ตั้งชื่อลูกก่อนคลอด กับความเชื่อโบราณที่ว่าเป็นลางร้าย ทำให้พ่อแม่ยุคก่อนคงไม่มีใครกล้าเสี่ยง แล้วลางร้ายนั้นจะยังใช้ได้กับปัจจุบันไหมนะ
ตั้งชื่อลูกก่อนคลอด เลยดีไหม ความเชื่อลางร้ายกับสิ่งที่ควรรู้!!
ชื่อของลูก เป็นสิ่งที่พ่อแม่ให้ความสำคัญ เพราะชื่อนั้นสำคัญมากกว่าแค่ความหมายดี การตั้งชื่อที่ดีนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด บางคนเข้าใจว่า ตั้งชื่อโดยดูที่ความหมายดี ความหมายมงคล ก็จัดว่าเป็นชื่อที่ดีแล้ว แต่ชื่อนั้น ๆ ควรต้องเป็นชื่อที่เข้ากันได้กับเจ้าของชื่ออีกด้วย เรียกได้ว่าถูกโฉลกกันนั่นเอง จึงนับว่าเป็นชื่อที่มงคลสำหรับเจ้าของ
คำว่า “ถูกโฉลก” หลาย ๆ ท่านคงเคยได้สัมผัสกับอาการดังกล่าว เช่น เราเห็นคน ๆ นี้แล้วรู้สึกถูกโฉลก ถูกใจเสียจริง ๆ หรือทำไมทำงานกับคนนี้แล้วดวงดี มีโชคตลอดเลยนะ เป็นต้น หากคุณเคยได้สัมผัสกับอาการเหล่านี้คงพอจะเข้าใจคำว่า ถูกโฉลกขึ้นมาบ้างแล้ว ชื่อก็เช่นกัน การตั้งชื่อที่ดีนั้น โดยหลักการแล้วควรตั้งชื่อให้เข้ากันกับดวงเกิดของเจ้าของชื่อ ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับ วัน เดือน ปี เกิดของแต่ละคนนั่นเอง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดความเชื่อในเรื่องของการ ตั้งชื่อลูกก่อนคลอด นั้น เป็นลางไม่ดี !!
ห้าม ตั้งชื่อลูกก่อนคลอด จะเป็นลางร้าย จริงหรือ??
ความเชื่อโบราณที่ห้ามตั้งชื่อลูกก่อนคลอด เพราะจะทำให้เกิดเรื่องไม่ดี อาจแท้ง เกิดปัญหาระหว่างคลอด หรือทำให้ดวงของลูกไม่ดีได้ นั่นเนื่องมาจากว่า ตามหลักโหราศาสตร์แห่งการตั้งชื่อนั้น จะตั้งตามวันเดือนปีเกิด และเวลาตกฟากของเด็ก เมื่อเรายังไม่ทราบวันและเวลาที่ลูกจะเกิด การตั้งชื่อไว้ล่วงหน้า โดยที่ยังไม่รู้ว่าเด็กจะเกิดเวลาไหน อยู่ในลัคนาหรือราศีอะไร หากตั้งชื่อไปก่อนแล้ว อาจมีตัวอักษรที่เป็นกาลกิณีได้กับดวงเกิดของเด็กได้ ซึ่งอักษรกาลกิณีในดวงเกิดนั้น สามารถให้โทษต่อเจ้าของชื่อได้ จะทำให้ชีวิตของเด็กนั้นอาจแย่ตั้งแต่เกิด เลี้ยงยาก ร้องไห้เก่ง มีปัญหาเรื่องสุขภาพ และทำให้ไม่สามารถตั้งชื่อที่มีดวงเสริมบุญ บารมีของพ่อแม่ และตัวเด็กเองได้อีกด้วย
แต่ในปัจจุบัน คุณพ่อคุณแม่สามารถรู้ได้ล่วงหน้าแล้วว่าลูกเป็นเพศอะไร สามารถกำหนดฤกษ์ผ่าคลอดได้ หากแพทย์พิจารณาเห็นสมควร ดังนั้น จึงทำให้คุณพ่อคุณแม่มีแนวทางในการตั้งชื่อลูกก่อนคลอดได้มากขึ้นนั่นเอง
หลักเบื้องต้นใน การตั้งชื่อลูก
เพศของลูก
