อิทธิพลของ ครอบครัว และกลุ่มเเพื่อน ที่ส่งผลกับพฤติกรรมของเด็กโดยตรง

ทำ “หน้าที่พ่อแม่” ให้ดีที่สุด หยุดกังวลเกินเหตุจนบั่นทอนจิตใจตน

ว่าด้วยเรื่อง “หน้าที่พ่อแม่” พ่อแม่บางท่านอาจทุ่มเทให้ลูกมาก จนกังวลเกินเหตุ ก่อให้เกิดความคิดด้านลบไม่รู้จบ กังวลแม้แต่ปัญหาของลูกที่เด็กอื่นก็เป็น

โลกหมุนได้ด้วยความรัก..ไม่ใช่ความชัง

คุณพ่อนักเขียนคนหนึ่งคือ เดวิด เดนนิส ผู้ซึ่งมีลูกชายเป็นออทิสติก ได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาในกรณีที่ตำรวจนิวยอร์กฆ่ารัดคอชายผิวดำคนหนึ่งเพียงเพราะสื่อสารผิดพลาด

มีมารยาทก่อนใช้อินเตอร์เน็ต

มีมารยาทก่อนใช้อินเตอร์เน็ต หลายครั้งที่เราเข้าไปดูในคอมเมนต์และกระทู้ต่างๆ แล้วเจอผู้ที่ยังไม่พร้อมที่จะพูดคุยกับผู้อื่นอย่างสันติ ดูไม่เหมาะสมเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแก่คนอื่น เรื่องมารยาทในการใช้อินเตอร์เน็ตได้ถูกพูดถึงมานานแล้ว หากเราไม่อยากให้ลูกเราเป็นแบบนั้น จะต้องสอนเขาอย่างไรบ้าง ในวันนี้เราขอนำบทความดีๆ จากเว็บไซต์ Thaihotline.org มาแบ่งปันกันค่ะ   ออนไลน์ปลอดภัย มารยาทเน็ต (netiquette) คือ กิริยาอาการที่พึงประพฤติปฏิบัติในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในสังคม กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ มารยาทเน็ต คือชุดวิธีประพฤติตนที่เหมาะสมเมื่อคุณใช้อินเทอร์เน็ต   “อย่าลืมว่าคุณกำลังติดต่อกับคนที่มีตัวตนจริงๆ” ก่อนส่งอีเมล หรือโพสต์ข้อความอะไรบนอินเทอร์เน็ต คุณต้องถามตัวเองว่า ถ้าเจอกันต่อหน้าคุณจะพูดแบบนี้กับเขาหรือไม่ ถ้าคำตอบคือไม่ ก็จงแก้ไขข้อความนั้นแล้วอ่านใหม่อีกครั้ง ทำแบบนี้ซ้ำๆ จนรู้สึกว่าไม่ลำบากใจที่จะพูดแบบนี้กับใครแล้วจึงค่อยส่ง   “การสื่อสารออนไลน์ให้ยึดมาตรฐานความประพฤติเดียวกับการสื่อสารในชีวิตจริง” ในชีวิตจริง คนส่วนใหญ่มักจะเคารพกฎหมาย เพราะกลัวโดนจับ แต่ในโลกอินเทอร์เน็ต โอกาสถูกจับมีน้อย ก็เลยปฏิบัติต่อกันโดยมีมาตรฐานทางศีลธรรมต่ำกว่าในโลกจริง ถ้าอยากทำอะไรผิดกฎหมายในไซเบอร์สเปซ สิ่งที่คุณกำลังจะทำนั้นก็น่าจะผิดด้วย   “รู้ว่าคุณอยู่ที่ไหนในไซเบอร์สเปซ” การกระทำอะไรก็ตามอาจเป็นเรื่องยอมรับได้ในที่แห่งหนึ่ง แต่ถ้าเป็นที่แห่งอื่นๆ อาจจะไม่ใช่ ลองใช้เวลาสักพักสังเกตการณ์ก่อนว่า ที่นั่นเขาคุยอะไรกัน ปฏิบัติต่อกันอย่างไร หรือเข้าไปอ่านข้อความเก่าๆ จากนั้นค่อยเข้าไปมีส่วนร่วมกับเขา   “เคารพเวลาและการใช้แบนด์วิธ” ปัจจุบันดูเหมือนคนจะมีเวลาน้อยลงกว่าที่เคยเป็นมามากนัก เมื่อคุณส่งอีเมลหรือโพสต์ข้อความลงเน็ต รู้ไว้ว่าคุณกำลังทำให้คนอื่นเสียเวลามาอ่าน […]

