น่ารักกว่าตุ๊กตา ก็ “พลอยเจ” นี่แหละ!! ทั้งสดใสและร่าเริงแบบนี้ แม่บีและพ่อจิม มีเคล็ดลับอะไรในการเลี้ยง น้องพลอยเจ กันนะ..ตามไปอ่านบทสัมภาษณ์แบบ Exclusive กันเลยค่า
เผยเคล็ดลับ การเลี้ยงลูกของแม่บีและพ่อจิม
ทำยังไงให้ลูกเป็นเด็กน่ารักสดใส เหมือน น้องพลอยเจ
ทำอย่างไรถึงจะมีลูกได้น่ารักเหมือน น้องพลอยเจ กันนะ ?? …. นี่เป็นหนึ่งคำถามที่วนเวียนอยู่ในหัวของแม่ฮันน่าห์ เพราะเหมือนได้ไปสัมภาษณ์และใกล้ชิดกับครอบครัวนี้ ก็ทำให้รู้สึกอิจฉาและอยากมีลูกน้อยแบบนี้บ้าง!
เรียกได้ว่ากำลังน่ารักน่าเอ็นดูเลยสำหรับ น้องพลอยเจ สาวน้อยแววตาบ้องแบ๊ว ใบหน้าสดใส แถมรอยยิ้มแสนหวาน ลูกสาวสุดหวงของนักแสดงหนุ่ม คุณจิม เจจินตัย อันติมานนท์ และคุณบี พลอยพัชชา แวนดิว ที่ตอนนี้มีแฟนคลับเยอะมากเรียกได้ว่ากำลังขึ้นแท่นเป็นซูเปอร์สตาร์คนใหม่ของวงการบันเทิง และดูเหมือนว่าจะฮอตยิ่งกว่าคุณพ่ออีกด้วย
ซึ่งเห็นน้องพลอยเจน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้ หลายคนคงอยากรู้แล้วว่า ทั้งแม่บีและพ่อจิมมีเคล็ดลับในการเลี้ยงลูก ให้น้องพลอยเจเป็นน่ารักได้อย่างไร และแท้จริงแล้วน้องพลอยเจเป็นเด็กที่มีนิสัยแบบใด จะอ่อนหวานเหมือนหน้าตาหรือไม่ แม่ฮันน่าห์ และ ทีมแม่ ABK ได้ไปสัมภาษณ์พร้อมล้วงความลับของน้องพลอยเจมาให้แล้วค่ะ ตามไปอ่านกันเลย
♥ พลอยเจดาริน ชื่อนี้แม่ได้มาเพราะฝัน!
ทำไมชื่อพลอยเจ : ถ้าเป็นชื่อเล่นว่า พลอยเจ ก็คือการนำชื่อจริงตัวแรกของพ่อกับแม่มารวมกัน แต่สำหรับชื่อจริง “พลอยเจดาริน” เหมือนเป็นนิมิตของคุณแม่เอง คือเราเขียนไว้หลายชื่อมากเกือบ 10 ชื่อ แล้วนอนฝัน ฝันว่าให้ลูกชื่อนี้ แล้วมันมีในลิสต์ที่เราลิสต์ไว้พอดี ก็เลยได้ชื่อว่า พลอยเจดาริน ก็รู้สึกว่าน่ารักดี เลยเอาชื่อนี้ แล้วมารู้ทีหลังเปิดพจนานุกรม มาดูความหมาย ก็คือแปลว่า เจ้าหญิงดุจดั่งเพรช เราก็เลยเอาชื่อนี้
♥ แม่อารมณ์ดีขำเก่งตั้งแต่ตอนท้อง!
เคล็ดลับการเลี้ยง น้องพลอยเจ ให้เป็นเด็กน่ารักสดใส : น่าจะเป็นตั้งแต่ตอนท้อง คือแม่เป็นคนเส้นตื้น ขำเก่งอยู่แล้ว แต่ตอนท้องจะเส้นตื้นหนักมาก อยู่บ้านก็ดูแต่ซีรีย์ที่เป็นตลก รถวิ่งผ่านก็นั่งหัวเราะอยู่คนเดียว อารมณ์ดีเห็นอะไรก็ขำไปหมดเลยก็เลยกลายเป็นอะไรที่มันซึมซับไปกับน้อง พอออกมาเค้าก็กลายเป็นเด็กอารมณ์ดี ซึ่งทั้งความน่ารักสดใสร่าเริงนี้ก็ได้มาทั้งจากคุณพ่อและคุณแม่ด้วย เพราะเราเป็นคนแบบ alert ทั้งคู่ ขี้เล่น แล้วก็เป็นคนตลก น้องก็เลยได้รับสิ่งนั้นมา
♥ 95% คือเหมือนคุณพ่อ!!
