ช่วงขวบปีแรก ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของชีวิต และยังมีความสำคัญต่อการพัฒนาสมองมากที่สุดด้วย แต่เด็กจำนวนไม่น้อยกลับพลาดกิจกรรมในการเสริมสร้างทักษะการอ่านและการพูดไป เพียงเพราะพ่อแม่คิดว่าเด็กยังเล็กเกินไปที่จะเข้าใจเนื้อหาในหนังสือ ทั้งนี้ในความเป็นจริงเราสามารถเริ่มต้นการอ่านให้กับลูกได้ตั้งแต่ช่วงแรกเกิด เป็นต้นไปได้เลยค่ะ ทั้งนี้จากงานวิจัยของ American Academy of Pediatrics พบว่า การให้เด็กอ่านหนังสือตั้งแต่ยังเล็ก ช่วยเพิ่มคำศัพท์ เพิ่มทักษะการอ่านก่อนที่จะเข้าโรงเรียน และการเสริมสร้างลักษะนิสัยด้วย
และเมื่อไหร่ที่เขาโตขึ้น การอ่านออกเสียงจะดึงให้เด็กเข้ามามีส่วนร่วม พร้อมๆกับมีการชี้ไปที่ภาพ และการอ่านทวนคำซ้ำๆ ดังนั้น พ่อแม่ต้องใช้โอกาสนี้ในการพูดคุยเรื่องราวที่มีมากกว่าแค่ในหนังสือตรงหน้า โดยพยายามตั้งคำถามเยอะๆ เพื่อให้ลูกน้อยได้นึกถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นและสิ่งรอบตัวที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน
ทั้งนี้การอ่านหนังสือให้ลูกฟังไม่ต้องใช้เวลานานก็ได้ และไม่ต้องอ่านหลายเล่ม ขอแค่ได้อ่านเป็นประจำสม่ำเสมอก็พอ มีเวลาน้อย ก็อ่านน้อย มีเวลามากก็อ่านมาก แต่หลักๆ ใช้เวลาเพียง 10-15 นาทีต่อวันเท่านั้น จะอ่านทุกคืนก่อนนอน อ่านตอนเช้า อ่านตอนเย็น อ่านบนรถตอนรถติด อ่านตอนรอคิวที่ร้านอาหาร หรืออ่านตอนออกไปเที่ยวนอกบ้านก็ได้ ฉะนั้นไม่ว่าจะไปที่ไหน แนะนำให้ถือหนังสือหรือนิทานติดกระเป๋าไว้ มีโอกาสตอนไหนก็หยิบมาอ่านให้ลูกฟังได้ทุกที่ ทุกเวลา
Did You Know เทคนิคอ่านนิทานให้ลูกวัยทารกฟัง
– เด็กทารกส่วนมากยังไม่แสดงท่าทีว่าสนใจจะฟังนิทานจนกว่าจะอายุครบ 6 เดือนไปแล้ว ดังนั้น ถึงแม้ว่าลูกจะยังไม่มีท่าทางกระตือรือร้นฟังคุณแม่อ่าน แต่ลูกได้ยินทุกคำที่คุณอ่านให้ฟัง
– สร้างสภาพแวดล้อมในการอ่านหนังสือให้ลูกรู้สึกอบอุ่น และประทับใจ ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมในการอ่านระหว่างแม่ลูก มีการกอดลูก อุ้มลูกนั่งตัก หรือนอนอ่านหนังสือด้วยกันบนเตียง เหล่านี้จะติดตรึงในความทรงจำของลูกตลอดไป
– ขณะอ่านหนังสือให้ลูกน้อยฟัง พยายามอ่านออกเสียงให้ลูกฟังดังๆ และชัดเจน เพื่อลูกจะได้รู้ว่าคำนี้อ่านออกเสียงว่าอย่างไร เช่นคำว่า สามารถ (สา-มาด), มกราคม (มะ-กะ-รา-คม) และโดยเฉพาะคำที่มีตัว ร, ล และคำควบกล้ำ
– ลองเลือกหนังสือที่มีแต่รูปภาพ และไม่มีคำศัพท์ดูบ้าง เพราะช่วยให้ลูกเล่าเรื่องเองจากภาพที่เห็น
อยากรู้ข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับนิทานสำหรับลูกน้อย และหนังสือสำหรับเด็ก พร้อมเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับการอ่าน เข้าไปดูได้ที่ทาง FB Fanpage : thehappyread และ www.thehappyread.com มีโครงการดีๆ เชิญชวนคุณพ่อคุณแม่และลูกน้อยมาเป็นครอบครัวนักอ่าน และร่วมบริจาคหนังสืออีกด้วย