นับเป็นเรื่องแรก ๆ ของเกณฑ์ในการตั้งชื่อลูก โดยชื่อกับเพศเป็นสิ่งที่ต้องไปในทิศทางเดียวกัน แต่ละชื่อจะมีความหมายดี ๆ อยู่แล้วในตัว แต่จะดีขึ้นไปอีก หากชื่อนั้นจะอยู่กับเพศของลูกที่ถูกต้องและเหมาะสม ลองคิดไปยาว ๆ ถึงเวลาที่ลูกโตรู้ความ การตั้งชื่อลูกไม่เหมาะสมกับเพศของเขา จะทำให้ลูกมีปมด้อย ถูกเพื่อนล้อ และสับสนได้
วัน เดือน ปีเกิด
การรู้วันเดือนปีเกิด เวลาตกฟากของลูกก่อนการตั้งชื่อลูกนั้น เป็นเรื่องสำคัญหากคุณต้องการให้ลูกมีชื่อที่ถูกต้องตามตำราโหราศาสตร์ไทย เพราะตามตำราเชื่อว่าดวงคนนั้นขึ้นอยู่กับเวลาเกิด ดังนั้น การ ตั้งชื่อลูกก่อนคลอด นั้นจึงเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยากในการจะทำ แต่ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีทางการแพทย์นั้นล้ำสมัยไปมาก การกำหนดวันคลอดจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป การผ่าคลอด การกำหนดฤกษ์ยามในการให้ลูกลืมตาดูโลกได้อย่างปลอดภัยจึงสามารถทำได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น คุณพ่อคุณแม่สามารถปรึกษาวัน เวลาเกิดของลูกจากแพทย์ผู้ดูแลว่า ครบกำหนดคลอด เหมาะสมที่จะทำการคลอดแล้วหรือยัง เมื่อได้ช่วงเวลาคร่าว ๆ ถึงจะนำมาหาฤกษ์ยาม ผูกดวงกับชื่อ ดูตัวอักษรที่เป็นมงคล และเลี่ยงอักษรที่เป็นกาลกิณีต่อดวงของเด็กได้ แต่ถึงอย่างไรก็ควรเลือกชื่อสำรองเผื่อไว้ด้วย ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
วงศ์ตระกูล (นามสกุล)
ในศาสตร์แห่งการตั้งชื่อ มีหลายตำราที่ยึดถือหลักในการตั้งชื่อแตกต่างกันไป บ้างก็เป็นตามโหราศาสตร์ ดวงดาว ลักขณาเกิด บ้างก็เป็นเลขศาสตร์ การนับตัวเลขตามชื่อ และนามสกุลว่าตกในตัวเลขมงคลต่อเจ้าของชื่อหรือไม่ หรืออีกหลาย ๆ ศาสตร์ที่มีหลักการความเชื่อแตกต่างกันไป ดังนั้น การเลือกชื่อบางครั้งก็ยึดโยงกับนามสกุลของตัวเจ้าของชื่อด้วยเช่นกัน จึงต้องคำนึงถึงนามสกุลของเราในการตั้งชื่อลูกอีกด้วย ยิ่งในปัจจุบันสามารถเลือกได้เลยว่าจะใช้นามสกุลของฝั่งคุณพ่อหรือฝั่งคุณแม่ (กรณีที่คุณแม่แต่งงานแล้วแต่ยังใช้นามสกุลตัวเองอยู่)
ตามหลักศาสนา
หากหลักการในการตั้งชื่อลูกของคุณพ่อคุณแม่มีเรื่องของ “ศาสนา” เข้ามาร่วมด้วยก็จะเป็นสิ่งที่ดี และเป็นสิริมงคลต่อลูกน้อยมากทีเดียว แม้ว่าแต่ละศาสนาจะมีวิธีการปฏิบัติที่ต่างกัน แต่ก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกันนั่นก็คือ “การให้คนทุกคนเป็นคนดี” หากลูกของเราเป็นคนดีมีศีลธรรม คุณพ่อคุณแม่ก็จะอิ่มอกอิ่มใจไปด้วย การมีชื่อที่ยึดโยง หรือความหมายตามคำสอนของศาสนาที่พ่อแม่นับถือ ก็จะช่วยเป็นเครื่องเตือนใจให้กับลูกได้ดี
