ข่าวครอบครัว
ข่าวครอบครัว ครอบครัวเลี้ยงลูกผิดวิธี เลี้ยงลูกให้มีความคิดสร้างสรรค์ พ่อแม่ควรทำอย่างไร ทันโลกทันเหตุการณ์ข่าวที่เกี่ยวกับครอบครัว แม่และเด็ก
เด็กมัธยมปลายสุดเจ๋ง ประดิษฐ์รถเข็นเด็กสำหรับแม่ผู้พิการ!
อัลเดน เคน รู้เพียงน้อยนิดว่าโปรเจคค้นคว้าวิจัยของตัวเองจะสามารถเปลี่ยนชีวิตของผู้อื่นได้มากเพียงใด
อุทาหรณ์! เด็กชายถูก ‘งูเหลือม’ กัดขณะนอนหลับ แม่ใจเด็ดตื่นมาง้างปากงู
เรื่องราวสุดระทึกนี้ถูกเล่าผ่านทางผู้ใช้เฟสบุครายหนึ่งชื่อ Bee Bee เนื่องจากเจ้าตัวเกือบสูญเสียน้องชายไปเพราะขณะที่แม่และน้องชายนอนหลับอยู่ งูเหลือมตัวใหญ่ได้เข้ามาพยายามที่กินน้องชายของเธอ โดยรายละเอียดเรื่องราวมี ดังนี้ น้องนอนอยู่กับแม่ โดนงูเหลือมกัด ดีที่แม่คิดว่าลูกละเมอเลยใช้มือลูบหัวน้องแต่มันลื่นๆ เลยตะโกนให้คนในบ้าน เปิดไฟจึงได้รู้ว่าลูกตัวเองกำลังโดนงูเหลือมที่แสนจะหิวโหยกำลังใช้ตัวพันที่หัวและขยาบหัวลูกอยู่จึงเอามือแกะงูที่รัดหัวลูกออก แล้วร้องตะโกนให้ชาวบ้านช่วย นี่เป็นอุทาหรณ์ ใครมีลูกมีหลานระวังระวังลูกหลานของท่านให้ดี เพราะอาจจะไม่โชคดีเหมือนน้องคนนี้ก็ได้นะค่ะ (หากบ้านท่านไม่มิดชิด) ขณะที่ กรณีดังกล่าวถือเป็นอุทาหรณ์ให้บ้านที่มีเด็กเล็ก ต้องระมัดระวังและหาวิธีป้องกันไม่ให้งู หรือ สัตว์เลื้อยคลาน เข้าบ้าน เราจึงมีวิธีการป้องกันงูเข้าบ้านมาฝากดังนี้ค่ะ 1. อย่าให้บ้านเราเป็นแหล่งรวมอาหารของงู เช่น กำจัดหนูโดยการดัก เบื่อ และจัดบ้านให้สะอาด เป็นระบียบเรียบร้อยไม่รกรุงรัง 2. ทิ้งขยะให้เป็นที่และมิดชิดเพื่อไม่ให้หนูกิน เมื่อประชากรหนูลดลง งูก็จะลดลงตามไปด้วย 3. ท่านใดที่ชอบเลี้ยงสัตว์ก็ควรเลี้ยงสัตว์ที่เป็นศัตรูกับงูเพื่อไว้ไล่งู เช่น เลี้ยงหมา แมว ห่าน เป็นต้น ฯลฯ 4. ลดแหล่งที่อยู่ จัดสภาพแวดล้อมให้ยากและไม่เหมาะสมแก่งูที่จะเข้ามาอาศัยอยู่ หรือทำรังวางไข่ อย่าทิ้งพื้นที่ให้รกซึ่งจะเป็นแหล่งให้งู สามารถหลบซ่อนได้เช่น การอุดรู ใส่ตะแกรงท่อระบายน้ำ หรือทุกเส้นทางที่จะเข้าไปในตัวบ้านกลบหลุมหรือ โพรงที่มีตามสนามหรือขอบรั้ว กำแพง ตัดกิ่งไม้ที่พาดหรือใกล้ชายคาตัวบ้านหรือรั้ว กำแพง […]
ดัชมิลล์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ”นมผงและนมพร้อมดื่ม ยูเอชที ดัชมิลล์ เจ็นไอ นิวทริ วีพลัส”
บริษัทดัชมิลล์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมคุณภาพสูง ที่มียอดขายอันดับหนึ่งของประเทศไทย มากว่า 30 ปี ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “นมผงและนมพร้อมดื่ม ยูเอชที ดัชมิลล์ เจ็นไอ นิวทริ วีพลัส” โดยคุณวิสันติ ลอมตะกุล ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจการค้า ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์นมผงและนมพร้อมดื่มยูเอชที สำหรับเด็กภายใต้แบรนด์ “ดัชมิลล์ เจ็นไอ นิวทริ วีพลัส” (Gen i NUTRI Vi-Plus) ภายใต้ธีมงาน “Intelligent – Insight – Innovation หรือ มหัศ-ทัศนาการ” วัตถุประสงค์หลักคือ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ”นมผงและนมพร้อมดื่ม ยูเอชที ดัชมิลล์ เจ็นไอ นิวทริ วีพลัส” ซึ่งภายในงานจะมีการแนะนำผลิตภัณฑ์ การค้นคว้าจากตัวแทน DIRC (Dutchmill International Research Center) และแชร์ข้อมูลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมเด็ก พร้อมทั้งร่วมพูดคุยกับตัวแทนคุณแม่ยุคดิจิตอล คุณเป้ย ปานวาด เหมมณี บุญยรัตกลิน และครอบครัว […]
เปิดแอร์นอนในรถ อันตราย! เสียชีวิตแล้วหลายราย เพราะอะไร?