น้องพลอยเจมีบุคลิกหรือนิสัยเหมือนใคร : 95% เลย คือเหมือนคุณพ่อค่ะ อันนี้คือไม่ได้เห็นด้วยตาเปล่าอย่างเดียว หรือเพราะคนอื่นพูด ซึ่งก็ไม่เชื่อ จนพาน้องพลอยเจไปตรวจวิเคราะห์ลายนิ้วมือ ผลออกมาคือ ตรงกับคุณพ่อ 95% ก็เลยยิ่งเชื่อ เพราะทั้งหน้าตา นิสัย ลักษณะการกินการพูด ก็เหมือนหมดเลย หรือแบบความลุยๆ ชอบออกกำลังกาย ใช้พลัง คือแบบมีความเป็นพ่อสูงมาก
แต่ถ้าลักษณะนิสัยส่วนตัวของ น้องพลอยเจ พื้นฐานเค้าจะเป็นเด็กขี้สงสาร เซนซิทีฟ และอ่อนโยนมาก เห็นอะไรเค้าก็จะขี้สงสาร ดูยูทูปเห็นคนเจ็บก็ร้องไห้ น้ำตาไหลเลย ไปพิพิธภัณฑ์เห็นกวางตาย ก็ถามว่าเค้าเจ็บใช่มั้ย ไปหาหมอทันมั้ย มีน้ำตาคลอนิดๆ
♥ ไม่บังคับลูก แต่มีกรอบไว้ให้เค้ากว้างๆ
สไตล์การเลี้ยงลูกของพ่อจิมและแม่บี : เราเป็นลูกที่ถูกคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงมาแบบให้เราคิดเอง คือไม่เคยบังคับอะไรทั้งสิ้น อยากเรียนอยากทำอะไรตามใจเรา แล้วเราก็เลยรู้สึกว่าก็ดี เราก็ไม่ได้เกเรอะไร แล้วเราก็เรียนจบมาดี อะไรดีทุกอย่างโดยที่ไม่ได้ถูกบังคับ ก็เลยตั้งใจกับตัวเองไว้ว่าเราจะไม่บังคับลูก
แต่พอเรามีลูกจริงๆ มันไม่ได้อย่างนั้น คือมันไม่ได้ที่จะไม่บังคับเลย แล้วก็เคยพาน้องไปตรวจลายนิ้วมือดู ผลที่ออกมาคือ ลักษณะนิสัยน้องพลอยเจอย่างที่บอก คือเค้าจะเป็นเด็กที่โอนเอียงไปตามคนอื่นได้ง่าย ถ้ามีเพื่อนดีก็จะดีเลย แต่ถ้าเพื่อนไม่ดีก็จะไม่ดีด้วย เพราะเค้าจะเป็นผู้ตามที่ดี ซึ่งก็นิสัยเหมือนคุณพ่อเลยที่เป็นผู้ตามที่ดี คุณหมอจิตวิทยาที่นั่นเค้าก็เลยบอกว่าไม่ดี เราควรกำหนดให้เค้าว่าแบบจะต้องเดินทางนี้นะลูก เค้าก็จะเดินตามกรอบเรา ซึ่งถ้าเราไม่กำหนดไว้ เค้าก็จะตามเพื่อนเลย และซึ่งเราก็ไม่รู้เลยว่าเพื่อนจะดีหรือไม่ดี
เราก็เลยเริ่มกำหนด เราบอกให้เค้าทำอะไร แต่ก็มีกรอบไว้ให้เค้ากว้างๆให้เค้าตัดสินใจด้วย แต่ก็มีกรอบแบบเอาไว้นำทางให้เค้าเฉยๆ แต่ถ้าถามใจเราก็ยังคิดว่าถ้าเค้าชอบอะไร โดยที่มันไม่ได้เสียหายอะไรก็ยังปล่อยเค้า
♥ พ่อจะเลี้ยงแบบลุยๆ >> ส่วนคุณพ่อก็จะเลี้ยงสไตล์แบบชอบคิดว่าลูกเป็นผู้ชายตลอดเวลา เลี้ยงแบบปล่อยๆ เพราะตอนแรกเค้าอยากได้ลูกผู้ชายแล้วเราอยากได้ลูกผู้หญิง ซึ่งพอได้ลูกออกมาเป็นผู้หญิงเค้าก็โอเค แต่ก็จะเลี้ยงแบบสไตล์เค้าในความเป็นผู้ชาย ปล่อยลูกให้ทำอะไรไปเลยลุยไป
ซึ่งในการเลี้ยงลูกของเราสองคนไม่มีตอนที่ความคิดเห็นไม่ตรงกันเลย เพราะอย่างที่บอกข้างต้นว่าคุณจิมเค้าจะมีนิสัยเป็นผู้ตามที่ดี เค้าก็จะถามเรา ส่วนเราพอลูกเริ่มโต เราก็จะอ่านดูหนังสือทุกคืนว่าลูกช่วงนี้วัยนี้เป็นยังไงเค้าต้องการอะไร ก็กลายเป็นว่าติดอ่านหนังสือเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก เค้าก็เลยจะโอเคๆ เห็นด้วยเพราะเค้าไม่ได้อ่าน ก็เลยฟังเรา
♥ เป็นเด็กที่ต้องเอาความน่าสงสารเข้าสู้!
น้องพลอยเจกลัวใครมากกว่ากัน : พลอยเจเป็นเด็กที่ถ้าดุแล้วเค้าไม่ฟัง คือเค้าไม่ได้กลัวพ่อหรือแม่ พลอยเจเป็นเด็กที่ต้องเอาความน่าสงสารเข้าสู้ ถ้าบอกว่า “พลอยเจหม่ามี๊เจ็บ หม่ามี๊เสียใจมาก” เค้าก็จะถามว่าหม่ามี๊เป็นอะไร … ก็คือต้องดราม่าใส่เค้า แต่ถ้าบอกว่าพลอยเจหยุดนะ!! เค้าก็จะไม่ ถ้าแม่บอกหยุดก็คือวิ่งไปเลยค่ะ คำว่า No หรือ ห้ามต่างๆ ใช่กับเค้าไม่ได้
แต่ถ้าบอกว่าหม่ามี๊เหนื่อย ทำหน้าเศร้าร้องไห้ “เค้าจะเดินเข้ามาโอ๋ถามว่าเป็นอะไร โอเคๆ พลอยเจไม่ทำแล้ว” ต้องใช้ความดราม่าเข้าใส่ ถ้าขึ้นเสียงคือไม่ได้ผลเลย เค้าไม่กลัว
อ่านต่อ >> เรื่องที่เน้นสอนพลอยเจและวิธีการเลี้ยงลูกที่ดีที่สุด
ในแบบแม่บีและพ่อจิม คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่