคะ
เราตั้งใจว่าจะเลี้ยงกันเอง วันแรกก็โกลาหลมาก ทั้งๆที่พยายามฝึกตอนที่อยู่โรงพยาบาลแล้ว แต่เละเลยค่ะ (หัวเราะ) เปลี่ยนผ้าอ้อมก็เลอะเทอะไปหมด ตอนอาบน้ำก็กลัว เพราะเขาตัวเล็กมาก ไหนจะร้องไหนดิ้น วุ่นวายมาก ช่วง 3-4 เดือนแรกพีชไม่ได้นอนเตียงเลย อุ้มลูกนั่งให้นมบนเก้าอี้ก็หลับไปด้วยกัน เป็นช่วงเวลาที่เหนื่อยมาก แต่พอตอนนี้เรามองย้อนกลับไป อืม…เราก็ผ่านมาได้นะ
- พี่ติ๊กมีหน้าที่ช่วยเลี้ยงลูกอย่างไรบ้างคะ
พี่ติ๊กเขาก็พยายามมาช่วยทุกอย่าง ทั้งอาบน้ำ เปลี่ยนผ้าอ้อม ป้อนนม เพราะฉะนั้นก็มีบางวันที่เขาให้เราพัก ให้เราออกไปเที่ยว เขาก็จะดูลูกให้เอง เขาทำได้
- ตอนที่ให้พ่อลูกอยู่ด้วยกันมีแอบห่วงบ้างไหม
ไม่ค่อยนะ เพราะรู้ว่าพี่ติ๊กเขาเลี้ยงเป็นเราก็จะสบายใจ แต่ถ้าเป็นคนอื่นสิ น่าห่วงกว่า ในตอนแรกพีชถึงไม่เอาพี่เลี้ยงเลย พีชรู้สึกไม่ไว้ใจใคร กลัวคนอื่นดูแลลูกเราไม่ดีเท่าที่เราดู จนลูกเริ่มเดินได้ ถึงให้มีคนเข้ามาช่วยบ้าง
- อัพเดทพัฒนาการของน้องเต็นท์ให้ฟังหน่อยค่ะ ตอนนี้กี่ขวบแล้วคะ
สองขวบครึ่งแล้วค่ะ ซนตามธรรมชาติเด็กผู้ชายทั่วไป พูดเก่ง ชอบสำรวจ ติดพ่อติดแม่ ขี้อ้อน พีชว่าเป็นช่วงอายุที่กำลังน่ารัก แล้วเราก็พยายามเลี้ยงเขาอย่างธรรมชาติที่สุด อะไรที่เขาอยากทำอยากสำรวจถ้ามันไม่อันตรายต่อตัวเขา เราจะให้เขาทำทั้งหมด ความเลอะเทอะไม่ใช่สิ่งที่เรากลัว เพราะฉะนั้นเขาจะได้เล่นเต็มที่เลย พ่อแม่ก็จะคอยดูอยู่ข้างๆมากกว่า
- มีวิธีรับมือกับวัย Terrible Twos อย่างไรบ้างคะ
ถ้าเรื่องไหนที่ไม่ได้จริงๆ พีชใช้วิธีพูดกับเขาค่ะ เน้นน้ำเสียงจริงจังหนักแน่น เพราะพีชสังเกตดู คือถ้าสมมติเราเสียงเข้มกับเขา เขาก็จะรู้สึกว่าแม่กำลังโกรธ แม่ไม่พอใจแล้วนะ เขาก็จะเข้ามาหาเข้ามาอ้อน เขาอาจจะไม่ได้เข้าใจประโยคที่เราอธิบายทั้งหมด แต่เขาเข้าใจจากน้ำเสียง
- เริ่มวางแผนอนาคตให้น้องเต็นท์หรือยังคะ