ข่าวพบผู้เสียชีวิตจากการ เปิดแอร์นอนในรถ ที่ยังคงมีให้เห็นเป็นระยะ ทำให้เห็นว่า เรายังขาดความรู้ในเรื่องนี้อย่างแท้จริง หลายคนอาจสงสัยว่า เปิดแอร์นอนในรถ อันตรายอย่างไร? มาไขข้อข้องใจพร้อมกันค่ะ
เด็ก 5 ขวบเลือกไปสวรรค์แทนโรงพยาบาล
บทสนทนาของ”มิเชล”ผู้เป็นแม่ และ”จูเลียอันน่า”ลูกสาววัย 5 ขวบ ที่มีอาการป่วยทางพันธุกรรม ซึ่งรักษาไม่หาย แม่ : จูเลียอันน่า ถ้าหนูป่วยอีกครั้ง จะไปโรงพยาบาลหรืออยู่ที่บ้าน จูเลียอันน่า : ไม่ใช่โรงพยาบาล แม่ : นั่นหมายความว่า หนูก็ต้องไปสวรรค์นะ ถ้าหนูไม่ไปโรงพยาบาล จูเลียอันน่า : ใช่ แม่ : แต่หนูรู้ใช่มั้ยว่า พ่อกับแม่ไปด้วยไม่ได้นะ หนูต้องไปด้วยตัวเองก่อน จูเลียอันน่า : ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะพระเจ้าจะดูแลหนูเอง เหตุการณ์นี้ อาจไม่ต้องมีข้อถกเถียงมาก ถ้าคนพูดเป็นผู้ใหญ่ เพราะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร และตัดสินใจได้เอง แต่คนที่พูดคือหนูน้อยวัย 5 ขวบ ที่ชื่อจูเลียน่า สโนว์ เธอกำลังจะเสียชีวิตจากโรคที่รักษาไม่ได้ ตอนนี้อาการยังทรงตัว แต่ถ้าหากมีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย เพียงแค่เป็นเชื้อไข้หวัด เธอก็สามารถเสียชีวิตได้ทันที ซึ่งเธอก็ได้บอก พ่อกับแม่ว่า ถ้าอาการไม่ดีอีก ขอให้พ่อกับแม่ให้เธอได้อยู่บ้านแทนที่จะไปโรงพยาบาล เมื่อจูเลียอันน่า อายุได้ 9 เดือน พ่อแม่ก็พบว่า เธอไม่สามารถนั่งอย่างมั่นคงได้ […]
สุดประทับใจ 20 ปี แห่งการรอคอย เมื่อทารกน้อยในภาพตามหา “พยาบาลใจดี”ของเธอจนเจอ
อีกหนึ่งเรื่องราวสุดประทับใจ ของ Amanda Scarpinati ผู้เป็นเจ้าของภาพถ่ายขาวดำ ซึ่งในภาพเป็นพยาบาลสาวคนหนึ่ง ที่กำลังโอบกอด ทารกน้อยวัยเพียง 3 เดือนคนหนึ่งด้วยความรัก เพราะทารกน้อยคนนั้นถูกไฟคลอกได้รับบาดเจ็บต้องพันผ้าพันแผลทั้งร่าง ซึ่งทารกในรูปนี้ก็คือตัวเธอเองเมื่อ 40 ปีก่อน… Amanda ไม่รู้เลยว่าพยาบาลที่ดูแลเธอในรูปเป็นใคร เธอจึงโพสต์ภาพถ่ายขาวดำในมือลงไปในอินเตอร์เน็ต และขอร้องให้ชาวโซเชียลที่รู้จักผู้หญิงในรูปช่วยตามหาพยาบาลคนนี้ให้เธอ ซึ่งเธอมีข้อมูลว่า ตอนนั้นเธอเข้ารักษาตัวที่ Alnany Medical Center ในปี 1977 และโชคก็เข้าข้างเธอ >> เมื่อมีชาวเน็ตคนหนึ่งได้รับข้อมูลนี้ และบอกว่าตัวเองก็ทำงานที่นั่นในปี 1977 และพยาบาลในรูป คือ เพื่อนร่วมงานของเธอ ชื่อว่า Sue Berger ผู้สอนพยาบาลฝึกหัดที่นิวยอร์ก เมื่อ Amanda รู้ชื่อพยาบาลใจดีของเธอแล้ว ทั้งคู่ก็ได้นัดพบกันเป็นครั้งแรกหลังจากเวลาผ่านไปถึง 20 ปี พวกเธอโผเข้ากอดกัน ด้วยน้ำตานองหน้าอย่างสุดซึ้ง Amanda บอกพยาบาลของเธอว่า “ขอบคุณนะคะ” ส่วน Sue ก็ได้แต่บอกขอบคุณๆ Sue บอกว่า “ฉันช็อกไปเลยที่รู้ว่ามีคนกำลังตามหาฉันอยู่ เธอจำในสิ่งที่ฉันทำได้และจำมันมาโดยตลอด […]
น่ารัก! เมื่อคุณแม่พาลูกสาวเข้าร่วมประชุมรัฐสภายุโรป
เมื่อคุณแม่นักการเมืองชาวอิตาลีพาลูกสาวเข้าประชุมรัฐสภาตั้งแต่วัยเบบี๋ จะน่ารักขนาดไหน ห้ามพลาดเลยค่ะ!
