จากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและภาคธุรกิจโดยรวมแล้วยังสร้างปัญหาทุพโภชนาการให้แก่เด็กยากจนพิเศษราว 100,000 คน ทั่วประเทศ โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จับมือกับภาคเอกชน ร่วมลงมือทำแคมเปญ “มื้อนี้พี่เลี้ยง” ซึ่งเป็นแคมเปญระดมทุนภายใต้โครงการพัฒนาระบบอาหารเพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ให้แก่เด็กยากจนพิเศษ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความยั่งยืนด้านโภชนาการในระยะยาวให้แก่เด็กยากจนพิเศษทั่วประเทศ เพื่อให้โรงเรียนสามารถจัดหาอาหารเช้าที่ถูกหลักโภชนาการให้กับนักเ
รียนยากจนพิเศษซึ่งกำลังต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
แคมเปญ CSR ที่ชวนให้บริจาคด้วยวิธีการ
ที่แตกต่างที่ผ่านมาเราได้เห็นภาคเอกชนต่าง ๆ ออกมาทำแคมเปญ CSR ในรูปแบบต่าง ๆ มากมายแต่โดยส่วนใหญ่จะเห็นการมุ่งเน้นไปที่การจัดกิจกรรมลงพื้นที่ไปช่วยเหลือชุมชนต่าง ๆ แต่ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อาจจะไม่เหมาะในการทำโครงการ CSR แบบเดิมได้ ในขณะที่ยังมีเด็กๆ อีกหลายชีวิตที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้อยู่ในสภาวะทุพโภชนาการ และกำลังรอการช่วยเหลือ แคมเปญ “มื้อนี้พี่เลี้ยง” จึงเกิดขึ้นภายใต้โจทย์ที่ว่าจะทำอย่างไรให้เกิดการบริจาคหรือแบ่งปันมื้ออาหารให้น้อง ๆ เหมือนเรากำลังเลี้ยงข้าวเพื่อน แฟน หรือครอบครัวอย่างเต็มใจ
ร้าน “ทุพโภชนาการ” ในแอปพลิเคชัน GrabFood
การสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันถือเป็นวิถีชีวิตของคนในยุคปัจจุบันไปแล้ว โดยเฉพาะในช่วงล็อคดาวน์ บริษัท แกร็บ ประเทศไทย จำกัด เป็นหนึ่งในภาคเอกชนที่ร่วมมือกับ กสศ.ในการเปิดร้าน “ทุพโภชนาการ” ในแอปฯ GrabFood ซึ่งเป็นร้านอาหารเสมือนจริง (Virtual Store) ฉีกรูปกฏการทำ CSR ในแบบเดิม ๆ ด้วยการใช้ครีเอทีฟไอเดียมาใช้ในการเปิดช่องทางการรับบริจาคให้กับ
โครงการ “มื้อนี้พี่เลี้ยง” ให้ผู้บริโภคใจบุญที่กำลังมองหาร้านอาหารที่ถูกใจในแอปฯ และอยากจะเลี้ยงอาหารน้อง ๆ เด็กยากจนพิเศษ สามารถกดสั่งเพื่อเปลี่ยนเมนูอาหารที่เด็ก ๆ กลุ่มนี้รับประทานเป็นประจำซึ่งมีสารอาหารไม่ครบถ้วนให้เป็นมื้อเช้าที่ถูกหลังโภชนาการแทน นับเป็นการสื่อสารแคมเปญ CSR ที่ไม่มีแบรนด์ไหนเคยทำมาก่อน ซึ่งนอกจากจะช่วยเปลี่ยนมื้อ “อด” ของน้อง ๆ ให้เป็นมื้ออิ่ม แล้วยังให้ลูกค้าของ Grab สามารถแบ่งปันน้ำใจผ่านช่องทางการบริจาคเงินให้กับทางกสศ. เพื่อช่วยเหลือสังคมได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้นอีกด้วย
เมนูพิเศษเพื่อเด็กยากจนพิเศษจาก เกรฮาวด์ คาเฟ่
หากเรามีโอกาสได้สั่งข้าวเลี้ยงน้อง ๆ เด็กยากจนพิเศษในร้านอาหารดี ๆ สักมื้อคงจะดีไม่น้อย แค่เดินเข้าร้านเกรฮาวด์ คาเฟ่ก็ทำได้เลย เพราะบริษัท เกรฮาวด์ คาเฟ่ จำกัด เป็นอีกหนึ่งในภาคเอกชนที่เข้ามาร่วมระดมทุนกับกสศ. ในแคมเปญ“มื้อนี้พี่เลี้ยง”
ด้วยการทำเมนูพิเศษให้ผู้ที่เข้ามารับประทานอาหารในร้านสามารถเลือกสั่งเมนูพิเศษนี้ เพื่อสมทบทุนมื้อเช้าให้แก่เด็กยากจนพิเศษ
เมื่อลูกค้าสั่งอาหารจากเมนูพิเศษดังกล่าว พนักงานเสิร์ฟจะนำจานอาหารเปล่าพร้อมแนบคำขอบคุณจากน้อง ๆ มาเสิร์ฟให้ผู้ร่วมบริจาคถึงโต๊ะ เป็นกิมมิคน่ารัก ๆ ที่ทุกคนต้องประทับใจ
ทิศทางการทำ CSR รูปแบบใหม่ที่ไม่ต้องลงทุนเยอะแต่ใช้แค่ไอเดียในการนำเสนอ
การทำ CSR ของ GrabFood และ เกรฮาวด์ นับเป็นการปรับตัวของแบรนด์ในรูปแบบใหม่ในการสื่อสารและทำกิจกรรมเพื่อสังคมโดยไม่ต้องใช้การลงทุนมาก และเป็นการใช้ไอเดียที่น่าสนใจเข้ามานำเสนอและดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย ทั้งยังสามารถสร้างการจดจำให้กับลูกค้าของแบรนด์ได้อย่างดีอีกด้วย นับเป็นการปรับเปลี่ยนเทรนด์ในการทำ CSR ที่สามารถตอบโจทย์สถานการณ์ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ซึ่งในอนาคตเราอาจจะเห็นแบรนด์อื่น ๆ ออกมาสื่อสารแคมเปญเพื่อสังคมในรูปแบบที่แตกต่างออกไปกันมากขึ้น
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบริจาคเพื่อช่วยเหลือเด็กที่ยากจนพิเศษจำนวน กว่า 100,000 คนทั่วประเทศ ในโครงการ #มื้อนี้พี่เลี้ยง กับกสศ. ผ่าน GrabFood และ เกรฮาวด์ คาเฟ่ หรือบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี : กสศ.มาตรา 6(6) เลขบัญชี: 172-0-30021-6 หรือ www.eef.or.th หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร. 02-079-5475