ยังไม่ได้คิดไปไกลมากค่ะ เริ่มคิดเรื่องโรงเรียนก่อน ตอนนี้ก็ให้เขาไปเตรียมความพร้อมโรงเรียนใกล้ๆบ้าน ไปแค่ 3 ชั่วโมงไปเล่น ไปฝึกเจอเพื่อน เจอคนแปลกหน้า ส่วนโรงเรียนอนุบาลก็ค่อยๆดู ช่วงนี้เป็นช่วงหาข้อมูล เก็บข้อมูลค่ะ สิ่งที่พีชคำนึงมากที่สุดคืออยากให้เขามีความสุข ดังนั้นจะเลี้ยงอย่างไงก็ได้ขอให้ลูกมีความสุข โดยยังเป็นคนที่มีระเบียบวินัย และมีขอบเขตในการประพฤติตัวที่ไม่สุดโต่งจนเกินไปค่ะ
- มีเรื่องน่ารักของลูกชายที่คุณแม่ปลื้มสุดๆไหมคะ
เรานอนด้วยกันตลอด เขาก็จะกอดเรา พีชว่าการที่เราได้กอดกันทุกวัน มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะรู้ว่าอีกไม่นานเขาคงไม่กอดเราแล้ว
- แล้วโมเมนต์น่ารักๆของพ่อลูกที่คุณพีชประทับใจล่ะคะ
พี่ติ๊กเป็นคนที่อยู่กับเด็กแล้วน่ารัก เขาเป็นคนที่เล่นกับเด็กเก่งอยู่แล้ว แล้วเวลาที่เขาเล่นกับลูกเราจะแอบเห็นเขาทำเสียงเล็กเสียงน้อย หาอะไรมาเล่นกันเยอะมาก เวลาเล่นกันก็จะสนุกเต็มที่มอมแมมไปทั้งคู่เลย เหมือนเด็กโตกับเด็กเล็กเล่นกัน (หัวเราะ) นอกจากเรื่องเล่นแล้วก็จะมีเรื่องที่เขาดูแลลูก อาบน้ำให้ลูกทุกวัน แล้วพี่ติ๊กเขาทำคล่อง ทำคนเดียวได้ เพราะถ้าพีชอาบให้ลูกจะต้องมีคนช่วย เพราะถ้าหันหลังปุ๊บเต็นท์วิ่งไปแล้ว มันจะวุ่นวายมาก
- วางแผนมีน้องให้น้องเต็นท์อีกคนไหมคะ
อยากมีนะคะ ตอนนี้ก็พยายามดูแลสุขภาพตัวเองไปเรื่อยๆ เพราะพีชกับพี่ติ๊กเราเห็นตรงกันว่าการมีพี่น้องมันสนุก เราทั้งคู่ต่างคนก็มีพี่น้อง สมมติในอนาคตที่เราไม่อยู่แล้ว เขาจะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียว เขาจะได้มีคู่หูมีคู่คิดค่ะ
- ตอนนี้น้องเต็นท์เริ่มโตแล้วคุณพีชกลับมาทำธุรกิจอีกครั้ง ทำไมถึงเลือกธุรกิจเสื้อผ้าเด็กล่ะคะ
พีชชอบเรื่องแฟชั่นและดีไซน์อยู่แล้ว ก่อนแต่งงานเคยทำร้าน Q Concept ซึ่งเป็น Concept Store ที่รวบรวมเฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้านจากหลากหลายแบรนด์ ได้ไปเลือกของเอง ทำมาตลอดแต่เลิกทำก็เพราะตั้งใจจะมีลูก พอมีลูกก็อยากทำเสื้อผ้าให้ลูกแหละ เพราะพีชชอบเสื้อผ้าแนวเท่ๆ แฟชั่นๆ แต่บ้านเรายังไม่มีเสื้อผ้าเด็กแนวนี้ออกมา หรือถ้ามีก็เป็นแบรนด์ต่างประเทศที่ราคาค่อนข้างสูงมาก พีชก็เริ่มพัฒนาความคิดไอเดียต่อไปเรื่อยๆ จนอยากทำจริงจัง พี่ติ๊กก็เชียร์ให้ทำแบรนด์ตัวเองเราจะได้ปล่อยไอเดียได้เต็มที่ เจ้าจิ้งจอกแสนซนหรือ LittleFox จึงเกิดขึ้นมาค่ะ
