พี่ภู น้องเภา สองพี่น้องสะกิดใจ หนุ่มน้อยของพ่อป๋อและแม่เอ๋ มักมีรูปจุ๊บกันน่ารักมาฝากแฟนคลับอยู่เสมอ วันนี้ AMARIN Baby & Kids รวบรวมโมเม้นท์น่ารักของน้องภู และน้องเภา มาให้ทุกท่านได้ชมกัน พร้อมกับเทคนิค พาลูกเข้านอนพร้อมกัน โดยที่คุณพ่อคุณแม่อาจไม่เคยทราบมาก่อน
พี่ภู น้องเภา สองพี่น้องสุดน่ารัก หอมแก้มกันก่อนนอน
ประโยชน์ของการ พาลูกเข้านอนพร้อมกัน
- ประหยัดขั้นตอนให้คุณพ่อคุณแม่
การอาบน้ำ ใส่ชุดนอน กินของว่างหรือดื่มนมก่อนนอน เสร็จแล้วแปรงฟัน อ่านนิทาน ฯลฯ ค่อยเข้านอน แม้ว่าขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้จะใช้เวลาทวีคูณขึ้นเมื่อต้องทำพร้อมกันสำหรับบ้านที่มีลูกสองคน (โดยเฉพาะเมื่อลูกไม่ได้อาบน้ำด้วยกัน หรือชอบนิทานกันคนละเรื่อง) แต่ก็ยังเสียเวลาน้อยกว่าการเอาลูกแต่ละคนเข้านอนในเวลาต่างกันอยู่ดี
- ป้องกันลูกเข้าใจผิด
เพราะการให้พี่คนโตเข้านอนดึกกว่าทำให้ดูเหมือนว่าพี่ได้รับรางวัลเป็นสิทธิพิเศษ และอาจทำให้น้องคิดว่าการที่เขาต้องเข้านอนก่อนคือรูปแบบการลงโทษอย่างหนึ่ง เช่น น้องอาจคิดว่า ทำไมพี่ถึงนอนดึกกว่าได้ ทำไมพี่ได้อยู่กับพ่อแม่นานกว่าล่ะคะ หรือคุณพ่อคุณแม่รักพี่มากกว่าหนูใช่ไหม เลยอยากให้ไปนอนเร็วๆ เป็นต้น
- เพิ่มเวลาส่วนตัว
ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ได้ใช้เวลาแบบผู้ใหญ่ ด้วยกันมากขึ้น
- เด็กโตก็ต้องนอนให้เต็มอิ่มนะ
เด็กวัยเรียนมักตื่นตัวและมีกิจกรรมที่ต้องทำตลอด โดยไม่ได้งีบหลับระหว่างวันเหมือนเมื่อตอนอยู่อนุบาล แต่พ่อแม่ต้องไม่ลืมว่าเด็กๆ เหล่านี้ก็ต้องการการพักผ่อนนานเหมือนๆ กับน้องตัวเล็กนั่นแหละ เพราะฉะนั้นให้เข้านอนแต่หัวค่ำย่อมดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม เรื่องสำคัญที่คุณไม่ควรลืมหากให้ลูกเข้านอนพร้อมๆ กัน คือ ลูกแต่ละคนควรมีช่วงเวลาส่วนตัวกับพ่อแม่ทุกๆ วันโดยไม่มีพี่หรือน้องมาเกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาสายสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูก สร้างความรู้สึกมั่นคงให้ลูก แถมยังช่วยลดความขัดแย้งและการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างพี่น้องเพื่อแย่งความสนใจจากพ่อแม่ด้วย ที่สำคัญ การที่ลูกเข้านอนด้วยกันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะต้องทำอะไรด้วยกันทุกอย่างนี่นะ
ถ้าหากพี่คนโตดูเหมือนยังไม่อยากเข้านอนในเวลาที่น้องเริ่มง่วงแล้ว คุณควรฝึกให้ลูกขึ้นเตียงพร้อมๆ กัน แต่อนุญาตให้พี่อ่านหนังสือหรือเล่นอะไรเงียบๆ บนเตียงตามลำพังได้สักระยะเวลาหนึ่ง (โดยอย่าลืมหรี่ไฟในห้องไม่ให้สว่างจ้าเกินไป) จนกระทั่งลูกพร้อมจะนอนค่ะ
ภาพ : aey_pornthip