โรคไข้เลือดออก อันตรายต่อคนทุกเพศทุกวัย
ผู้ป่วยแต่ละรายจะมีความรุนแรงของอาการแตกต่างกัน ขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น อายุ ภูมิคุ้มกันของร่างกาย เป็นต้น การติดเชื้อไข้เลือดออกครั้งแรกผู้ป่วยมักมีอาการไม่รุนแรง แต่หากติดเชื้อครั้งที่ 2 ด้วยเชื้อต่างสายพันธุ์กับครั้งแรก อาการมักจะรุนแรงถึงขั้นเลือดออกหรือช็อกได้
ผู้ป่วย ไข้เลือดออก ในระยะที่มีไข้สูงจะมีเชื้อไวรัสเดงกีอยู่ในกระแสเลือด เมื่อยุงลายมากัดผู้ป่วย เชื้อไวรัสนั้นก็จะเข้าสู่ตัวยุง จากนั้นเชื้อจะเพิ่มจำนวนขึ้นในตัวยุงและไปรวมกันที่ต่อมน้ำลายของยุง เมื่อยุงไปกัดคนครั้งต่อไปจึงแพร่เชื้อเข้าสู่คนที่โดนยุงตัวนั้นกัดนั่นเอง
อาการของโรคไข้เลือดออก
- มีระยะฟักตัวของเชื้อก่อนที่จะแสดงอาการ 5-8 วัน
- มีไข้สูงลอย 2-7 วัน (38.5-41 องศาเซลเซียส)
- ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา ร่วมกับปวดตามกล้ามเนื้อมาก
- บางรายมีเลือดออกผิดปกติ เช่น ถ่ายเป็นสีดำ อาเจียนเป็นเลือด เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน มีจุดเลือดออกที่ผิวหนัง
- อาจพบตับโต คือ กดเจ็บบริเวณใต้ชายโครงขวา
** ในรายที่รุนแรงจะมีภาวะช็อก หากรักษาไม่ทัน ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ภายใน 24-48 ชั่วโมงเท่านั้น **
ดังนั้น การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การช่วยกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงที่อยู่ภายในบ้านให้หมดไป และอย่าลืมทายากันยุงที่ปลอดภัยต่อผิว และมีกลิ่นที่อ่อนโยน ให้เหมาะสมกับวัยของลูกน้อยกันด้วยนะคะ
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
- อาการขั้นวิกฤต ไข้ลด ตัวเย็น เสี่ยงช็อกเสียชีวิต จากไข้เลือดออก!
- รู้ไหมว่า ไข้เลือดออก กับ ไข้หวัดใหญ่ ต่างกันอย่างไร?
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่