จากกรณีข่าวดัง เด็กตกตึก จนเสียชีวิต ทำให้หลายครอบครัวคงต้องกลับมาตั้งคำถามกันว่า เราดูแลลูกดีพอแล้วหรือยัง? เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้เพียงเสี้ยววินาทีค่ะ
เด็กตกตึก จนเสียชีวิต อุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิด
เป็นอีกหนึ่งข่าวดัง ที่คุณพ่อคุณแม่ให้ความสนใจมากๆค่ะ สำหรับกรณี เด็กตกตึก จนเสียชีวิต ซึ่งเด็กทั้ง 4 คนที่พลัดตกจากตึกที่อยู่อาศัยนั้น เป็นพี่น้องกัน และหนึ่งในนั้นเป็นเด็กน้อยวัยเพียง 5 ปี ที่เสียชีวิตแล้วจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งจากข่าวที่ได้มีการเผยแพร่นั้น เผยว่า สาเหตุเกิดจากการที่เด็กทั้ง 4 คนนั้น ถูกปล่อยให้อยู่กันเองตามลำพัง จนเกิดเหตุการณ์สะเทือนใจครั้งนี้ขึ้น
ด้าน รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องของทักษะความปลอดภัย ที่พ่อแม่คววรฝึกให้ลูก เพื่อจะได้เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์สลดใจขึ้น จึงได้มีการจัดบรรยาย “ บทเรียนพ่อแม่ กรณี เด็กตกตึก ” ซึ่งคุณหมอ อดิศักดิ์ ได้กล่าวว่า
“โดยหลักการแล้วเด็กจะสามารถอยู่ได้ด้วยตนเองเมื่ออายุประมาณ 12 ปี แต่เด็กต้องได้รับการฝึกฝน ได้รับการสอน จัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัยและได้รับการประเมินแล้วว่าสามารถอยู่ได้ตามลำพัง โดยต้องฝึกเด็กตั้งแต่อายุ 10 ปีขึ้นไป มีการฝึกการทดสอบการแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมถึงกรณีฉุกเฉินด้วย ซึ่งเป็นลักษณะเด็กอยู่คนเดียว (Home Alone) แต่กรณี เด็กตกตึก 4 คนที่เป็นข่าว ไม่ใช่ลักษณะเด็กอยู่คนเดียว แต่เด็กที่เป็นพี่คนโตวัย 11 ปีต้องดูแลน้องอีก 3 คน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเด็กอยู่คนเดียว หรือเด็กที่ต้องดูแลน้องโดยไม่มีผู้ใหญ่อยู่ ต้องมีทั้งวุฒิภาวะ และต้องได้รับการฝึกฝน ทั้งนี้ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็ก และ ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยในเด็ก ได้จัดทำโครงการทักษะความปลอดภัยที่แบ่งตามอายุของเด็ก 10 ทักษะความปลอดภัยที่เด็กต้องเรียนรู้ในโรงเรียน โดยพฤติกรรม Home Alone จะเริ่มสอนตอนอายุ 10 ปี ให้เด็กเรียนรู้เรื่องการตัดสินใจ การแก้ปัญหาฉุกเฉิน การถูกล่อลวง เป็นต้น เพราะเหตุฉุกเฉินมีอีกหลายกรณีไม่ใช่เรื่องเด็กตกตึกเท่านั้น ดังนั้น ต้องช่วยกันสร้างแนวคิดให้สังคมหันมาสนใจ โดยต้องยกระดับความรู้สึกร่วมรับผิดชอบให้เพิ่มขึ้น”
กรณี เด็กตกตึก อาจจะไม่เกิดขึ้น หากเด็กมีความพร้อมดังนี้
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่