นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวหลังการประชุม DDC Forum เกี่ยวกับอันตรายจาก เครื่องทำน้ำอุ่น ระบบแก๊ส โดยเฉพาะในช่วงที่มีอากาศเย็น ประชาชน และนักท่องเที่ยวต่างนิยมไปเที่ยวพักผ่อนตามสถานที่ต่างๆ จึงอาบน้ำอุ่น และพบผู้ที่อาบน้ำเสียชีวิต
เครื่องทำน้ำอุ่น ระบบแก๊ส
จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรค และภัยสุขภาพของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ในปี 2551-2559 มีรายงานว่าตลอด 9 ปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ทั้งหมด 16 เหตุการณ์ พบผู้ป่วย จำนวน 27 คน และผู้เสียชีวิต จำนวน 6 คน ขณะอาบน้ำในห้องน้ำ เพราะใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส ที่จังหวัดเชียงใหม่ และเชียงราย เป็นเพศหญิง 61% พบตามสถานที่พักตากอากาศ รีสอร์ท โรงแรม ที่พักราชการ สถานที่ปฏิบัติธรรม รวมถึงในบ้าน และในโรงเรียนด้วย
จากการรายงานล่าสุดเมื่อปี 2559 พบผู้ป่วย 4 คน หลายเหตุการณ์มีการอาบน้ำต่อเนื่องกันหลายคน ซึ่งพบตั้งแต่ เด็ก อายุ 2 ขวบ – ผู้ใหญ่ อายุ 54 ปี ส่วนใหญ่เกิดในช่วงเดือนธันวาคม – มกราคม โดยเฉพาะในปี 2558 ได้รับการรายงานว่า มีผู้ป่วยสัมผัสกับแก๊สพิษจากการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส จำนวน 4 เหตุการณ์ จากจังหวัดทางภาคเหนือ พบผู้ป่วย 10 คน เสียชีวิต 2 คน
คนที่เสียชีวิตมักจะเป็นคนที่อาบน้ำเป็นลำดับท้ายๆ หรือหลังจากที่มีคนอาบน้ำไปแล้วหลายคน และห้องน้ำที่ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊สมักจะเป็นห้องน้ำที่มีขนาดเล็ก มีช่องระบายอากาศน้อย หรือไม่มีเลย และไม่ได้ติดตั้งพัดลมระบายอากาศ ซึ่งพบว่าทุกเหตุการณ์ เป็นเครื่องทำน้ำอุ่นที่ไม่มี มอก.
สาเหตุที่ทำให้ป่วย และเสียชีวิต คือ เกิดจากเครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส เผาไหม้ออกซิเจนเพื่อทำความร้อน และสร้างคาร์บอนไดออกไซด์ และคาร์บอนมอนอกไซต์ขึ้นมา ทำให้ห้องน้ำที่ไม่มีระบบระบายอากาศที่ดี เกิดการสะสมของก๊าซพิษ และเมื่อคนสูดดมเข้าไป ก็จะทำให้เม็ดเลือดแดงจับออกซิเจนได้น้อยลง ร่างกายเมื่อขาดออกซิเจนก็เกิดอาการ วิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ มึนงง หน้ามืด หายใจลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน ซึม หมดสติ และเสียชีวิต
กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงมากที่สุด คือ คนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคโลหิตจาง หอบหืด ถุงลงโป่งพอง โรคความดันโลหิตสูง เมื่อได้รับแก๊สพิษจะมีความเสี่ยงเสียชีวิตสูง
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่