Online Safety แจ้งเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม

หากคุณรู้สึกว่าเว็บไซต์ที่คุณพบเห็นนั้นข้อมูลหลายอย่างไม่ถูกต้อง กลัวคนอื่นนำไปปฏิบัติแล้วเป็นอันตราย และบทความเหมือนแต่งเองและมีภาพประกอบไม่เหมาะสม

แห่ชื่นชม! 2หนูน้อยยอดกตัญญูบริจาคหนังศีรษะช่วยชีวิตพ่อถูกไฟคลอก

นับเป็นเรื่องราวน่าประทับใจของความกตัญญูแสนบริสุทธิ์ของสองพี่น้องตัวน้อยชาย-หญิง วัย 8 ขวบ และ 6 ปี ทำในสิ่งที่กล้าหาญบริจาคหนังศีรษะเพื่อปลูกถ่ายช่วยชีวิตนาย หวัง ซี่หยง บิดาของทั้งคู่ หลังประสบอุบัติเหตุถูกไฟฟ้าช็อตจนผิวหนังถูกไหม้เสียหาย 90 เปอร์เซนต์ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานายหวัง(ผู้เป็นพ่อของเด็กทั้ง 2)ได้รับการรักษาด้วยการปลูกผิวหนังมาแล้ว 3 ครั้ง โดยตัดผิวหนังจากส่วนอื่นมาแปะตรงผิวหนังที่ถูกทำลาย แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับการรักษาแผลไฟไหม้ทั้งหมด อีกทั้งค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆเกินกว่าที่ครอบครัวจะแบกรับไหว และแม้มีเงินบริจาครวมถึงค่าชดเชยจากการไฟฟ้าแต่มีจำนวนวงเงินจำกัด ทางแพทย์จึงแนะนำให้ภรรยาเขาใช้การปลูกถ่ายผิวหนังจากหนังศีรษะของลูกทั้งสองคนซึ่งเป็นวิธีที่ประหยัดและปลอดภัยที่สุด แต่ด้วยความเป็นแม่ที่ไม่ต้องการเห็นลูกเจ็บปวดและมองว่าโหดร้ายเกินไปจึงปฏิเสธแนวคิดดังกล่าวทันที . . . อย่างไรก็ตาม แพทย์เตือนว่าจำเป็นต้องรีบทำอย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยชีวิตนายหวัง พร้อมทั้งยืนยันว่าผิวหนังเด็กรักษาตัวได้ไว จะงอกกลับคืนมาอย่างรวดเร็วและแข็งแรงแน่นอน ด้วยเวลาชีวิตของสามีเหลือน้อยเต็มที เธอจึงไม่มีทางเลือกต้องไปปรึกษาลูกๆ และเธอต้องประหลาดใจเมื่อหนูน้อยทั้งสองคนตอบตกลงทันทีโดยไม่ลังเล ซึ่งแพทย์ได้ทำการผ่าตัดปลูกถ่ายผิวหนังที่ได้จากศีรษะของลูกสาวและลูกชายให้แก่นายหวัง และทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี สร้างความซาบซึ้งใจกับนายหวังเป็นอย่างมาก ที่ลูกๆยอมทนเจ็บเพื่อช่วยชีวิตของตน ความใจกล้าและกตัญญูของหนูน้อยทั้งสองกลายเป็นที่กล่าวขานทั่วประเทศ ผู้คนต่างพากันยกย่องชื่นชม พร้อมทั้งอวยพรให้หนูน้อยทั้งสองโชคดี ที่มา CCTVNews ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1444566936

ภาพยนตร์สำหรับเด็ก 4 เรื่อง ที่พ่อแม่ ควรเปิดให้ลูกดู

กิจกรรมยามว่างที่หลายครอบครัวมักทำร่วมกัน นั่นคือการดูหนังหรือภาพยนตร์ ยิ่งเป็นการดูด้วยกันในบ้านแล้วยิ่งดีใหญ่

จดหมายรักซึ้งๆ จากใจคุณพ่อคนใหม่ ถึงคุณแม่ทุกคนค่ะ

จดหมายรักซึ้งๆ จากใจคุณพ่อคนใหม่ ถึงคุณแม่ทุกคนค่ะ

5 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก น้องลิซซี่ “หมู ฉึกฉึก” โตเป็นสาวแล้ว!

