อมรินทร์กรุ๊ป โดย บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด ภายใต้การสนับสนุนจาก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และกระทรวงศึกษาธิการ แถลงข่าวพร้อมเปิดโครงการ ส่งความรู้ สร้างความสุข ปี 5 เพื่อผลักดันและส่งเสริมให้เด็กไทยทั่วประเทศ เห็นความสำคัญและมีนิสัยรักการอ่าน และพัฒนาห้องสมุดของโรงเรียนให้มีชีวิต ตามแนวคิด “การอ่านเป็นรากฐานที่สำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาของเด็ก” โดยมี ดร.วิษณุ ทรัพย์สมบัติ ผู้อำนวยการสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา และรักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษา ด้านมาตรฐานการศึกษา ผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ ให้เกียรติเป็นประธานงานแถลงข่าว ร่วมด้วย ศิริ บุญพิทักษ์เกศ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทอมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน) โสภณ ราชรักษา ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มงานทรัพยากรบุคคลและสมรรถนะองค์กร บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) รวมถึงกลุ่มโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ “ส่งความรู้ สร้างความสุข” ร่วมงาน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ดร.วิษณุ ทรัพย์สมบัติ ผู้อำนวยการสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา และรักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษา ด้านมาตรฐานการศึกษา ผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ ประธานในงานแถลงข่าว โครงการส่งความรู้ สร้างความสุข ปี 5 เผยว่า “กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายการจัดการศึกษา ภายใต้ยุทธศาตร์ชาติเพื่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ในประเด็นการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ได้แก่ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ การพัฒนาเด็กตั้งแต่ช่วงการตั้งครรภ์จนถึงปฐมวัย รวมทั้งการพัฒนาช่วงวัยเรียน วัยรุ่น ตลอดจนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 และการพัฒนาพหุปัญญาของมนุษย์
โครงการส่งความรู้ สร้างความสุข ที่ดำเนินโครงการโดยอมรินทร์กรุ๊ป จากการสนับสนุนของบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ทางกระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ดำเนินงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ภายใต้แนวคิด “เด็กไทยอ่านออก เขียนได้…คุณครูก้าวไกล…ชาติไทยพัฒนา” ซึ่งไม่เพียงแต่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยการพัฒนาทักษะการอ่านของผู้เรียนให้เป็นผู้รู้หนังสือ สามารถอ่านออก เขียนได้ ผ่านกิจกรรมอ่านกัน วันละ 15 นาที แต่ยังช่วยพัฒนาคุณครูผู้รับผิดชอบโครงการ สามารถรวบรวมและเก็บชิ้นงานที่เกิดขึ้นจากการทำกิจกรรมพัฒนาทักษะการอ่าน ที่ทำร่วมกับผู้เรียนนำไปประกอบเป็นผลงานที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานจริง ในการขอเลื่อนวิทยฐานะต่อได้”
หม่อมหลวงลือศักดิ์ จักรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทอมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวถึงการดำเนินโครงการ “ส่งความรู้ สร้างความสุข ปี 5” ว่า “โครงการส่งความรู้ สร้างความสุข ปี 5 เกิดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้กับนักเรียนในโรงเรียนเป้าหมาย โดยสนับสนุนให้เป็นผู้รู้หนังสือ อ่านออก เขียนได้และมีผลสัมฤทธิ์ในรายวิชาโดยเฉพาะวิชาภาษาไทยสูงขึ้น รวมทั้งส่งเสริมให้ครูผู้รับผิดชอบโครงการเพิ่มวิทยฐานะของตนเองจากการลงมือปฏิบัติงานจริงกับผู้เรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม และยังพัฒนาให้โครงการส่งความรู้ สร้างความสุข เป็นต้นแบบโครงการที่สามารถสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ ในการพัฒนาคุณภาพการรู้หนังสือของเด็กไทยอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม
โครงการส่งความรู้ สร้างความสุข ปี 5 ยังคงสานต่อความมุ่งมั่นผ่านการดำเนินงานโครงการ โดยจัดให้มีกิจกรรมการอ่านวันละ 15 นาที, ก่อตั้งชมรมรักการอ่าน, การลงบันทึกรักการอ่านอย่างสม่ำเสมอ, ต่อยอดกิจกรรม “อ่านดัง ฟังเพลิน” ให้นักอ่านรุ่นใหม่อ่านแล้วบันทึกคลิปเสียง เพื่อส่งต่อจากผู้ให้สู่ผู้พิการทางสายตา เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนที่เข้าร่วมชมรมรักการอ่านมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดีขึ้น
ปีนี้ โครงการส่งความรู้ สร้างความสุข ปี 5 มีพันธกิจโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ 50 แห่งจาก 22 จังหวัด และมีสมาชิกเข้าชมรมรักการอ่าน 5,000 คน ทำให้ และได้เริ่มดำเนินโครงการดังกล่าวไปแล้วในหลายโรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนวัดมัชฌันติการาม กทม., โรงเรียนทุ่งสองห้อง (คุปตัษเฐียรอุทิศ) กทม., โรงเรียนเสนานิคม กทม., โรงเรียนวัดหนองใหญ่ กทม., โรงเรียนวัดคู้บอน (วัฒนานันท์อุทิศ) กทม., โรงเรียนบ้านบางน้ำจืด จ.สมุทรสาคร, โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน บ้านนากระเสริม จ.นครพนม, โรงเรียนบ้านเขวา “รัฐประชาวิทยากร” จ.มหาสารคาม, โรงเรียนเทศบาลวัดดอนไก่ดี (สังวรจันทสรราษฎรวิทยา) จ.สมุทรสาคร เป็นต้น
ส่งผลให้การดำเนินโครงการส่งความรู้ สร้างความสุข ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน จะมีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 260 แห่งจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ ส่งมอบชั้นวางพร้อมหนังสือกับ 10 หมวดความรู้ให้แก่โรงเรียนต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 285,000 เล่ม และมีนักเรียนที่เข้าชมรมรักการอ่านกว่า 29,000 คน
จากการดำเนินโครงการตลอด 4 ปีที่ผ่านมา พบว่านักเรียนที่เข้าร่วมโครงการมีผลสัมฤทิ์ทางการศึกษาดีขึ้น โดยในปีที่ 1 มีผลการเรียนดีขึ้น 64% ปีที่ 2 เพิ่มขึ้นเป็น 72% ปีที่ 3 เพิ่มขึ้นเป็น 75% และปีที่ 4 เพิ่มขึ้น 77% จากจำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 23,324 คน ถือเป็นการเติบโตด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอย่างต่อเนื่องจากการดำเนินโครงการ
โครงการส่งความรู้ สร้างความสุข ปี 5 นี้ ได้วางเป้าหมายความสำเร็จของโครงการคือ นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการมีผลสัมฤทิ์ทางการศึกษาที่ดีขึ้น ด้านผู้บริหารและคุณครูให้ความสำคัญเรื่องการอ่าน ซึ่งเป็นพื้นฐานของการรู้หนังสือของนักเรียน คุณครูเองยังได้พัฒนาด้านการเรียนการสอน และมีโอกาสพัฒนาความก้าวหน้าในวิชาชีพ ส่งเสริมให้โรงเรียนเป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นสื่อประเภทหนังสือ คลิปวิดีโอการเรียนรู้ต่างๆ ที่มีคุณภาพ หลากหลาย เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของผู้เรียน”
ทั้งนี้ภายในงานมีการจัดแสดงตัวอย่างหนังสือที่จะมอบให้กับโรงเรียนในโครงการ ซึ่งประกอบไปด้วย หนังสือต่างๆ เช่น พระราชนิพนธ์ สื่อการเรียนการสอน หนังสือนิทาน หนังสือความรู้ทั่วไป การ์ตูน เสริมความรู้ การ์ตูนประวัติศาสตร์ ฯลฯ รวมไปถึงหนังสือสองภาษา
สามารถติดตามรายละเอียดของโครงการ “ส่งความรู้ สร้างความสุข” รวมทั้งภาพกิจกรรมจากโครงการฯ บทความและเคล็ดลับดีดีเกี่ยวกับการอ่าน ได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ : The Happy Read