สมาร์ทผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรเข้มข้น ไฮจีนิค คลีน ร่วมสร้างมาตรฐานใหม่แห่งวงการซักผ้า ด้วย 3 สูตรใหม่ ฆ่าเชื้อโรค ขจัดฝุ่นและมลภาวะ สยบกลิ่นอับชื้นจากเหงื่อ เพื่อผ้าสะอาดขั้นกว่า
เปิดมิติใหม่ของการซักผ้าที่บอกลาทุกปัญหากวนใจ ทั้งฆ่าเชื้อโรค ขจัดฝุ่นและมลภาวะ สยบกลิ่นอับชื้นจากเหงื่อ ด้วย สมาร์ท (Smart) ผลิตภัณฑ์ซักผ้ามาตรฐานสากล แบรนด์แรกในไทยที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรเข้มข้น ที่สามารถฆ่าเชื้อไวรัส 99.9%* หนึ่งในแบรนด์สินค้าคุณภาพ ภายใต้บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) พร้อมเผยโฉมพรีเซนเตอร์ใหม่คู่แม่ลูกสุดน่ารัก “กุ๊บกิ๊บ” สุมณทิพย์ ชี และลูกสาว “น้องเป่าเปา” ที่จะมาแนะนำมาตรฐานใหม่ของการซักผ้ากับผลิตภัณฑ์ล่าสุด สมาร์ทผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรเข้มข้น ไฮจีนิค คลีน ขจัดคราบ ฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย 99.9%* รวมไปถึง สมาร์ทผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรเข้มข้น เพรสทีจ โกลด์ ขจัดคราบและฝุ่นลงลึกถึงเส้นใย และสมาร์ทผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรเข้มข้น เพรซเชียส พิงค์ ขจัดคราบ สยบกลิ่นอับจากเหงื่อ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่ม ในงานเปิดตัวพรีเซนเตอร์คนล่าสุด ท่ามกลางบรรยากาศสุดคึกคักของเหล่าคุณพ่อบ้าน แม่บ้านนักช้อปตัวจริง ณ โลตัส บางใหญ่ ในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้
ศิริสุภา อาจสัญจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากการพัฒนาสูตรตลอด 3 ปีที่ผ่านมา สมาร์ทตั้งใจส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ด้านประสิทธิภาพแก้ปัญหาให้ผู้บริโภคได้ตรงจุด เช่น ฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย 99.9%* ขจัดฝุ่นและมลภาวะ และลดกลิ่นอับชื้นจากเหงื่อ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ใหม่ในการเป็นผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรเข้มข้นที่มีคุณสมบัติแตกต่างกับผลิตภัณฑ์ซักผ้าในตลาด ซึ่งนอกจากขจัดคราบและความหอมแล้ว สมาร์ทยังเป็นแบรนด์แรกในไทยที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ซักผ้าแบบน้ำที่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ถึง 99.9%* เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่มีความกังวลเรื่องความสะอาดของเสื้อผ้าเป็นพิเศษ”
นอกจากนี้ศิริสุภา ยังเผยถึงการเลือก “กุ๊บกิ๊บ” สุมณทิพย์ และลูกสาว “น้องเป่าเปา” เป็นพรีเซนเตอร์คู่ล่าสุด รวมถึงสิ่งที่สมาร์ทต้องการสะท้อนผ่านคาแรกเตอร์ของพรีเซนเตอร์ ซึ่งเป็นคุณแม่ที่ดูแลลูกด้วยตัวเอง รวมทั้งเลี้ยงลูกโดยไม่ปิดกั้นความคิดและพัฒนาการ แต่ก็ยังคงดูแลและปกป้องลูกอยู่เสมอ เหมือนกับสมาร์ทที่ช่วยดูแลเสื้อผ้าให้สะอาดปลอดภัยในทุกกิจกรรม