ไอเดียสุดน่ารัก ^_^ คุณแม่สอนทำเบนโตะให้สวยด้วยการร่างภาพ
คุณแม่หลายคนอาจจะเคยเห็นการแชร์ภาพอาหารเฟล ๆ ที่ตั้งใจจะทำให้ออกมาสวยเก๋ กะจะโชว์กันเต็มที่ แต่ความเป็นจริงมันสวนทางกัน ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาดันตรงกันข้าม เละเทะ หน้าตาบูดเบี้ยวไม่เป็นท่า เพราะบางครั้งเราไม่ได้วางแผนในการทำมาก่อน คิดจะทำก็ลงมือทำกันแบบดื้อ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเมนูเบนโตะ หรือข้าวกล่องแนวมุ้งมิ้งที่ทำอย่างไรก็ไม่เห็นเหมือนต้นแบบสักที วันนี้กระปุกดอทคอมเลยนำเคล็ดลับในการทำข้าวกล่องให้ออกมาสวยเป๊ะด้วยวิธีการร่างภาพและวาดแบบออกมาก่อน เป็นเคล็ดลับมาจาก คุณกรุณา สิรกุลยวรรณ (คุณแม่น้องเอแคลร์) เจ้าของเพจ เฟซบุ๊ก My Little Kitchen ที่จะมาช่วยทำให้การทำเมนูเบนโตะเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น แถมทำออกมาแล้วดูเนี้ยบดูดี และในแต่ละเมนูข้าวกล่องหน้าตาดี๊ดีนี้ เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย เห็นทีเจ้าตัวน้อยที่เคยดื้อไม่กินข้าวจะต้องยอมสยบแล้วล่ะ ความน่ารักของคุณแม่ วาดภาพร่างก่อนทำอาหารให้ลูกสาวทาน โดย คุณกรุณา สิรกุลยวรรณ (คุณแม่น้องเอแคลร์) เจ้าของเพจ เฟซบุ๊ก My Little Kitchen โชว์ห่วยนะคะ ไม่ได้วาดมา 10 กว่าปีแล้ว พอดีขุดสมบัติตัวเองแล้วเจอชุดสีน้ำ ได้แค่นี้ก็ได้ใจมากแล้วล่ะ เพราะไม่ได้จับปากกาดินสอมานาน นานจนลืมว่าลายมือตัวเองมันเป็นอย่างไร ทุกกล่องข้าวมีเรื่องราว เดี๋ยวจะวาดมาบังคับดูอีกนะคะ ชื่อกระทู้เราไม่ได้ตั้งเองนะคะ ได้มาจากเชฟร็อก (Chef Rock) ที่ได้กรุณาแชร์ภาพวาดเราไปที่เพจของเชฟ (Chef) ค่ะ […]
สุดซึ้ง! หนูน้อย 3 ขวบ ยอดกตัญญูดูแลแม่ป่วยหนักเพียงลำพัง
สำนักข่าว CCTV รายงานเรื่องราวสุดประทับใจของเด็กหญิง “เฉียนเฉียน” วัย 3 ขวบ จากประเทศจีน ที่กำลังได้รับการยกย่องจากชาวสื่อสังคมออนไลน์ ในจีนจำนวนมากในขณะนี้ เนื่องจากหนูน้อยได้ดูแลแม่บังเกิดเกล้าที่กำลังป่วยหนัก หลังจากประสบอุบัติเหตุชนแล้วหนี ทำให้กระดูกหลายส่วนหักจนขยับไปไหนไม่ได้ ต้องนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลตลอดเวลา เด็กหญิงเฉียนเฉียนดูแลผู้เป็นแม่เพียงลำพัง โดยทำทุกอย่างได้เหมือนผู้ใหญ่ ทั้งป้อนข้าวป้อนน้ำ เช็ดเนื้อเช็ดตัว หรือแม้กระทั่งนำปัสสาวะและอุจจาระของแม่ไปเททิ้ง ก่อนหน้านี้ แม่ของเฉียนเฉียนประสบอุบัติเหตุโดนรถชนแล้วคนขับหนี ทั้งคู่ต้องการเงินมารักษาอาการบาดเจ็บ ซึ่งเป็นเงินหลายหมื่นหยวน ส่วนพ่อของเฉียนเฉียนได้หย่ากับแม่ และขาดการติดต่อไปเป็นเวลานานแล้ว จนรายการโทรทัศน์ได้มาถ่ายทำและเผยแพร่เรื่องราว ของสองแม่ลูกออกไปทางออนไลน์ และบนโลกสื่อสังคมออนไลน์ในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้ผู้คนโทรศัพท์มาแสดงความประสงค์บริจาคเงินและเสื้อผ้าให้แม่-ลูกคู่นี้ ล่าสุดสองแม่ลูกได้รับเงินบริจาคกว่า 6,000 หยวน หรือราว 30,000 บาท รวมถึงเสื้อผ้า อาหาร และข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นอื่นๆ ด้วย ซึ่งนางหวังก็ขอบคุณพลเมืองดีทุกๆ คนที่มีน้ำใจช่วยเหลือเธอและลูก ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : www.krobkruakao.com ขอบคุณคลิปวีดีโอจาก : Multi Media ภาพจาก kaixian.tv
แห่ชื่นชม! 2หนูน้อยยอดกตัญญูบริจาคหนังศีรษะช่วยชีวิตพ่อถูกไฟคลอก
นับเป็นเรื่องราวน่าประทับใจของความกตัญญูแสนบริสุทธิ์ของสองพี่น้องตัวน้อยชาย-หญิง วัย 8 ขวบ และ 6 ปี ทำในสิ่งที่กล้าหาญบริจาคหนังศีรษะเพื่อปลูกถ่ายช่วยชีวิตนาย หวัง ซี่หยง บิดาของทั้งคู่ หลังประสบอุบัติเหตุถูกไฟฟ้าช็อตจนผิวหนังถูกไหม้เสียหาย 90 เปอร์เซนต์ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานายหวัง(ผู้เป็นพ่อของเด็กทั้ง 2)ได้รับการรักษาด้วยการปลูกผิวหนังมาแล้ว 3 ครั้ง โดยตัดผิวหนังจากส่วนอื่นมาแปะตรงผิวหนังที่ถูกทำลาย แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับการรักษาแผลไฟไหม้ทั้งหมด อีกทั้งค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆเกินกว่าที่ครอบครัวจะแบกรับไหว และแม้มีเงินบริจาครวมถึงค่าชดเชยจากการไฟฟ้าแต่มีจำนวนวงเงินจำกัด ทางแพทย์จึงแนะนำให้ภรรยาเขาใช้การปลูกถ่ายผิวหนังจากหนังศีรษะของลูกทั้งสองคนซึ่งเป็นวิธีที่ประหยัดและปลอดภัยที่สุด แต่ด้วยความเป็นแม่ที่ไม่ต้องการเห็นลูกเจ็บปวดและมองว่าโหดร้ายเกินไปจึงปฏิเสธแนวคิดดังกล่าวทันที . . . อย่างไรก็ตาม แพทย์เตือนว่าจำเป็นต้องรีบทำอย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยชีวิตนายหวัง พร้อมทั้งยืนยันว่าผิวหนังเด็กรักษาตัวได้ไว จะงอกกลับคืนมาอย่างรวดเร็วและแข็งแรงแน่นอน ด้วยเวลาชีวิตของสามีเหลือน้อยเต็มที เธอจึงไม่มีทางเลือกต้องไปปรึกษาลูกๆ และเธอต้องประหลาดใจเมื่อหนูน้อยทั้งสองคนตอบตกลงทันทีโดยไม่ลังเล ซึ่งแพทย์ได้ทำการผ่าตัดปลูกถ่ายผิวหนังที่ได้จากศีรษะของลูกสาวและลูกชายให้แก่นายหวัง และทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี สร้างความซาบซึ้งใจกับนายหวังเป็นอย่างมาก ที่ลูกๆยอมทนเจ็บเพื่อช่วยชีวิตของตน ความใจกล้าและกตัญญูของหนูน้อยทั้งสองกลายเป็นที่กล่าวขานทั่วประเทศ ผู้คนต่างพากันยกย่องชื่นชม พร้อมทั้งอวยพรให้หนูน้อยทั้งสองโชคดี ที่มา CCTVNews ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1444566936
5 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก น้องลิซซี่ “หมู ฉึกฉึก” โตเป็นสาวแล้ว!
