6. ความเครียด หากสังเกตให้ดี ทุกวันนี้สังคมของเรานั้นเต็มไปด้วยความเครียด ไหนจะเครียดเรื่องงาน เงิน และรถติดแล้วยังมาเจอปัญหาในครอบครัวอันเกิดจากการไม่คุยกันอีก ทำให้เกิดความสะสมจนเก็บความเครียดนั้นมาระบายและทะเลาะใส่กัน สิ่งที่จะช่วยป้องกันได้ก็คือ การรู้จักควบคุมอารมณ์และความคิดของตัวเองก่อนค่ะ หากรู้สึกว่าตัวเองกำลังเครียดก็ค่อย ๆ หาทางระบายออก มาคุยกัน ปรึกษากัน อย่าลืมนะคะว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียวเหมือนก่อนแล้ว ลองหันหน้าคุยกับคู่ของคุณเอง อย่าคิดว่าเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะจริง ๆ แล้วเรื่องบางเรื่องเราอาจจะไม่ต้องการคำแนะนำ แต่แค่ต้องการใครสักคนเป็นผู้รับฟังที่ดีเท่านั้นเอง
7. งานบ้าน ข้อนี้นี่เป็นข้อหลัก ๆ ที่มักจะเจอในหลาย ๆ ครอบครัว จริงอยู่ค่ะที่ใครหลาย ๆ คนเข้าใจกันว่า งานบ้านนั้นเป็นหน้าที่ของคุณภรรยา แต่อย่าลืมนะคะว่านี่คือยุคใหม่แล้ว ไม่จำเป็นอีกต่อไปที่หน้าที่ดังกล่าวจะต้องตกไปอยู่ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง การแบ่งเบาภาระกันช่วยกันทำงานบ้านแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ หยิบจับบ้างนี่ก็ถือว่าเป็นการแบ่งเบาภาระได้แล้วละค่ะ หรือจะให้ดี แบ่งหน้าที่กันให้ชัดเจนเลยแบบนี้ก็แฟร์ดี
8. ศาสนา เรื่องละเอียดอ่อนอีกเรื่องหนึ่งที่ควรจะศึกษาคู่ของตัวเองให้ดีก่อนตกลงปลงใจกัน มิเช่นนั้นอาจส่งผลให้เกิดการหย่าร้างได้ในที่สุดนะคะ
9. การเมือง คู่รักบางคู่ถึงขั้นไม่คุยกันข้ามปีเพราะต่างฝ่ายต่างมีพรรคการเมืองที่ตัวเองชื่นชอบเป็นของตัวเอง สิ่งที่จะช่วยได้ก็คือ หลีกเลี่ยงประเด็นสนทนาดังกล่าวไปเลยค่ะ เปิดใจยอมรับความคิดเห็นของกันและกันบ้าง เคารพในสิทธิส่วนบุคคล ไม่บังคับหรือเข้าไปก้าวก่ายสิทธิของคนอื่น อย่าลืมนะคะว่า คุณแต่งงานกันเพราะความรัก อย่าทำให้เรื่องบางเรื่องต้องมาทำให้ความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่ถึงขั้นแตกหักกันเลยค่ะ
10. ครอบครัวของอีกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องของพ่อตาแม่ยาย พ่อแม่สามี หรือญาติพี่น้อง ที่บางครอบครัวนั้นยอมปล่อยให้เข้ามามีอิทธิพลมากเกินไป จนทำให้เกิดความอึดอัดและไม่เป็นตัวของตัวเอง อย่าลืมนะคะว่า คุณสองคนตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกันเพราะความรัก ดังนั้นเมื่อคุณรักเขา คุณก็ต้องรับครอบครัวของเขาด้วย แต่ทั้งนี้ความรักที่ว่านั้นก็ต้องอยู่ในขอบเขตด้วยเช่นกัน เพราะนี่คือครอบครัวของคุณทั้งสองคน อย่าได้ปล่อยให้ใครก็ตามเข้ามามีบทบาทมากเกินไปจนทำลายความรักของคุณที่มีต่อกันและกัน
คลิกอ่าน 5 วิธีกระชับสัมพันธ์
เครดิต: ผู้จัดการ