‘ฟรีสแลนด์คัมพิน่า’ สานต่อพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อม เข้ารับประกาศนียบัตร โครงการนำร่องซื้อขายสิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจกฯ - Amarin Baby & Kids

‘ฟรีสแลนด์คัมพิน่า’ สานต่อพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อม เข้ารับประกาศนียบัตร โครงการนำร่องซื้อขายสิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจกฯ

Alternative Textaccount_circle
event

กรุงเทพ – บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นม “โฟร์โมสต์” พร้อมขับเคลื่อนพันธกิจระดับโลกในการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยเข้าร่วมในโครงการนำร่องทดสอบโครงสร้างพื้นฐานสำหรับระบบซื้อขายสิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย โดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) โครงการฯ นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมและเพิ่มขีดความสามารถให้แก่ภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งได้ริเริ่มดำเนินโครงการนำร่องทดสอบระบบซื้อขายสิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2558 ทั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมหากภาครัฐมีการขับเคลื่อนให้นำระบบดังกล่าวมาใช้ในอนาคต โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม ที่ผ่านมา นายสันติชัย ศิลป์งามเลิศ และ นายสงกรานต์ ปิยะวงศ์รุ่งเรือง ฝ่ายความปลอดภัยชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมของบริษัทฯ ได้เข้ารับประกาศนียบัตรจากประธานในพิธีฯ ดร.พงษ์วิภา หล่อสมบูรณ์ รองผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ณ ห้องอินฟินิตี้ โรงแรม พลูแมน คิงพาวเวอร์ กรุงเทพฯ 

นายสันติชัย ศิลป์งามเลิศ ผู้จัดการฝ่ายความปลอดภัยชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทฯ มีนโนบายและความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และส่งผลดีต่ประเทศไทยโดยองค์รวม เราดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Green House Gas : GHG) จากกิจกรรมต่างๆของบริษัทฯ ทั้งโดยทางตรงได้แก่ การเผาไหม้เชื้อเพลิง และการปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย และทางอ้อมได้แก่ การจัดการน้ำนมโคสดที่รับจากสหกรณ์โคนม ทั้งนี้เพื่อควบคุม และลดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเมื่อปีที่ผ่านมา 2562 ได้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก GHG ได้ถึง 6.59% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งถือได้ว่าเป็นแนวโน้มที่ดีทั้งในเรื่องการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า ตลอดจนการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up