- แบบนี้คุณพีชได้ลงมือทำเองทุกขั้นตอนเลยหรือเปล่าคะทั้งเรื่องดีไซน์และอื่นๆ
พีชเป็นคนคิดคอนเซ็ปต์ทั้งหมด เป็นคนวางโครงหลัก และมีน้องอีกคนมาช่วยเพราะเราก็ยังต้องเลี้ยงลูก คือไม่มีเวลาอยู่ออฟฟิศตลอด เมื่อได้ธีมของแต่ละคอลเลคชั่นแล้วก็คิดไว้เลยว่าสีจะเป็นโทนไหน เราจะใช้ผ้าอะไร แล้วก็พัฒนาสิ่งที่เราคิดให้ไปด้วยกัน
- ส่วนใหญ่การออกแบบแต่ละคอลเลคชั่นได้แรงบันดาลใจมาจากไหนคะ
แรงบันดาลใจมาจากทุกที่เลยค่ะ ทั้งตอนไปเที่ยว ดูหนัง หรืออ่านหนังสือ อะไรที่เราว่ามันน่าสนใจก็จะดึงมันออกมา
ซึ่ง LittleFox เราเป็นบูทีค คอลเลคชั่นหลักๆของเราคือ Spring และ Summer สองคอลเลคชั่นนี้เสื้อผ้าจะแนวแฟชั่น มีดีเทล มีลูกเล่นเยอะนิดหนึ่ง ไว้ใส่ออกนอกบ้าน และคอลเลคชั่น Basic ซึ่งเป็นชุดลำลองน่ารัก สำหรับใส่อยู่บ้าน เน้นเสื้อยืดใส่สบายที่เราออกแบบลายผ้าเอง ทำเป็นทรงต่างๆ จริงๆใส่เที่ยวได้ด้วย เป็นวันสบายๆ
- ตอนนี้มีหน้าร้านไหมคะหรือเน้นออนไลน์อย่างเดียวคะ
เราขายออนไลน์เป็นหลักค่ะ เพราะแม่ๆส่วนใหญ่ต้องอยู่กับลูกก็จะไม่มีเวลาออกมาช้อปปิ้ง ถ้าสั่งซื้อออนไลน์มันก็ง่าย เพราะพีชเองพอมีลูกก็เน้นช้อปปิ้งออนไลน์เหมือนกัน แต่ก็จะมีไป Pop upตามห้างบ้างแบบชั่วคราว แต่ถ้าใครสนใจอยากเข้ามาดูแบบพาลูกมาลองชุด โทรเข้ามานัดที่โชว์รูมได้เลยค่ะ
อนาคตมีแผนทำเสื้อผ้าผู้ใหญ่ด้วยไหมคะ เห็นมีแฟนคลับเรียกร้องอยากให้ทำเสื้อผ้าผู้ใหญ่บ้าง
ที่จริงรายละเอียดของเสื้อผ้าผู้ใหญ่กับเด็กมันต่างกัน ตอนนี้เราอยากทำเสื้อผ้าเด็กให้ดีที่สุดก่อน แต่ไม่แน่ค่ะอาจจะมีคอลเลคชั่นพิเศษสำหรับแม่ลูกออกมาบ้างต้องติดตามนะคะ
สัมภาษณ์และเรียบเรียง นันทวรรณ์ ภู่ศรี ช่างภาพ กัญชนิกา เมืองวงษ์ ผู้ช่วยช่างภาพ จักรพงษ์ นุตาลัย วรรณรดา เต่าบำรุง Acting Coach มัลลิกา ชัยทวีพร