7 ข้อควรพิจารณา ก่อนเลือกเนอสเซอรี่ให้ลูก - amarinbabyandkids
เลือกเนอสเซอรี่ให้ลูก

7 ข้อควรพิจารณา ก่อนเลือกเนอสเซอรี่ให้ลูก!

event
เลือกเนอสเซอรี่ให้ลูก
เลือกเนอสเซอรี่ให้ลูก


ขอบคุณคลิปวีดีโอจาก : 新京报

ทั้งนี้เด็กในศูนย์เนอสเซอรี่ดังกล่าวคาดว่ามี 25 คน อายุระหว่าง 1 ขวบครึ่ง ถึง 2 ขวบ และเหตุการณ์นี้น่าจะเกิดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ เมื่อเรื่องแดงขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทางบริษัทโมเดิร์น แฟมิลี เจ้าของศูนย์ ปิดเนอสเซอรี่ดังกล่าวให้ตำรวจสอบสวน มีครู 3 คน พนักงานทำความสะอาดอีกคนถูกควบคุมตัว

ข้อควรพิจารณาก่อนพาลูกไปฝากเนอสเซอรี่

เลือกเนอสเซอรี่ให้ลูก

อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ หรือสถาบันพัฒนาเด็กเล็กที่ยังไม่ได้เข้าเรียน หรือที่เรียกกันว่า เนอสเซอรี่ เกิดขึ้นมากมาย และสำหรับเด็กที่อายุต่ำสุดที่เปิดรับได้จะขึ้นอยู่กับความพร้อมของเนอสเซอรี่แต่ละแห่ง เกี่ยวกับเรื่องนี้แพทย์หญิงสุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจกุมารแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิด ได้มีข้อควรพิจารณาก่อนพาลูกไปฝากเนอสเซอรี่มาแนะนำดังนี้ค่ะ

1. ครอบครัวเดี่ยวที่พ่อแม่ทำงานนอกบ้านทั้งคู่ ในช่วงเวลาที่พ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วย ใครเป็นผู้ดูแลลูก ไว้ใจได้หรือไม่ และผู้ดูแลเข้าใจธรรมชาติของเด็กมากน้อยแค่ไหน มีการกระตุ้นพัฒนาการหรือเปิดโอกาสให้ลูกได้ทำกิจกรรมที่สมวัยหรือไม่

ถ้ามีผู้ดูแลที่ดีมีคุณภาพอยู่แล้ว และลูกก็ดูมีความสุขดี ให้เขาอยู่บ้านดีที่สุด รอเข้าเรียนอนุบาลตอนอายุ 3 ขวบทีเดียวเลย เพราะโอกาสที่ลูกจะติดเชื้อโรคมีน้อยกว่า หรือหากติดเชื้อ อาการก็มักรุนแรงน้อยกว่าเด็กที่เล็กมากๆ ไม่ต้องห่วงว่าลูกจะเรียนสู้เพื่อนๆ ไม่ได้ เพราะแม้เข้าเรียนช้ากว่า แต่เมื่อวัยพร้อม เดี๋ยวเดียวก็เรียนทันกันค่ะ

2. นโยบายการดูแลลูกของผู้ดูแลไม่ตรงกับใจของพ่อแม่ เช่น ตามใจมากไป ให้กินขนมหวานทั้งวัน ให้ดูทีวีหรือเล่นเกมมากไป ครั้นพ่อแม่จะขัดแย้งหรือไม่ให้ทำ ก็อาจเกิดอาการงอนจากผู้ดูแลได้  ลูกอยู่ในวัยซน ชอบปีนป่าย วิ่งเล่นเกือบตลอดเวลา ทำให้มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุหากไม่มีใครคอยประกบหรือวิ่งตาม แต่ผู้ดูแลอายุมากแล้ว เดินตามไม่ไหว หรืออาจทำให้เหนื่อยเกินจนเป็นอันตรายต่อหัวใจได้

3. บางครั้งผู้ดูแลลูกที่บ้านอาจติดธุระหรือเจ็บป่วยกะทันหัน ทำให้พ่อแม่ต้องลางานเพื่อดูแลลูกเอง แต่ถ้าเป็นสถานรับเลี้ยงเด็ก ก็คงหาคนมาแทนได้อย่างทันท่วงที

เลือกเนอสเซอรี่ให้ลูก

4. ในกรณีที่เป็นลูกคนเดียว ไม่มีเด็กแถวบ้านหรือญาติพี่น้องที่เป็นเด็กด้วยกันมาเล่นด้วย เด็กอาจขาดทักษะในการเล่นกับเด็กคนอื่น หรือบางคนแทบไม่เจอใครเลยในแต่ละวันนอกจากพ่อกับแม่ ทำให้กลัวคนแปลกหน้า เข้ากับคนอื่นได้ยาก ในกรณีเช่นนี้ การพาลูกไปเข้ากลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ สนามเด็กเล่นในหมู่บ้าน หรือสถานพัฒนาเด็กเล็ก อาจช่วยให้เด็กคุ้นเคยกับผู้อื่นได้ดีขึ้น

5. อยู่บ้านแล้วสบายเกินไป มีคนทำให้ทุกอย่าง แทบไม่ต้องกระดิกตัวทำอะไรเองเลย ทำให้ขาดโอกาสในการพัฒนาความสามารถ บางคนจะเข้าเรียนแล้วยังกินข้าวเองไม่เป็น ใช้ห้องน้ำไม่เป็นเพราะใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปตลอดเวลา ขาดระเบียบวินัย เช่น เล่นของแล้วไม่เก็บ รอคิวไม่เป็น เด็กบางคน พ่อแม่ฝึกเองเท่าไรก็ไม่สำเร็จ แต่พอส่งไปเรียนปุ๊บทำได้เลย เพราะเกรงใจครู กลัวครูไม่รัก ซึ่งครูจะชมว่าเรียบร้อยน่ารักมากเวลาอยู่ที่โรงเรียน แต่พออยู่บ้านเป็นอีกแบบหนึ่ง เพราะรู้ว่าถึงอย่างไรพ่อแม่ก็รักและตามใจ

อ่านต่อ >> “ข้อควรพิจารณาก่อนพาลูกไปฝากเนอสเซอรี่” คลิกหน้า 3

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up