6 อาหารที่พบว่าเด็กมีอาหาร แพ้อาหาร มากที่สุด
จากสถิติพบอาการแพ้ในเพศชายมากกว่าเพศหญิง โดยเด็กที่คลอดวิธีธรรมชาติมักจะมีภูมิคุ้มกันในลำไส้แข็งแรงกว่าเด็กผ่าคลอด ส่วนเด็กที่อาศัยในเมือง มีสัดส่วนแพ้อาหารสูงกว่าเด็กที่อยู่ในชนบท โดย รศ.พญ.พรรณทิพา ฉัตรชาตรี กุมารแพทย์ เผย 6 อาหารยอดนิยมที่เด็กไทยแพ้ ในหนังสือ “ชัยชนะของเด็กขี้แพ้” ให้คุณพ่อคุณแม่ได้รู้ทันกันตั้งแต่เนิ่น ๆ ดังนี้
1. นมวัว อาหารที่มีนมวัวเป็นส่วนประกอบ ได้แก่ ขนมปัง มัฟฟิน โดนัท เนย ไอศกรีม โยเกิร์ต ซุปข้น ต้มยำบางอย่าง ไข่กวน พิซซ่า ฯลฯ นอกจากนี้ยังอาจพบในซาลาเปา ไส้กรอก ขนมครก วุ้นกะทิ เป็นต้น โดยอาการแพ้นมวัวอาจเริ่มเห็นเมื่อเด็กอายุได้ 1-2 เดือน มักพบผื่นแดง ลมพิษ หลอดลมตีบ มักจะส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น ถ่ายเป็นมูกเลือด ฯลฯ
2.ไข่ ปัจจุบันมีทารกเริ่มแพ้ไข่ตั้งแต่ 4-6 เดือน โดยมากจะมีอาการผิวหนังอักเสบจากการแพ้ พบผื่นที่แก้ม ข้อพับ ลำตัว คัน และมักพบอาการแพ้ที่เกิดจากไข่ขาวมากกว่าไข่แดง หรือแพ้เฉพาะไข่ดิบไม่แพ้ไข่สุก ทั้งนี้ เด็กมีโอกาสหายแพ้ได้เมื่ออายุ 2-3 ขวบ และสามารถกินไข่ที่สุกน้อยลงเรื่อย ๆ ได้
3.แป้งสาลี หากแพ้แป้งสาลีแล้วคุณหมอจะให้งดทุกสายพันธุ์ ในเด็กและผู้ใหญ่หากรับประทานแป้งสาลีร่วมกับการออกกำลังกายหนัก ๆ อาจทำให้เกิดอาการแพ้ที่รุนแรง เกิดลมพิษ หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก ช็อกและเสียชีวิตได้
4.ถั่วลิสง ขณะตั้งครรภ์คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคถั่วลิสงที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ส่งผลให้สารก่อภูมิในถั่วรุนแรงขึ้น เช่น อบ คั่ว หรือเนยถั่วลิสง และแนะนำให้รับประทานเป็นถั่วต้มแทน เพราะเด็กที่แพ้ถั่วลิสงนั้น มักจะรับประทานถั่วแดง ถั่วเขียว หรือถั่วเหลืองได้
5.อาหารทะเล หมายถึงสัตว์น้ำที่มีกระดอง ได้แก่ กุ้ง กั้ง ปู หอย และหมึก การแพ้กุ้งอาจจะไม่ได้แพ้ทั้งตัว แต่แพ้เฉพาะส่วน และไม่แพ้ทุกสายพันธุ์ ในบางรายอาจจะแพ้กุ้งเมื่อโตขึ้น หลังจากเริ่มแพ้ไรฝุ่น เพราะไรฝุ่นมีโครงสร้างโปรตีนคล้ายกับกุ้ง จนอาจกระตุ้นให้เกิดการแพ้กุ้งตามมาด้วยนั่นเอง
6.ผักและผลไม้ อาจทำให้ลูกรู้สึกคันปาก คันคอ และเกิดผื่น เมื่อให้ลูกเริ่มกินผัก ควรเริ่มจากผักที่มีสีขาวหรือสีเขียวอ่อน ๆ เช่น ผักกาดขาว ฟัก ผักกวางตุ้ง ส่วนผลไม้ เช่น สาลี่ แอปเปิ้ล เป็นต้น
เมื่อทราบแบบนี้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ต้องลองสังเกตลูกของเราให้ดีนะคะ ถ้าหากว่ารู้ว่าลูกแพ้อะไร แนะนำให้แจ้งกับทางโรงเรียนพร้อมกับค่อย ๆ สอนลูกว่าอะไรบ้างที่พวกเขาทานได้ละไม่ได้ หรือถ้าหากเป็นไปได้ละก็การเตรียมอาหารไปให้ลูกรับประทานเอง ก็ถือเป็นอีกทางออกหนึ่งที่ควรพิจารณาเช่นกันค่ะ
เครดิต: ข่าวสด
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่