วิธีเก็บเงิน ให้ล้นกระเป๋าสตางค์แบบฉบับคนญี่ปุ่น!! - Amarin Baby & Kids
วิธีเก็บเงิน สไตล์ญี่ปุ่น

วิธีเก็บเงิน ให้ล้นกระเป๋าสตางค์แบบฉบับคนญี่ปุ่น!!

Alternative Textaccount_circle
event
วิธีเก็บเงิน สไตล์ญี่ปุ่น
วิธีเก็บเงิน สไตล์ญี่ปุ่น

กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง งั้นชวนมากระเป๋าบวม เงินล้นกระเป๋ากันดีกว่าด้วย วิธีเก็บเงิน สไตล์ญี่ปุ่น ง่าย ๆ แค่ 5 ข้อ มาร่วมกันทำกระเป๋าให้เป็นบ้านของเงินเรากันเถอะ

วิธีเก็บเงิน ให้ล้นกระเป๋าสตางค์แบบฉบับคนญี่ปุ่น!!

กระเป๋าที่ทุกคนทุกเพศต้องมีและพกติดตัวไว้ตลอดเวลา มีประโยชน์ช่วยในเรื่องของการใส่เงินหรือเก็บเงิน นามบัตร บัตรเครดิตต่างๆที่รวมอยู่ในใบเดียว ง่ายต่อการพกพาเวลาไปไหนมาไหน ช่วยในเรื่องของความสะดวก มีหลายแบบและหลายขนาดให้เลือกตามความชอบและเหมาะกับการใช้งานของผู้ที่ต้องการใช้ ซึ่งขนาดจะมีตั้งแต่แบบสั้น แบบกลาง และแบบยาว ส่วนวัสดุที่นำมาผลิตก็มีตั้งแต่หนังแท้ หนังเทียม ผ้า เป็นต้นเกริ่นมายาวเหยียดคุณคิดไม่ผิดหรอกว่านี่คือ คำนิยามของคำว่า กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าเงิน หรือ กระเป๋าสตางค์ก็สุดแล้วแต่ใครจะเรียกไปตามความถนัด

แต่รู้หรือไม่ว่ากระเป๋าสตางค์ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่เก็บเงินเท่านั้นนะ หากเราอยากให้ภายในกระเป๋าสตางค์เราเต็มไปด้วยเงินจนอัดแน่นแล้ว เราลองมาใช้แนวคิดในแบบฉบับสไตล์ของคนญี่ปุ่น ที่มักผสมผสานหลักความเชื่อ ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และความคิดสร้างสรรค์เข้าไว้ด้วยกัน ในหลักการจัดกระเป๋าสตางค์ให้กลายเป็น “บ้านของเงิน” กันดีกว่า ขอแอบบอกว่ามีคนเคยลองทำตามดูแล้วรับประกันว่ามีเงินไม่เคยขาดกระเป๋ากันด้วยนะ อย่ามัวแต่ช้า รีบมาเป็นเศรษฐีใหม่กันดีไหมน้า

อ่านต่อ การสอนแบบญี่ปุ่น กับกฎ 18 ข้อที่เด็ก ๆ ต้องทำได้ก่อนเข้าป.1

วิธีเก็บเงิน แบบฉบับญี่ปุ่น
วิธีเก็บเงิน แบบฉบับญี่ปุ่น

บ้านของเงิน

บ้าน จัดเป็นปัจจัยหนึ่งอย่างที่มนุษย์จำเป็นต้องมี หนึ่งในปัจจัย 4 ของเรา เพราะบ้านเป็นแหล่งพักพิง ให้คนเราได้พักผ่อนหย่อนใจเพื่อให้กลับมามีแรงมีพลังในการทำงานในวันถัด ๆ ไป  ดังนั้นจึงเถียงไม่ได้เลยว่า หากเรามีบ้านที่ดี น่าอยู่ เป็นระเบียบเรียบร้อย ก็ย่อมทำให้เจ้าบ้าน หรือคนที่จะมาอาศัยอยากอยู่บ้านนาน ๆ อยู่แล้วรู้สึกสบายใจ มีพลัง พร้อมจะออกไปต่อสู้ฟันฝ่า และได้รับชัยชนะกลับมามากกว่าคนที่อ่อนล้า อยู่ในบ้านที่ไม่ดี ไม่ส่งเสริมจริงไหม

