ไข้หัดแมว ระบาด บ้านไหนเลี้ยงแมวต้องระวัง ในช่วงรอยต่อฤดู โรคไข้หัดแมว ทำแมวเสียชีวิตกว่า 40+ แล้ว คนเลี้ยงต้องสังเกตอาการให้ดี และอย่าลืมพาไปฉีดวัคซีนเพื่อป้องกัน
เตือน ไข้หัดแมว ระบาด!
บ้านไหนเลี้ยงแมวต้องสังเกตอาการให้ดี
ในช่วงรอยต่อของฤดูแบบนี้ มีข่าวจากโซเชียลแชร์ว่า ไข้หัดแมว กำลังระบาดหนัก ทำแมวเสียชีวิต 45 ตัว ใน จ.เพชรบูรณ์ จึงสร้างความหวั่นวิตกว่าอาจจะเกิดการระบาดครั้งใหญ่หรือไม่? สำหรับเรื่องนี้ รศ.สพ.ญ.ดร.รสมา ภู่สุนทรธรรม หัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาเปิดเผยถึงการระบาดของ ไข้หัดแมว ว่า … โรคนี้เป็นการติดเชื้อไวรัสไข้หัดแมว FPV หรือกลุ่มพาร์โวไวรัส ซึ่งเป็นโรคประจำถิ่นของไทย และเป็นเชื้อดั้งเดิมที่มีอยู่มานาน 40-50 ปี
โดยเชื้อไวรัสไข้หัดแมว เป็นเชื้อที่รุนแรง มีอัตราตายสูงถึง 90% เกิดขึ้นได้กับแมวและสุนัข แต่ในสุนัขจะเรียกว่าโรคลำไส้อักเสบ พบประปรายใทุกพื้นที่โดยเฉพาะช่วงรอยต่อฤดู เช่นจากฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาว ส่วนการระบาดใหญ่อาจเกิดขึ้นได้ 2-3 ปี/ครั้ง
โรคไข้หัดแมว จะมีระยะการฟักตัวของโรค 2-7 วัน น้องแมวที่อายุน้อยส่วนใหญ่ตายอย่างรวดเร็ว อัตราการตายอยู่ระหว่าง 25-90% แมวป่วยจะมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ซึม เบื่ออาหาร อาเจียน ท้องเสีย ร่างกายขาดน้ำ เป็นโรคที่มีอัตราการตายสูง โดยเฉพาะในกลุ่มแมวที่ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน
ซึ่ง รศ.สพ.ญ.ดร.รสมา ยังแนะนำว่าให้เจ้าของฉีดวัคซีนให้กับแมว เพราะเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุด สำหรับลูกแมวอาจต้องฉีด 2-3 เข็ม โดยเข็มแรกฉีดเมื่อลูกแมวมีอายุ 8 สัปดาห์ และฉีดซ้ำเข็มที่ 2 ห่างออกมา 2-4 สัปดาห์ และเข็มที่ 3 ฉีดเมื่อแมวอายุครบ 4 เดือน เพื่อไม่ให้ภูมิคุ้มกันจากแม่แมวรบกวนการทำวัคซีน ส่วนแมวใหญ่หรือแมวที่โตแล้ว ต้องฉีดวัคซีนปีละ 1 เข็ม”
อย่างไรก็ตามหากแมวสุขภาพดี เจ้าของก็มีความสุข ที่สำคัญเจ้าของต้องควบคุมประชากรแมวให้ได้ เลี้ยงแมวให้น้อยตัวแต่แมวมีคุณภาพชีวิตดี มีความสุขกว่าเยอะ และถ้าฉีดวัคซีนให้แมวเป็นประจำ โรคระบาดก็จะไม่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ไข้หัดแมว เป็นโรคเฉพาะสัตว์ในตระกูลแมวเท่านั้น ไม่มีรายงานติดถึงคนและสัตว์เลี้ยงอื่น บ้านไหนที่เลี้ยงแมวจึงไม่ต้องกังวลว่าโรคนี้จะติดมายังตัวเองหรือลูกน้อย แต่ ไข้หัดแมว ก็อาจเป็นสาเหตุของการคร่าชีวิตน้องแมวแสนรักของเด็กๆ ไปได้
บอกลูกอย่างไรเมื่อสัตว์เลี้ยงตาย
สำหรับเด็กแล้วความใกล้ชิดทำให้สัตว์เลี้ยงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและพัฒนาการด้านอารมณ์ ความรู้สึก เมื่อถึงเวลาที่สัตว์เลี้ยงต้องจากไป ก็เป็นเรื่องจำเป็นที่พ่อแม่ควรสื่อสารกับลูกน้อยเหล่าทาสแมวให้ดี โดยเปลี่ยนการสูญเสียสัตว์เลี้ยงแสนรักเป็นโอกาสให้ลูก ได้เรียนรู้วิถีของธรรมชาติที่ไม่จีรังแทน
- พ่อแม่ระวัง! ปล่อยลูกเล่นอาจโดนน้ำลายจากสุนัขและแมว อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตหากติดเชื้อ
- ติดเชื้อในกระแสเลือด เพราะจูบหมาแมว และปล่อยให้เลียปาก
- ลูกโดนหมากัด ต้องดูแล และ ฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า กี่เข็ม?