เเจ้งเกิดเป็นที่รู้จักจากวลีเด็ด “หมูฉึก ๆ” ในโฆษณาเครื่องปรุงรสยี่ห้อดัง จนครองใจผู้ชมทั่วประเทศไปเมื่อ 5 ปีก่อน สำหรับ น้องลิซซี่ เฟลิเซีย ณัฐษณา บุทเชอร์  จนทำให้มีผลงานต่อเนื่องในวงการบันเทิงไม่น้อย ล่าสุดตอนนี้ น้องลิซซี่ มีอายุ 10 ขวบแล้ว เริ่มโตขึ้นเป็นสาวน้อยน่ารัก เเต่ก็ยังคงความสดใสสมวัยเหมือนเดิม เเถมยังฉายเเววสวยเเละน่ารักออกมาให้ได้เห็น เชื่อว่าคงจะมีหลายคนถ้าไม่บอกว่านี่คือลิซซี่ หมูฉึกๆก็คงจะจำไม่ได้อย่างเเน่นอน  ว่าเเล้วน้องลิซซี่ จะเปลี่ยนไปแค่ไหน? มาดูภาพล่าสุดของสาวน้อยคนนี้กันเลยค่ะ ขอบคุณภาพจาก : https://www.facebook.com/Felicia-Butcher-273599918077/timeline/

ทารกวัยขวบเศษคอหักรอดชีวิตปาฏิหาริย์! แพทย์ผ่าตัดเชื่อมคอให้สำเร็จ

ทารกน้อยรอดปาฏิหาริย์ แพทย์ช่วยผ่าตัดเชื่อมกระดูกคอได้สำเร็จ หลังประสบอุบัติเหตุจนคอหัก เป็นเหตุการณ์ที่ทำเอาคนเป็นแม่แทบใจสลาย เมื่อได้เห็นลูกน้อยวัยหัดเดินได้รับบาดเจ็บ คอหักจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งมีโอกาสน้อยเหลือเกินที่จะรอดชีวิต แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นในที่สุด เมื่อทีมแพทย์จากโรงพยาบาลบริสเบนในออสเตรเลีย สามารถช่วยเหลือเด็กน้อยรายนี้ให้มีโอกาสกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง โดยจากรายงานของ เว็บไซต์นิวยอร์กเดลี่นิวส์ เปิดเผยว่า เด็กน้อยดวงแข็งรายนี้มีชื่อว่า แจ็คสัน เทย์เลอร์ วัย 16 เดือน ซึ่งรอดชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์มาได้อย่างน่าอัศจรรย์ หลังจากรถที่แม่ของเขาขับชนเข้ากับรถคันอื่น แม่ของแจ็คสันเผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุเธอได้พยายามช่วยเหลือลูกชายออกจากรถ แต่ในวินาทีที่ดึงร่างของเขาออกมาเธอก็รู้ได้ทันทีว่าคอของลูกหักเสียแล้ว จากนั้นเด็กน้อยได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบริสเบนอย่างเร่งด่วน โดยแพทย์ผู้รับผิดชอบการรักษาหนูน้อยรายนี้ก็คือ เจฟฟ์ แอสกิน ศัลยแพทย์กระดูกสันหลัง ผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็นเจ้าพ่อแห่งการผ่าตัดกระดูกนั่นเอง โดยแพทย์วินิจฉัยว่ากระดูกสันหลังของแจ็คสันเคลื่อนหลุดจากด้านใน ทำให้กระดูกส่วนศีรษะหลุดออกจากส่วนคอ แต่นับว่าเคราะห์ดีทีไขสันหลังไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด หลังจากการผ่าตัดร่วม 6 ชั่วโมง ในที่สุดแพทย์ก็ประสบความสำเร็จเชื่อมต่อกระดูกของหนูน้อยเข้าใหม่อีกครั้ง คาดว่าหลังจากใส่อุปกรณ์ช่วยค้ำพยุงส่วนศีรษะอีก 8 สัปดาห์ แจ็คสันก็จะสามารถฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้กรณีของแจ็คสันนับว่าเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ เพราะแพทย์ชี้ว่า เด็กส่วนมากที่มีการบาดเจ็บในลักษณะนี้มักจะเสียชีวิต และหากรอดมาได้ก็อาจจะไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือหายใจได้อีก   ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : http://hilight.kapook.com/view/127537 ภาพและคลิปวีดีโอจาก :  7 News Melbourne, คุณ nollygrio สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