เเจ้งเกิดเป็นที่รู้จักจากวลีเด็ด “หมูฉึก ๆ” ในโฆษณาเครื่องปรุงรสยี่ห้อดัง จนครองใจผู้ชมทั่วประเทศไปเมื่อ 5 ปีก่อน สำหรับ น้องลิซซี่ เฟลิเซีย ณัฐษณา บุทเชอร์ จนทำให้มีผลงานต่อเนื่องในวงการบันเทิงไม่น้อย ล่าสุดตอนนี้ น้องลิซซี่ มีอายุ 10 ขวบแล้ว เริ่มโตขึ้นเป็นสาวน้อยน่ารัก เเต่ก็ยังคงความสดใสสมวัยเหมือนเดิม เเถมยังฉายเเววสวยเเละน่ารักออกมาให้ได้เห็น เชื่อว่าคงจะมีหลายคนถ้าไม่บอกว่านี่คือลิซซี่ หมูฉึกๆก็คงจะจำไม่ได้อย่างเเน่นอน ว่าเเล้วน้องลิซซี่ จะเปลี่ยนไปแค่ไหน? มาดูภาพล่าสุดของสาวน้อยคนนี้กันเลยค่ะ ขอบคุณภาพจาก : https://www.facebook.com/Felicia-Butcher-273599918077/timeline/
ทารกวัยขวบเศษคอหักรอดชีวิตปาฏิหาริย์! แพทย์ผ่าตัดเชื่อมคอให้สำเร็จ
ทารกน้อยรอดปาฏิหาริย์ แพทย์ช่วยผ่าตัดเชื่อมกระดูกคอได้สำเร็จ หลังประสบอุบัติเหตุจนคอหัก เป็นเหตุการณ์ที่ทำเอาคนเป็นแม่แทบใจสลาย เมื่อได้เห็นลูกน้อยวัยหัดเดินได้รับบาดเจ็บ คอหักจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งมีโอกาสน้อยเหลือเกินที่จะรอดชีวิต แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นในที่สุด เมื่อทีมแพทย์จากโรงพยาบาลบริสเบนในออสเตรเลีย สามารถช่วยเหลือเด็กน้อยรายนี้ให้มีโอกาสกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง โดยจากรายงานของ เว็บไซต์นิวยอร์กเดลี่นิวส์ เปิดเผยว่า เด็กน้อยดวงแข็งรายนี้มีชื่อว่า แจ็คสัน เทย์เลอร์ วัย 16 เดือน ซึ่งรอดชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์มาได้อย่างน่าอัศจรรย์ หลังจากรถที่แม่ของเขาขับชนเข้ากับรถคันอื่น แม่ของแจ็คสันเผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุเธอได้พยายามช่วยเหลือลูกชายออกจากรถ แต่ในวินาทีที่ดึงร่างของเขาออกมาเธอก็รู้ได้ทันทีว่าคอของลูกหักเสียแล้ว จากนั้นเด็กน้อยได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบริสเบนอย่างเร่งด่วน โดยแพทย์ผู้รับผิดชอบการรักษาหนูน้อยรายนี้ก็คือ เจฟฟ์ แอสกิน ศัลยแพทย์กระดูกสันหลัง ผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็นเจ้าพ่อแห่งการผ่าตัดกระดูกนั่นเอง โดยแพทย์วินิจฉัยว่ากระดูกสันหลังของแจ็คสันเคลื่อนหลุดจากด้านใน ทำให้กระดูกส่วนศีรษะหลุดออกจากส่วนคอ แต่นับว่าเคราะห์ดีทีไขสันหลังไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด หลังจากการผ่าตัดร่วม 6 ชั่วโมง ในที่สุดแพทย์ก็ประสบความสำเร็จเชื่อมต่อกระดูกของหนูน้อยเข้าใหม่อีกครั้ง คาดว่าหลังจากใส่อุปกรณ์ช่วยค้ำพยุงส่วนศีรษะอีก 8 สัปดาห์ แจ็คสันก็จะสามารถฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้กรณีของแจ็คสันนับว่าเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ เพราะแพทย์ชี้ว่า เด็กส่วนมากที่มีการบาดเจ็บในลักษณะนี้มักจะเสียชีวิต และหากรอดมาได้ก็อาจจะไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือหายใจได้อีก ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : http://hilight.kapook.com/view/127537 ภาพและคลิปวีดีโอจาก : 7 News Melbourne, คุณ nollygrio สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ชาวเน็ตจีนแห่ชื่นชม! พยาบาลใจดีให้ทารกดื่มนมตนเองในห้องผ่าตัด