นักจิตวิทยาเด็กแนะนำว่า … ควรบอกตอนที่ลูกอยู่ในอารมณ์สงบ ชวนไปนั่งคุยสองต่อสองในที่เงียบ และต้องให้ลูกรู้สึกว่าปลอดภัย ส่วนตัวพ่อแม่เองไม่ควรฟูมฟายจนเกินเหตุ หรือตำหนิใครในข้อบกพร่องหรือเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงตาย ที่สำคัญที่สุด คือ “ต้องไม่โกหก” การบอกว่า “มันหนีไปไหนไม่รู้ แม่ตามหาไม่เจอ” หรือ “มันไปเที่ยว เดี๋ยวก็กลับ”
เพราะนั่นไม่ใช่การแนะนำถึงความตายที่ถูกต้องสำหรับเด็ก ซึ่งนอกจากจะเป็นการโกหกแล้วยังทำให้เด็กสับสนและรอคอย ควรบอกเด็กว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างตามความจริง แต่ต้องคำนึงถึงวุฒิภาวะตามอายุของลูกด้วย ควรคิดให้ดีก่อนว่าควรใช้คำพูดอย่างไรให้ตรงความจริง แต่ไม่โหดร้ายรุนแรงเกินไป
ทั้งนี้หากถูกถามว่า “ทำไมสัตว์ป่วยแล้วต้องตาย” ควรอธิบายบอกลูกว่า ความตาย คือเรื่องธรรมชาติ เช่น “ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตอะไร หากป่วยและไม่แข็งแรงก็อาจจะถึงตายได้” อาจสอดแทรกว่า ดังนั้นลูกต้องกินอาหารที่ดี ออกกำลังกาย รักษาความสะอาด ถ้าลูกป่วยเราจะเป็นห่วงและเสียใจมากเช่นกัน หรือจะตอบไปว่า “แม่ก็ไม่รู้ ไม่ว่าคนหรือสัตว์บางทีก็ตายไปเฉยๆ ไม่มีใครรู้ว่าเพราะอะไร” ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ก็อาจเป็นทางออกที่ดี
เพราะนักจิตวิทยาแนะนำว่า การปล่อยให้ความตายเป็นเรื่อง “ลึกลับ ไม่สามารถคาดเดา หรือเรื่องที่ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า” ก็อาจเป็นคำตอบที่ดีสำหรับเด็ก
สุดท้าย … พ่อแม่ไม่ควร “ซ่อนความเสียใจ” แต่ก็ไม่ควรแสดงออกจนเด็กตกใจ ควรชวนเด็กพูดคุยเพื่อให้เรียนรู้ว่าอารมณ์ของเค้าในตอนนี้คือ “ความเศร้า” และมันทำให้คนเราไม่สบายใจต้องทำให้เบาบางไปตามเวลา ด้วยการแชร์ว่าพ่อแม่เองก็เสียใจเช่นกัน แล้วชวนลูกอธิบายว่าหนูเองเสียใจมากแค่ไหน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า “ความเศร้าเป็นเรื่องเปิดเผยได้” และลูกจะไม่ต้องเศร้า หรือเก็บเรื่องที่ตนเองเสียใจอยู่คนเดียว พ่อแม่จะมีส่วนรับรู้และเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆ กับอารมณ์เศร้าของเค้าด้วย ในทุกๆ เรื่อง ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.dailynews.co.th , news.ch7.com , mgronline.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจคลิกที่ภาพได้เลย ⇓
Kid safety รักน้องแมวรักน้องหมา…ต้องพาไปฉีด วัคซีนพิษสุนัขบ้า
Kid safety รักน้องแมวรักน้องหมา…ต้องพาไปฉีด วัคซีนพิษสุนัขบ้า
ไวรัสเห็บ ระบาด! ทำความรู้จัก โรค SFTS โรคร้ายใกล้ตัวจาก “เห็บ”