จากกระแสโลกออนไลน์ที่มีการแชร์ภาพ และข้อความจากเฟซบุ๊กของ Klanarong Srisakul ซึ่งเป็นภาพของบัณฑิตใหม่ป้ายแดง จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคนหนึ่ง ขณะก้มลงกราบเท้าพ่อ ที่ทำงานเป็นพนังงานขับรถขนขยะ …
พร้อมระบุข้อความในใจว่าด้วยเรื่องของพ่อ โดยบัณฑิตคนดังกล่าวได้พูดถึง “พ่อ” ที่ทำงานเป็นพนังงานขับรถขนขยะ ว่าในสมัยเด็กนั้นตนอายที่พ่อทำงานนี้ แต่พอโตขึ้นพ่อได้พยายามส่งเสียให้เรียนจน ทำให้ลูกคนเก็บขยะคนนี้ มายืนตรงนี้ได้ พร้อมเล่าเรื่องราวสุดประทับใจ และทิ้งท้ายว่า “ขอบคุณที่มีพ่อเป็นพ่อ ขอบคุณที่สนับสนุนทุกอย่าง ขอบคุณที่เหนื่อยไปด้วยกัน ร้องไห้ด้วยกัน ซึมไปด้วยกัน วันนี้ก็อยากให้พ่อมีความสุขกับความสำเร็จ ที่เราเหนื่อยมาด้วยกัน ขอบคุณจริงๆ ลูกคนเก็บขยะคนนี้ทำให้พ่อของมันภูมิใจได้แล้ว พ่อไม่ต้องอายอะไรใครทั้งนั้น เพราะพ่อคือ พ่อคนดีที่หนึ่ง ไม่แพ้ใคร แม็กภูมิใจ”
ภายหลังภาพดังกล่าว และเรื่องราวสุดประทับใจนี้ ได้ถูกเผยแพร่และมีการแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมาก จนเกิดเป็นกระแสแสดงชื่นชมในความรักของพ่อลูกคู่นี้
ซึ่งผู้เป็นพ่อ ได้เปิดใจเล่าให้ฟังว่า หลังจากลูกชายไปรับชุดครุย ได้โทรศัพท์มาถามว่า ตนเลิกงานเวลาใด จากนั้นก็มาหาตน พร้อมกับก้มลงกราบเท้าหน้ารถถังขยะ “วันนั้นผมตกใจมาก ที่เห็นลูกทำแบบนั้น รู้สึกดีใจและภูมิใจจนพูดไม่ถูก ผมร้องไห้ เขาก็ร้องไห้ ตอนเด็กๆ เขาเคยถามผมว่า ทำไมผมไม่เป็นทหาร เป็นตำรวจแต่งตัวดีๆ ผมบอกว่าผมจบแค่ ป.4 ไม่มีความรู้ทำงานแบบนั้นไม่ได้ ผมสอนเขาเสมอให้ตั้งใจเรียนให้สูงๆ จะได้เป็นเจ้าคนนายคน ไม่ต้องมาลำบากเหมือนพ่อ ตอนเขาสอบเข้าจุฬาฯได้ผมดีใจมาก แต่เขาเรียนมหาฯลัยไฮโซ ผมเป็นแค่คนเก็บขยะก็กลัวว่าลูกจะอาย เขาต้องประหยัดค่าใช้จ่าย อยู่หอใน เพื่อนชวนไปไหนก็ไม่ได้ไป เพราะผมไม่มีเงินให้ แต่ผมอยากบอกเขาว่าผมรักและภูมิใจในตัวเขามาก”
นอกจากนี้ผู้เป็นแม่ยังกล่าวอีกว่า พ่อของน้องแม็กนอกจากขับรถขนขยะซึ่งต้องทำงาน 7 วัน ไม่มีวันหยุดแล้ว เมื่อเลิกงานก็จะมาเก็บขยะที่ตลาดไปขายเป็นรายได้เสริม เนื่องจากรายได้ประจำไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย เพราะอยากส่งเสียให้ลูกเรียนจบสูงๆ โดยตนมีลูก 2 คน คนโตเป็นลูกสาวซึ่งกำลังเรียนปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ส่วนคนเล็กคือ “น้องแม็ก” เพิ่งเรียนจบคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่จุฬาฯ โดยจะมีการรับปริญญาในวันที่ 9 ต.ค.นี้
ขอบคุณข้อมูลข่าวและภากจากเว็บไซต์ : http://www.dailynews.co.th/regional/352