เลขศาสตร์ – หลักการตั้งชื่อ
การตั้งชื่อตามหลักเลขศาสตร์ อายตนะ 6 นับเป็นศาสตร์หนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มักนิยมใช้ในการทำนายทะเบียนรถ หมายเลขโทรศัพท์ บ้านเลขที่ และตัวเลขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในชีวิตประจำวัน ซึ่งสำหรับการใช้ทำนายชื่อนั้นจะนับแต่ละตัวอักขระจาก “ชื่อ และ นามสกุล” ซึ่งแต่ละอักขระจะมีเลขศาสตร์ระบุไว้ ดังนี้
เลขศาสตร์ หลักการตั้งชื่อ | |
ก , ด , ถ , ท , ภ , -า , อำ , ฤ , ฤา , -่ (ไม้เอก), -ุ (สระอุ) | เลข 1 |
ข , ช , ง , บ , ป , เ- , แ- , -้ (ไม้โท), -ู (สระอู) | เลข 2 |
ฆ , ต , ฑ , ฒ , -๋ (จัตวา) | เลข 3 |
ค , ธ , ญ , ร , ษ , -ะ (สระอะ), โ- (ไม้โท) , -ั (ไม้หันอากาศ) , -ิ (สระอิ) | เลข 4 |
ฉ , ฌ , ณ , น , ม , ห , ฎ , ฮ , ฬ , -ึ (สระอึ) | เลข 5 |
จ , ล , ว , อ , ใ- (สระใอ) | เลข 6 |
ซ , ศ , ส , -ี (สระอี) , -ื (สระอือ) , -๊ (ไม้ตรี) | เลข 7 |
ผ , ฝ , พ , ฟ , ย , -็ (ไม้ไต่คู้) | เลข 8 |
ฏ , ฐ , ไ- , -์ (การันต์) | เลข 9 |
ให้นำเอาเลขที่ได้มารวมกัน โดยปกติแล้วผลรวมของชื่อและนามสกุลจะมีค่าระหว่าง 1 – 100 แต่ถ้าหากผลรวมทั้งหมดได้ออกมาเป็น 101 – 109 ให้ตัดเลข 0 ตรงกลางออก เช่น 106 ก็จะได้ 16 เป็นต้น แต่ถ้าหากผลรวมออกมาได้ 110 ขึ้นไป ให้เอาแค่เฉพาะ 2 ตัวท้าย เช่น 118 ก็จะได้ 18 เป็นต้น
- เลขศาสตร์ ที่ให้คุณระดับดีมาก: 2 , 4 , 5 , 6 , 9 , 14 , 15 , 19 , 23 , 24 , 36 , 41 , 42 , 45 , 46 , 50 , 51 , 53 , 55 , 56 , 59 , 63 , 64 , 65
- ตัวเลขศาสตร์ ที่ให้คุณระดับดี: 20 , 32 , 40 , 44 , 69 , 79
- เลขศาสตร์ ที่ให้โทษ: 27 , 29 , 30
โดยทั่วไปเลขศาสตร์จะวิเคราะห์ทำนาย เฉพาะชื่อ หรือ ชื่อ + นามสกุล + ผลรวม ก็ได้ และในการตั้งชื่อ หากนามสกุลเลขศาสตร์มีคำทำนายไม่ดี ให้ตั้งชื่อ เลือกชื่อ ที่มีผลรวมของชื่อและนามสกุลที่ดี ทั้งนี้เด็กผู้ชายมักจะเลือกให้ดีทั้งชื่อและนามสกุล ถ้าเป็นเด็กผู้หญิง ส่วนใหญ่จะเน้นแต่ให้ชื่อดีก็พอ เพราะอนาคตต้องมีครอบครัวก็ต้องเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของผู้ชาย แต่…แต่ แต่…สมัยนี้ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วจะเลือกใช้นามสกุลเดิมก็ได้
อ่านต่อ >>ตัวอักษรมงคล กาลกิณี และหลักการตั้งชื่อถูกหลักกฏหมาย เรื่องควรรู้ก่อนตั้งชื่อ คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่