“ด้วยคาแรกเตอร์ของกุ๊บกิ๊บเป็นคุณแม่ยุคใหม่ที่นอกจากต้องทำงานนอกบ้านแล้วยังต้องดูแลคนในครอบครัว ทั้งยังเป็นคุณแม่ช่างเลือกที่คัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก ๆ และน้องเป่าเปา ซึ่งเป็นเด็กวัยเรียนรู้มีกิจกรรมหลังเลิกเรียนมากมาย ทำให้อาจมีสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าติดอยู่บนเสื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็น เชื้อโรค ฝุ่นจากมลภาวะรอบตัว หรือกลิ่นอับชื้นจากเหงื่อ ซึ่งผลิตภัณฑ์ซักผ้าสมาร์ทจะเข้ามาตอบโจทย์ได้ครบทุกปัญหา เพื่อคลายความกังวลใจให้กับทุกคนที่ต้องการดูแลเสื้อผ้าให้สะอาด ไร้กลิ่นอับชื้น”
สำหรับแคมเปญการตลาดของผลิตภัณฑ์ซักผ้าสมาร์ทในปีนี้ จะเน้นกิจกรรมที่ทำให้นึกถึงความสำคัญของการทำความสะอาดเสื้อผ้า นอกจากขจัดคราบ ยังช่วยขจัดสิ่งสกปรกอื่น ๆ บนเสื้อผ้าที่นึกไม่ถึง เพื่อสุขอนามัยที่ดีของทั้งครอบครัว ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยสื่อสารผ่าน Online Clip ของทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ ได้แก่
สมาร์ทผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรเข้มข้น ไฮจีนิค คลีน (Smart Concentrated Laundry Detergent Hygienic Clean “Anti-Virus”) ซักสะอาด พร้อมฆ่าเชื้อไวรัส SAR-CoV-2 และเชื้อแบคทีเรีย 99.9%* ช่วยขจัดคราบ และลดกลิ่นอับชื้นที่เกิดจากแบคทีเรีย พร้อมกลิ่นหอมสะอาด เพื่ออนามัยที่ดี ใช้ได้ทั้งผ้าสีและผ้าขาว ขนาด 700 มล. ราคา 89 บาท
สมาร์ทผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรเข้มข้น เพรสทีจ โกลด์ (Smart Concentrated Laundry Detergent Prestige Gold “Anti-Pollution”) ซักสะอาด พร้อมช่วยขจัดคราบฝุ่น และมลภาวะได้ลงลึกถึงเส้นใย มอบผ้าสะอาดหอม ช่วยลดกลิ่นอับชื้น ใช้ได้ทั้งผ้าขาวและผ้าสี ขนาด 700 มล. ราคา 89 บาท
สมาร์ทผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรเข้มข้น เพรซเชียส พิงค์ (Smart Concentrated Liquid Detergent Precious Pink “Anti-Odor”) ซักสะอาด พร้อมสยบกลิ่นอับชื้นจากเหงื่อ ด้วยเทคโนโลยี ODOR CONTROL ให้กลิ่นหอมสะอาด ใช้ได้ทั้งผ้าสีและผ้าขาว ขนาด 700 มล. ราคา 89 บาท
เพื่อเสื้อผ้าสะอาด ปราศจากเชื้อโรค ขจัดฝุ่นและมลภาวะ สยบกลิ่นอับชื้นจากเหงื่อ ด้วยมาตรฐานใหม่แห่งการซักผ้าที่สะอาดยิ่งกว่ากับ 3 สูตรใหม่ของ “สมาร์ท” ผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรเข้มข้นไฮจีนิค คลีน, เพรสทีจ โกลด์ และเพรซเชียส พิงค์ พร้อมวางจำหน่ายแล้ว ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์ททั่วประเทศ ร้านค้าออนไลน์ Lazada: NeodealDD เพียงคลิกลิงค์นี้ https://bit.ly/3xaNvLG Shopee: D-nee Official และ LINE @NEOdealDD
# # # #
*ผลการทดสอบในห้องปฎิบัติการด้วยเชื้อไวรัส SAR-CoV-2, เชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus และ Klebsiella pneumoniae