ด้วยหลักแนวคิดดังกล่าว ทำให้คนญี่ปุ่นคิดว่าเงินก็เช่นกัน กระเป๋าสตางค์เป็นจุดเริ่มต้นของการ ‘รับเงิน’ และ ‘จ่ายเงิน’ นั่นคือ การเข้า และออกจากบ้านของเงินนั่นเอง หากเราอยากให้เงินอยู่ติดกระเป๋าสตางค์ของเราไปนาน ๆ เราจึงควรจัดกระเป๋าสตางค์ที่นับได้ว่าเป็นบ้านของเงินให้ดี เรียบร้อยจะได้มีเงินเต็มกระเป๋าอย่างที่คนทุกคนต้องการ เรามาดูหลักการของแนวคิด “บ้านของเงิน” นี้โดยวิเคราะห์ตามหลักแห่งเหตุผลกันดีกว่าว่าน่าเชื่อถือมากพอที่เราควรจะทำตามหรือไม่

1.เลือกใช้กระเป๋าสตางค์ที่มีคุณภาพ 

กระเป๋าสตางค์ถือเป็นสิ่งของสำคัญที่ใช้ในการเก็บเงิน ดังนั้น หากมีรอยขาดรั่ว หรือเก่าจนชำรุด ก็ถึงเวลาเปลี่ยนไปใช้ใบใหม่ได้แล้ว เพราะในทางฮวงจุ้ยแล้ว กระเป๋าสตางค์ที่มีรอยรั่วจะหมายถึงการปล่อยเงินให้รั่วไหล เก็บเงินอย่างไรก็ไม่อยู่  ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วกระเป๋าเงินที่ขาดก็อาจทำให้เงินรั่วหล่นได้จริง ๆ แถมยังไม่ดีต่อบุคลิกภาพอีกด้วย ดังนั้นหากเราไม่อยากเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์บ่อย ๆ การที่เราเลือกซื้อกระเป๋าที่มีคุณภาพ วัสดุที่ใช้ทนทาน การตัดเย็บ และรูปแบบที่สวยงาม ใช้งานง่าย ถึงแม้ว่าบางยี่ห้อจะมีราคาแพงสักหน่อย แต่ถ้าคนที่รู้จักใช้เงิน ประเมินถึงความคุ้มค่า ความเหมาะสมกับวิถีชีวิตของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ว่ากระเป๋าสตางค์ใบนั้น ๆ คุ้มค่าเหมาะกับเราหรือไม่ ก็จะยิ่งนับว่าเจ้าของกระเป๋าสตางค์ใบนั้น ๆ เป็นคนใช้เงินเป็น และย่อมมีสถานะทางการเงินที่ดีตามมาเป็นแน่

กระเป๋าสตางค์แบบยาว วิธีเก็บเงิน สไตล์คนญี่ปุ่น
กระเป๋าสตางค์แบบยาว วิธีเก็บเงิน สไตล์คนญี่ปุ่น

เกร็ดความรู้ที่ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ ในบางแนวคิดก็มีความเชื่อที่ว่า กระเป๋าสตางค์แบบยาวนั้นเป็นกระเป๋าที่ดี เพราะเชื่อว่าสามารถเรียงเงินได้ง่าย กระเป๋าสตางค์แบบพับ เงินต้องถูกพับครึ่งเหมือนคนต้องคุดคู้งอตัวคงไม่สบายเท่า