เรียกได้ว่าเป็นภาพอันน่าประทับใจที่ถูกพูดถึงกันอย่างมาก ซึ่งถูกถ่ายขึ้นในโรงพยาบาลเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน โดยเผยให้เห็นภาพของพยาบาลรายหนึ่งที่กำลังให้ทารกน้อยที่ต้องเตรียมเข้ารับการผ่าตัด ดื่มนมจากอกของตนเองได้ ทั้งนี้เนื่องจากว่าทารกน้อยงอแงจึงทำให้การเตรียมผ่าตัดเป็นไปด้วยความลำบาก ซึ่งไม่ว่าจะด้วยหน้าที่หรือด้วยสัญชาติญาณก็ตามแต่ พยาบาลรายนี้นามว่า ลี่เบาเซีย จึงได้อุ้มทารกน้อยมาอยู่อ้อมอกพร้อมกับปลอบโยนเพื่อให้หยุดร้องไห้ พร้อมกันนี้เธอยังได้ให้ทารกดื่มนมจากอกของเธอเอง ซึ่งวิธีนี้ก็ทำให้ทารกน้อยสงบลง และคลายความหวาดกลัวจากการผ่าตัด จนกระทั่งการผ่าตัดประสบผลสำเร็จไปได้ด้วยดี เมื่อการผ่าตัดมีผลสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ทางคุณพ่อของทารกน้อยรายนี้ก็ได้ขอพบกับพยาบาลที่ปลอบโยนลูกของเขาพร้อมกับแสดงคำขอบคุณที่พยาบาลได้ดูแลลูกของเขาเป็นอย่างดี รวมถึงยังขอบคุณคุณหมอและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำให้การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ทำให้ภาพที่เผยแพร่ออกมานั้นได้รับคำชมจากชาวเน็ตกันอย่างล้นหลาม ถึงความมีน้ำใจของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เหล่านี้ พร้อมกับบอกว่านี่คือความภาคภูมิใจของวงการแพทย์จีน เรียกได้ว่าน้ำใจของเพื่อนมนุษย์ที่มีต่อกันนั้นไม่เสื่อมคลายไปเลยจริงๆ ซึ่งก็มีเรื่องราวที่น่าประทับใจในโรงพยาบาลอีกหลายเรื่องราว เป็นการทำให้ผู้ป่วยไว้วางใจได้ว่าการบริการทางการแพทย์นั้น เข้าอกเข้าใจผู้ป่วยได้อย่างแท้จริง ขอบคุณข้อมูลข่าวและภาพจาก : www.guchill.com
เปิดใจ”พนักงานเก็บขยะ” ปลื้ม!ลูกสวมครุยกราบเท้า
จากกระแสโลกออนไลน์ที่มีการแชร์ภาพ และข้อความจากเฟซบุ๊กของ Klanarong Srisakul ซึ่งเป็นภาพของบัณฑิตใหม่ป้ายแดง จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคนหนึ่ง ขณะก้มลงกราบเท้าพ่อ ที่ทำงานเป็นพนังงานขับรถขนขยะ … พร้อมระบุข้อความในใจว่าด้วยเรื่องของพ่อ โดยบัณฑิตคนดังกล่าวได้พูดถึง “พ่อ” ที่ทำงานเป็นพนังงานขับรถขนขยะ ว่าในสมัยเด็กนั้นตนอายที่พ่อทำงานนี้ แต่พอโตขึ้นพ่อได้พยายามส่งเสียให้เรียนจน ทำให้ลูกคนเก็บขยะคนนี้ มายืนตรงนี้ได้ พร้อมเล่าเรื่องราวสุดประทับใจ และทิ้งท้ายว่า “ขอบคุณที่มีพ่อเป็นพ่อ ขอบคุณที่สนับสนุนทุกอย่าง ขอบคุณที่เหนื่อยไปด้วยกัน ร้องไห้ด้วยกัน ซึมไปด้วยกัน วันนี้ก็อยากให้พ่อมีความสุขกับความสำเร็จ ที่เราเหนื่อยมาด้วยกัน ขอบคุณจริงๆ ลูกคนเก็บขยะคนนี้ทำให้พ่อของมันภูมิใจได้แล้ว พ่อไม่ต้องอายอะไรใครทั้งนั้น เพราะพ่อคือ พ่อคนดีที่หนึ่ง ไม่แพ้ใคร แม็กภูมิใจ” ภายหลังภาพดังกล่าว และเรื่องราวสุดประทับใจนี้ ได้ถูกเผยแพร่และมีการแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมาก จนเกิดเป็นกระแสแสดงชื่นชมในความรักของพ่อลูกคู่นี้ ซึ่งผู้เป็นพ่อ ได้เปิดใจเล่าให้ฟังว่า หลังจากลูกชายไปรับชุดครุย ได้โทรศัพท์มาถามว่า ตนเลิกงานเวลาใด จากนั้นก็มาหาตน พร้อมกับก้มลงกราบเท้าหน้ารถถังขยะ “วันนั้นผมตกใจมาก ที่เห็นลูกทำแบบนั้น รู้สึกดีใจและภูมิใจจนพูดไม่ถูก ผมร้องไห้ เขาก็ร้องไห้ ตอนเด็กๆ เขาเคยถามผมว่า ทำไมผมไม่เป็นทหาร เป็นตำรวจแต่งตัวดีๆ ผมบอกว่าผมจบแค่ ป.4 ไม่มีความรู้ทำงานแบบนั้นไม่ได้ ผมสอนเขาเสมอให้ตั้งใจเรียนให้สูงๆ จะได้เป็นเจ้าคนนายคน […]
