เรื่องราวสุดซึ้งของ Sundee Rutter คุณแม่ลูก 6 ชาวอเมริกันผู้รอดชีวิตจากการต่อสู้กับมะเร็งเต้านมระยะที่ 4 แต่กลับมาเสียชีวิตจาก โรคโคโรน่าไวรัส ในวัย 42 ปี ซึ่งทำให้ลูกๆ ทั้ง 6 คนต้องพบกับความสูญเสียอีกครั้ง หลังจากที่พ่อของพวกเขาเสียชีวิตไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว
โรคโคโรน่าไวรัส คร่าชีวิตคุณแม่นักสู้
แม้ว่า Rutter จะพยายามระมัดระวังเชื้อโรค เพราะรู้ดีว่าเธอมีภูมิคุ้มกันต่ำจากการรักษามะเร็งอยู่แล้ว แต่ในฐานะแม่ และหัวหน้าครอบครัวเพียงคนเดียว เธอก็ยังคงต้องทำงาน เพื่อหาเลี้ยงอีก 6 ชีวิต ในครอบครัวของเธอ
Rutter มีอาการป่วยเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน จึงไปโรงพยาบาลและถูกให้กลับมารักษาตัวที่บ้าน
ไม่กี่วันต่อมา เธอมีไข้ ร่วมกับอาการหายใจลำบาก ซึ่งเป็นสัญญาณเสี่ยง 2 ข้อ ของโควิด-19 ลูกชายจึงพาเธอไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่หลังจากต่อสู้กับอาการป่วยได้เพียง 1 สัปดาห์ เธอก็เสียชีวิตลง
ขณะที่ Rutter รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ลูกๆ ของเธอทำได้เพียงเฝ้าแม่อยู่ด้านนอก เพื่อเป็นไปตามมารตรการป้องกันการติดเชื้อไวรัสมรณะจากแม่ของพวกเขา
แต่ก่อนที่ Rutter จะสิ้นใจ เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้จัดการให้ลูกทั้ง 6 ของเธอได้มีโอกาสบอกลาแม่เป็นครั้งสุดท้ายด้วย Walkie-Talkie ผ่านอีกฟากฝั่งของห้องกระจก
Walkie-Talkie จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งผ่านความรัก และความในใจของลูกไปยังผู้เป็นแม่เป็นครั้งสุดท้าย แม้ว่าจะเข้าไปกอดแม่ไม่ได้ แต่อย่างน้อยลูกๆ ก็ยังได้กล่าวคำอำลา
โดยเจ้าหน้าที่ได้วาง Walkie-Talkie ไว้บนหมอนที่ข้างเตียงของ Rutter ก่อนที่ลูกๆ ของเธอจะกล่าวคำอำลาและบอกรักแม่เป็นครั้งสุดท้าย
Elijah ลูกชายวัย 20 ปี บอกกับแม่ว่า “ทุกอย่างจะดีขึ้น ลูกๆ ทุกคนจะผ่านมันไปได้ พวกเขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในแบบที่แม่อยากให้เป็น”
Tyree พี่ชายคนโตวัย 24 ปี ตั้งใจจะดูแลน้องๆ ด้วยตัวเอง พวกเขาทุกคนจะอยู่ด้วยกัน และสู้ไปด้วยกัน
ต่อจากนี้ลูกๆ ทั้ง 6 ของเธอ ต้องใช้ชีวิตกันตามลำพัง จึงได้มีการจัดระดุมทุนผ่าน GoFundme ในชื่อ the Ross-Rutter family เพื่อช่วยเหลือพวกเขาอีกด้วย
ทั้งนี้การที่ร่างกายของ Rutter อ่อนแอจากการรักษามะเร็งอยู่เป็นทุนเดิม ถือว่าเป็น 1 ใน 7 กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
มาดูกันค่ะว่า สำหรับบ้านเรา กลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังการติด โรคโคโรน่าไวรัส หรือเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ได้แก่ใครบ้าง
กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19
- กลุ่มเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปีลงมา
- วัยกลางคนจนถึงกลุ่มผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป
- คนที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน โรคปอดเรื้อรัง ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
- คนที่กินยากดภูมิต้านทานโรคอยู่
- ผู้ที่เดินทางไปในประเทศเสี่ยงติดเชื้อ เช่น จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม อิตาลี อิหร่าน ฯลฯ
- ผู้ที่ต้องทำงาน หรือรักษาผู้ป่วย ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด
- ผู้ที่ทำอาชีพที่ต้องพบปะชาวต่างชาติจำนวนมาก เช่น คนขับแท็กซี่ เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล ลูกเรือสายการบินต่าง ๆ เป็นต้น
เพราะฉะนั้น หากในบ้านคุณมีกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว คนกลุ่มนี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพื่อลดความเสี่ยงในการรับเชื้อ เพราะหากติดเชื้อแล้วจะอันตรายมากกว่าคนทั่วไปค่ะ
ที่มา CNN
ภาพประกอบ GoFundme
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก :
- โควิด-19 พ่อแม่ติดเชื้อส่งผลกระทบถึงลูกน้อย
- เปิดรายชื่อ 25 สถานที่เสี่ยงไวรัสโคโรน่า ทั่วประเทศ
- วิธี ลงทะเบียนรับเงิน 5,000 บาท ฝ่าวิกฤติโควิด-19 ใครมีสิทธิ์บ้าง? เช็กเลย!!
- ตรวจโควิดฟรี ทุกรพ. แต่ต้องมีอาการเข้าข่าย เช็กเองได้ที่นี่!
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่