2.อย่ายัดของใส่กระเป๋าสตางค์จนมากเกินพอดี

ใครชอบเก็บของทุกสิ่งอย่างไว้ในกระเป๋าสตางค์ ไม่ว่าจะเป็นบัตรประชาชน บัตรเครดิต รวมทั้ง ใบเสร็จต่าง ๆ ซึ่งทำให้กระเป๋าอ้วนตุงและคับแน่นอยู่เสมอโปรดยกมือขึ้น ขอเตือนไว้ว่ามันไม่ถูกตามหลักฮวงจุ้ยนะ เพราะเขาว่าไว้ว่าจะทำให้เก็บเงินไม่อยู่ แถมยังทำให้เงินทองไม่ไหลเข้าอีกด้วย ลองคิดตามกันดูง่าย ๆ นะจ๊ะว่าหากบ้านที่เราอยู่มีของวางเต็มแน่นไปหมด เราคงไม่อยากเอาของใด ๆ มาใส่เพิ่มให้รกเข้าไปอีก เงินก็เช่นกัน หากเรารู้สึกว่ากระเป๋าสตางค์ของเราอวบอ้วนเหมือนดั่งมีเงินอยู่เต็ม เลยพาลคิดไปว่ามีเงินอยู่เต็มจริง ๆ แต่ความเป็นจริงกลับเป็นเพียงเศษกระดาษ ใบเสร็จตั่งต่างนานา แต่เงินจริงมีเพียงไม่กี่ใบคงน่าเศร้าน่าดูจริงไหม ดังนั้น หากเป็นไปได้ให้แยกบัตรและใบเสร็จต่าง ๆ เก็บไว้อีกกระเป๋า โดยให้กระเป๋าสตางค์มีเฉพาะเงินเท่านั้น หรือหากใครจำเป็นต้องใส่บัตรจริง ๆ ก็ให้เลือกเฉพาะบัตรที่จำเป็นเท่านั้น เวลากระเป๋าแบนก็จะรู้ล่วงหน้าว่าเงินน้อยแล้วนะ ต้องหามาเพิ่มก่อนแฟนจะทิ้งนะจ๊ะขอเตือน

เกร็ดความรู้ที่ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ การจัดระเบียบภายในกระเป๋าสตางค์ให้เป็นระเบียบก็เป็นอีกหลักจิตวิทยาหนึ่งของคนญี่ปุ่น ที่มีความเชื่อในเรื่องโชคลาง ว่าจะนำมาสู่ความมั่งคั่ง เช่น ธนบัตรก็จะเรียงไว้เป็นอย่างดีหัวหางต้องไปทางเดียวกัน จัดเรียงแบงค์ แบงค์ใหญ่จะอยู่ในสุด เช่นแบงค์ 1,000 อยู่ลึกสุด เรียงต่อมาด้วย 500 บาท 100 บาท 50 บาท และ 20 บาท ถ้ามีเศษเหรียญก็ให้แยกใส่กระเป๋าเก็บเหรียญให้เรียบร้อยไม่เอามารวมในกระเป๋าสตางค์ให้ดูอ้วนใหญ่

อย่าพึ่งหนักใจ วิธีเก็บเงิน ง่าย ๆ จากกระเป๋าสตางค์
อย่าพึ่งหนักใจ วิธีเก็บเงิน ง่าย ๆ จากกระเป๋าสตางค์

3.ใส่ ‘เงินขวัญถุง’ เป็นแบงค์ใหญ่สร้างแรงบันดาลใจในการหาเงิน

หากใครที่ไม่ชอบพกเงิน และปล่อยให้กระเป๋าสตางค์ว่างเปล่าอยู่เสมอ ก็มักจะมีปัญหาด้านการเงินอยู่บ่อย ๆ เช่นกัน เพราะการมีเงินติดกระเป๋าตลอดเวลานอกจากจะแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของเจ้าของกระเป๋าสตางค์แล้ว ยังทำให้เจ้าของมีไว้ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินด้วย แล้วเงินขวัญถุงจำเป็นต้องเป็นแบงค์ใหญ่เท่านั้นเหรอ คำตอบต่อคำถามนี้คงต้องถามกลับเจ้าของกระเป๋าสตางค์บ้างแล้วละว่า แบงค์ใหญ่ของคุณคือเท่าใด แต่แนะนำว่าควรจะมีมูลค่ามากที่สุดเท่าที่คุณจะสามารถหามาใส่ไว้ได้ เพราะอะไรนะเหรอ ลองคิดตามดูนะว่าหากเรามีความเชื่อแล้วว่าแบงค์ใบใหญ่ใบนั้นของคุณเป็นเงินขวัญถุงที่มีความขลัง เราก็ไม่อยากจะใช้มันออกไป แน่นอนว่าเงินเก็บของคุณก็ยังคงนอนอยู่ในกระเป๋าสตางค์ของคุณไม่ปลิวลอยหายไปกับของไม่จำเป็นใช่ไหมละ

