อธิบดีกรมสุขภาพจิต เผยเด็กไทยป่วย “ไฮเปอร์” กว่า 4.2 แสนคน แถมเด็กเล็กป่วย “ไฮเปอร์เทียม” อีกเพียบ โดยต้นเหตุนั้นมาจากคุณพ่อคุณแม่ปล่อยลูกไว้กับมือถือ แท็บเล็ต จนกระทบการทำงานสมอง พูด อ่าน เขียนแย่ แนะให้ลูกเลิกเล่นมือถือ และปล่อยเล่นกับเด็กวัยเดียวกัน
นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ออกมาเปิดเผยว่า ในกลุ่มเด็กนักเรียนอายุ 6-15 ปี ที่มีปัญหาผลการเรียนไม่ดี เรียนไม่ทันเพื่อนนั้นมักจะพบมี 4 โรคทางจิตเวชแอบแฝงที่พบบ่อย คือ
1.ออทิสติก
3.แอลดีหรือภาวะบกพร่องในการเรียนรู้
4.สติปัญญาบกพร่อง
จากสถิติพบว่า มีเด็กป่วยเป็นโรคสมาธิสั้นพบมากที่สุด ซึ่งผลสำรวจของกรมสุขภาพจิตปี 2559 ร้อยละ 5.4 คาดว่ามีเด็กเป็นโรคสมาธิสั้น 420,000 คน จากประชากรเด็ก 7 ล้านคน หรือพบได้ 2-3 คนต่อห้องเรียนที่มีเด็ก 40-50 คน และพบในเด็กผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ซึ่งอาการที่แสดงออกได้แก่ ซนอยู่ไม่นิ่งขาดสมาธิ หุนหันพลันแล่น หรือมักเรียกว่า “โรคไฮเปอร์” โดยเด็กจะวอกแวก ทำงานตก ๆ หล่น ๆ ทำอุปกรณ์การเรียนหายประจำ ซุ่มซ่าม ใจร้อน วู่วาม ซึ่งเกิดจากสมองทำงานผิดปกติ และมักมีอาการชัดเจนในช่วงประถมศึกษา
นพ.บุญเรือง กล่าวต่อว่า หากผู้ปกครองหรือครูไม่เข้าใจ และคิดว่าเป็นเด็กซน เด็กดื้อ จะทำให้เด็กขาดการรักษาที่ถูกต้อง เกิดปัญหาอารมณ์และพฤติกรรมที่อาจส่งผลถึงอนาคตได้ เช่น เสี่ยงติดสารเสพติด ก่ออาชญากรรม เป็นต้น