อุปกรณ์ชิ้นใหม่นี้มีชื่อว่า Babypod คิดค้นโดยทีมงานของสถานพยาบาลเฉพาะทางสูตินรีเวชชื่อ Institut Marqués ที่ประเทศสเปน แต่วิธีใช้นั้น…จั๊กจี้ไม่น้อย เพราะคุณแม่ต้องใส่เจ้าอุปกรณ์นี้ทางช่องคลอดเหมือนผ้าอนามัยแบบสอดเลยล่ะค่ะ เพื่อให้เบบี๋ในครรภ์ได้ยินเสียงเพลงได้อย่างชัดเจน ตามที่เว็บไซต์ของผลิตภัณฑ์ Babypod ระบุไว้
เสียงที่เจ้าเครื่อง Babypod เล่นนั้นมีระดับความดังเพียง 54 เดซิเบล หรือเท่ากับเสียงที่เงียบมากๆ และคุณแม่ยังสามารถเสียบสายหูฟังเพื่อฟังเพลงไปพร้อมๆ กับลูกน้อยได้อีกด้วย
อุปกรณ์นี้ประดิษฐ์ขึ้นจากผลการวิจัยของสถาบัน Institut Marqués เองซึ่งค้นพบว่าทารกในครรภ์สามารถรับรู้และยังตอบสนองทางร่างกายต่อเสียง เมื่อมีอายุได้ 18 สัปดาห์อีกด้วย อ้างอิงจากข่าวของ The New York Times
นอกจากนี้ในเว็บไซต์ของ Babypod ยังบอกข้อมูลจากงานวิจัยดังกล่าวด้วยว่า การให้ทารกฟังเสียงผ่านช่องคลอดนั้นดีกว่า เพราะเสียงที่ทารกได้ยินผ่านหน้าท้องนั้นเป็นเพียงเสียงอู้อี้ ร้อยละ 87 ของเบบี๋ในท้องตอบสนองเสียงที่ได้ยินผ่านช่องคลอดด้วยการขยับตัวและศีรษะ บางครั้งก็เปิด-ปิดปาก แลบลิ้น หรือทำท่าทำทางด้วย เป็นสิ่งที่ไม่มีใครเคยพบมาก่อน
แม้ความคิดเห็นจากคุณแม่ๆ ที่ได้ใช้งานเจ้า Babypod จริงนั้นจะค่อนข้างพึงพอใจ แต่อุปกรณ์นี้เป็นสิ่งประดิษฐ์จากผลการวิจัยจากสถาบันเพียงแห่งเดียวเท่านั้น เรามีข้อควรระวังบางประการ ซึ่งคุณหมอชัญวลี ศรีสุโข สูตินรีแพทย์โรงพยาบาลพิจิตร ได้ฝากไว้ผ่านทางแฟนเพจเฟสบุ๊ค ชัญวลี ศรีสุโข หมอหวิว ดังนี้ค่ะ
มีคำถามจากรูปข้างล่างมาว่าคุณหมอคะ เพื่อนส่งมาเป็นเครื่องเปิดเพลงให้ลูกในท้องฟัง แต่ต้องใส่เข้าไปในช่องคลอด จะดีไหมคะ เ…
โพสต์โดย ชัญวลี ศรีสุโข หมอหวิว บน 9 มกราคม 2016
“ทางการแพทย์เชื่อว่าเด็กฟังเสียงได้ตั้งแต่ 6 เดือน จะได้ยินชัดหากฟังเสียงผ่านทางหน้าท้อง
แต่การจะเอาเพลงใส่ช่องคลอดนี้ ไม่มีการรับรองทางการแพทย์ว่าจะปลอดภัย ด้วยคนท้องมีตกขาวมาก การใส่ของไปในช่องคลอดอาจเพิ่มการอักเสบติดเชื้อ มีข้อห้ามสำหรับคนรกเกาะต่ำ ตกเลือด ซึ่งอาจทำให้คลอดก่อนกำหนด แทนที่จะฉลาดอารมณ์ดีจากการฟังเพลง อาจจะมีปัญหาประสาทหูและความพิการจากการคลอดก่อนกำหนดแทน
ให้คุณพ่อร้องให้ฟัง กระซิบผ่านทางหน้าท้องคุณแม่จะไม่ดีกว่าหรือคะ
ไม่อันตราย ทั้งไพเราะจัง
แถมตังค์อยู่ครบ”
อย่างไรก็ตาม การดูแลเอาใจใส่ในเรื่องพื้นฐานของคุณแม่ตั้งครรภ์ ทั้งการกิน การพักผ่อน การดูแลรักษาสุขภาพขณะตั้งครรภ์ย่อมเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด จริงไหมคะ
ที่มา : people.com