อุทาหรณ์ เกือบเสียลูกรักเพราะลูกไม่ยอมเคี้ยว
มีประสบการณ์หนึ่งจากคุณแม่ ที่โพสต์เล่าเหตุการณ์เอาไว้เป็นอุทาหรณ์ เมื่อลูกรักของคุณแม่ รับประทานมะม่วงเข้าไปแต่ ไม่ยอมเคี้ยว ซึ่งปกติคุณแม่จะหั่นผลไม้ให้ลูกน้อยหยิบรับประทานเองเป็นชิ้นเล็กๆ ลูกน้อยฟันขึ้น 10 ซี่แล้ว จึงสามารถเคี้ยวได้ แต่ปัญหาคือลูกน้อยไม่ชอบเคี้ยว
สุดเศร้า! ทารกมีชีวิตอยู่ได้แค่ 100 นาที พ่อแม่บริจาคอวัยวะเพื่อต่อชีวิตให้ผู้ป่วยคนอื่น
เว็บไซต์มิร์เรอร์ของอังกฤษเผยแพร่เรื่องราวอันน่าเศร้าสลดใจของสามีภรรยาคู่หนึ่ง “เจส อีแวนส์ และ ไมค์ โฮลสตัน” ที่ต้องสูญเสีย “เทดดี้” ลูกน้อยที่เพิ่งจะลืมตาออกมาดูโลกได้เพียงไม่ถึง 2 ชั่วโมงเท่านั้นไป เนื่องด้วยเกิดมาพร้อมกับสภาวะที่เรียกว่า “อเนนเซฟาลี” หรือสภาวะไร้สมองใหญ่ ทำให้ทั้งสมองและหัวกะโหลกไม่สามารถเจริญเติบโตได้ ถือเป็นความผิดปกติที่หายาก ในช่วงที่เจสท้องลูกฝาแฝด 2 คน ซึ่งก็คือเท็ดดี้และพี่ชายชื่อโนอาห์ ได้ 12 สัปดาห์ แพทย์ก็มาแจ้งข่าวร้ายให้ทราบว่าเทดดี้เป็นภาวะไร้สมองใหญ่ เธอและสามีจะมีเวลาอยู่กับลูกได้อีกไม่นาน ฉะนั้นแล้ว ไม่ถึง 2 ชั่วโมงหลังจากที่เทดดี้คลอดออกมา เจสและไมค์จึงตัดสินใจที่จะทำให้ช่วงเวลาอันสั้นกลายเป็นความทรงจำที่มีค่าและพิเศษที่สุด ด้วยการบริจาคอวัยวะของลูกให้กับทางการแพทย์ เพื่อที่จะได้นำไปใช้ต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์คนอื่นๆอีกต่อไป ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญมาก ทำให้แม้ครั้งนี้คู่สามีภรรยาจะสูญเสียลูกชายไป แต่นั่นก็ไม่ใช่ความสูญเปล่า ทั้งหมดนี้ทำให้เทดดี้ได้ชื่อว่าเป็นผู้บริจาคอวัยวะที่อายุน้อยที่สุดในอังกฤษ และทางครอบครัวยังได้ได้รับใบประกาศเกียรติคุณในพิธี “Pride of Britain” (ความภาคภูมิใจแห่งอังกฤษ) ของหนังสือพิมพ์เดลีมิร์เรอร์อีกด้วย ท่ามกลางน้ำตาแห่งความซาบซึ้งของบรรดาคนที่มาร่วมงาน “เป็นเวลาที่สั้นๆเพียง 100 นาทีที่ลูกมีชีวิตอยู่กับเรา แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่มีค่าที่สุด มันผ่านไปเร็วมาก” เจสกล่าว ที่มา : Mirror ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : www.khaosod.co.th
น่าสงสาร! หนูน้อยเกิดมามีสมองผิดรูป ต้องพึ่งปาฏิหาริย์ให้มีชีวิตยืนยาว