4.อย่ากดเงินพร่ำเพรื่อเพื่อใช้จ่ายทั่วไป คำนวณให้พอดีว่าจะใช้เท่าไร

เพราะเงินออกจากกระเป๋าแล้วมันไม่กลับมาง่าย ๆ ดังนั้น ต้องให้เส้นทางของเงินที่ออกไปนั้นได้ประโยชน์สูงสุด หากคุณใส่เงินไว้ในกระเป๋าสตางค์มากเกินไป เกินพอดี เวลาหน้ามืดขึ้นมาเวลาช็อปปิ้ง เราอาจจะยั้งตัวไม่ทันกันก็ได้เชียวนะ เพราะโรคหน้ามืดขณะช้อปปิ้งนี้น่ากลัวเสียด้วยสิ จริงไหมจ๊ะสาว ๆ

เพลิดเพลินกับการใช้จ่าย
เพลิดเพลินกับการใช้จ่าย

5.ทุกครั้งที่หยิบเงินออกจากกระเป๋าสตางค์มันคือการลงทุน

การลงทุนไม่ได้มีความหมายเพียงแค่ ลงทุนในเรื่องใหญ่ ๆ หรือได้ปันผลมาในรูปแบบของเงินเพียงเท่านั้น แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ หากเป็นเรื่องที่ก่อให้เกิดประโยชน์ได้ ก็นับว่าคือการลงทุนอย่างหนึ่ง เช่น การซื้ออาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมารับประทาน แม้ว่าจะมีราคาสูงกว่าอาหารจำพวกอาหารฟาสฟู้ด หรืออาหารตามร้านสะดวกซื้อ แต่ในระยะยาวร่างกายจะได้รับประโยชน์ไม่ต้องมาเสียค่ารักษาในภายหลัง นั่นก็คือการลงทุนแล้ว และหลังจากนั้นการลงทุนในเชิงรูปธรรมจะตามมา เช่น หุ้น กองทุน อสังหาริมทรัพย์ หรือการออมเงินอื่น ๆ เพราะถ้าเรามีวินัยทางการเงิน มีการจัดระบบการเงินเป็นสัดส่วน การลงทุนรูปแบบไหนเราก็รับมือได้หมดอย่างแน่นอน

ถึงแม้ว่า การจัดกระเป๋าสตางค์จะดูเป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่อย่ามองข้ามไปเชียว เพราะหากเราไม่สามารถจัดการเรื่องใกล้ตัวเราที่สุด อย่างกระเป๋าสตางค์ที่เราต้องปิดเปิด หยิบใช้กันอยู่ทุกวันนั้นไม่ได้ เราก็คงไม่สามารถจัดการเรื่องอื่นได้ดีเป็นแน่ ถ้าอยากจะฝึกวินัยทางการเงิน ลองเริ่มจากการจัดกระเป๋าสตางค์ให้เป็นระเบียบดู อย่างน้อยตอนเปิดกระเป๋าสตางค์ มันจะทำให้เราสังเกตได้ว่าเรามีเงินสดเหลืออยู่เท่าไร มีบัตรเครดิต บัตร ATM กี่ใบ เพียงเท่านี้เราก็มีข้อมูลที่ใช้ในการตัดสินใจกับการใช้จ่ายได้อย่างรวดเร็ว หลักการลงทุนอันดับต้น ๆ ของทุกการลงทุนเลยนั่นคือ ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และรวดเร็วทันต่อการตัดสินใจมิใช่หรือ

ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก หนังสือ ชีวิตมั่งคั่งด้วยกระเป๋าสตางค์ใบเดียว เขียนโดย คะเมะดะ จุนอิชิโร (ทินภาส พาหะนิชย์ แปล)/ smex.business/undubzapp.com/JapanSalaryman

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

วิธีเก็บเงิน แบบคนรวย เคล็ดลับ 15 ข้อที่ควรสอนลูก

สีกระเป๋าสตางค์ตามวันเกิด 2563 สีไหนดี? เสริมดวงสุดปัง เงินเข้าไม่ขาดมือ

สีเสื้อมงคล 2563 เสริมดวง 12 ราศี ใส่แล้วงานดี เงินเริ่ดตลอดปี

ผมสั้นก็ปังได้นะแม่! รวม 40 ไอเดีย ทรงผมสั้นประบ่า สวยได้ ไม่ตกเทรนด์

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up