เว็บไซต์เมโทรของอังกฤษเผยแพร่ภาพของ “เจสัน” เด็กชายตัวน้อยที่เกิดมาพร้อมกับอาการ “ไมโครไฮดราเนนซ์ฟาลีย์” หรือภาวะสมองเจริญเติบโตผิดรูปผิดร่าง … ส่งผลให้ศีรษะของเขามีลักษณะไม่เหมือนคนอื่น มีขนาดเล็กไม่สมดุลกับตัว แต่ถึงกระนั้นแล้วก็ไม่ได้ทำให้เด็กชายคนนี้น่ารักน้อยลงไปกว่าเดิมเลยสักนิด ซึ่งผู้เป็นพ่อแม่ ได้เผยแพร่เรื่องราวของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน โดยกล่าวว่าเจสันต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา จะคลาดสายตาไม่ได้ เนื่องจากมีพัฒนาการที่ช้ามาก แต่อย่างไรก็ตาม เจสันกลับทำในสิ่งที่แม้แต่แพทย์เองยังคาดไม่ถึง นั่นคือมีชีวิตอยู่ได้จนถึงวันเกิดครบรอบ 1 ปี “ความพยายามและความแข็งแรงของลูกเป็นตัวบ่งชี้ว่าทำไมเราถึงเรียกเรื่องราวของเขาว่าเจสัน สตรอง” ครอบครัวของเจสันกล่าว และว่า “ในท้ายที่สุดแล้ว เจสันจะต้องพึ่งปาฏิหาริย์ในการมีชีวิตยืนยาว เรายังคงพยายามขอทั้งพรและความช่วยเหลือจากเพื่อนมนุษย์” ทั้งนี้ผู้เป็นแม่ต้องยอมลาออกจากงานเพื่อมาดูแลลูกชายอย่างเต็มเวลา ในขณะที่สมาชิกคนอื่นๆในครอบครัวตั้งกระทู้ขอรับบริจาคเงินบนเว็บไซต์ GoFundMe.comเพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลเจสัน “เรื่องของเจสันยังคงแพร่ไปทั่วโลก คือเราไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลย เราคงพูดได้แค่ว่าขอบคุณจริงๆ บอกไม่ถูกเลยว่าทุกแรงสนับสนุนมีค่าแค่ไหน” ทางครอบครัวกล่าวทิ้งท้าย ที่มา : Metro ขอบคุณข้อมูข่าวและภาพจาก : www.khaosod.co.th
อันตรายมาก! ปล่อยคนหอมแก้มลูกน้อย เด็กเสี่ยงติดเชื้อถึงชีวิต
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อคุณแม่ชาวอังกฤษ ชื่อว่า แคลร์ เฮนเดอร์สัน ได้โพสต์ข้อความและรูปภาพผ่านเฟสบุ๊กเตือนบรรดาคุณแม่มือใหม่ทั้งหลาย อย่าให้ใครมาหอมหรือจูบแก้มลูกน้อยพร่ำเพรื่อ เพราะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของลูกน้อยได้ เฮนเดอร์สันเล่าว่า บรู๊ค ลูกสาวของเธอลืมตัวดูโลกเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางญาติพี่น้องและเพื่อนๆ แวะเวียนมาเยี่ยมและแสดงความยินดีไม่ขาดสาย ในจำนวนแขกที่มาเยี่ยมนั้น ตนก็ไม่ทันระวังเพื่อนคนหนึ่งที่มีเชื้อไวรัส HSV-1 ต้นเหตุของโรคเริม สามารถติดต่อได้จากการจูบปาก หรือแม้แต่จูจุ๊บเบาๆ และหากเด็กทารกติดเชื้อไวรัสตัวนี้เข้าไปแล้วอาจทำอันตรายกับปอด รวมถึงตับและสมองจนถึงขั้นเสียชีวิต ทั้งนี้ อาการติดเชื้อไม่ได้แสดงออกทันที แต่อยู่มาคืนหนึ่งระหว่างป้อนนมลูก ตนสังเกตเห็นความผิดปกติ บรู๊คมีอาการบวมแดงที่ริมฝีปาก จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที แพทย์ระบุว่า โชคดีที่นำตัวหนูน้อยมาโรงพยาบาลทันเวลาเพราะอาการน่าเป็นห่วง โดยบรู๊คต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลถึง 5 วัน เฮนเดอร์สันจึงโพสต์ข้อความเตือนบรรดาคุณแม่คนอื่นๆให้ระมัดระหว่างอย่าใครจูบหรือหอมทารกแรกเกิด เพราะไม่อาจทราบได้เลยว่า ใครที่มีเชื้อไวรัสชนิดนี้ และหากพบเพื่อนหรือญาติคนใดมีแผลที่ปากให้รู้ไว้เลยว่าเป็นอันตรายต่อลูกน้อย ด้านผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคติดต่อ กล่าวถึงกรณีของหนูน้อยบรู๊คว่า เป็นเคสที่พบได้ยากแต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย อย่างไรก็ตาม ทารกส่วนใหญ่ไม่ได้มีความเสี่ยงเพราะมีภูมิคุ้มกันจากแม่ ที่มา BuzzFeed ขอบคุณข้อมูลข่าวและภาพจาก : www.khaosod.co.th