ชาวเน็ตจีนแห่ชื่นชม! พยาบาลใจดีให้ทารกดื่มนมตนเองในห้องผ่าตัด

เรียกได้ว่าเป็นภาพอันน่าประทับใจที่ถูกพูดถึงกันอย่างมาก ซึ่งถูกถ่ายขึ้นในโรงพยาบาลเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน โดยเผยให้เห็นภาพของพยาบาลรายหนึ่งที่กำลังให้ทารกน้อยที่ต้องเตรียมเข้ารับการผ่าตัด ดื่มนมจากอกของตนเองได้ ทั้งนี้เนื่องจากว่าทารกน้อยงอแงจึงทำให้การเตรียมผ่าตัดเป็นไปด้วยความลำบาก  ซึ่งไม่ว่าจะด้วยหน้าที่หรือด้วยสัญชาติญาณก็ตามแต่ พยาบาลรายนี้นามว่า ลี่เบาเซีย จึงได้อุ้มทารกน้อยมาอยู่อ้อมอกพร้อมกับปลอบโยนเพื่อให้หยุดร้องไห้ พร้อมกันนี้เธอยังได้ให้ทารกดื่มนมจากอกของเธอเอง ซึ่งวิธีนี้ก็ทำให้ทารกน้อยสงบลง และคลายความหวาดกลัวจากการผ่าตัด จนกระทั่งการผ่าตัดประสบผลสำเร็จไปได้ด้วยดี เมื่อการผ่าตัดมีผลสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ทางคุณพ่อของทารกน้อยรายนี้ก็ได้ขอพบกับพยาบาลที่ปลอบโยนลูกของเขาพร้อมกับแสดงคำขอบคุณที่พยาบาลได้ดูแลลูกของเขาเป็นอย่างดี รวมถึงยังขอบคุณคุณหมอและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำให้การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ทำให้ภาพที่เผยแพร่ออกมานั้นได้รับคำชมจากชาวเน็ตกันอย่างล้นหลาม ถึงความมีน้ำใจของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เหล่านี้ พร้อมกับบอกว่านี่คือความภาคภูมิใจของวงการแพทย์จีน เรียกได้ว่าน้ำใจของเพื่อนมนุษย์ที่มีต่อกันนั้นไม่เสื่อมคลายไปเลยจริงๆ ซึ่งก็มีเรื่องราวที่น่าประทับใจในโรงพยาบาลอีกหลายเรื่องราว เป็นการทำให้ผู้ป่วยไว้วางใจได้ว่าการบริการทางการแพทย์นั้น เข้าอกเข้าใจผู้ป่วยได้อย่างแท้จริง ขอบคุณข้อมูลข่าวและภาพจาก : www.guchill.com

แต่อ่านเล่นๆ ยังอ่านน้อยลง

หากทั้งโรงเรียนและบ้านส่งเสริมและให้เวลาเด็กๆ ทุกวัยได้เพลิดเพลิน มีความสุขกับหนังสือที่พวกเขาพอใจหรือเลือกอ่านเองแล้ว จะช่วยให้เด็กๆ ค้นพบพลังและความรื่นรมย์ของการอ่าน

ทำไมพี่วัย 4 ขวบ ชอบแกล้งน้องอยู่เรื่อย

“น้องภูเล่นกับน้องแรงๆ เพราะต้องการได้รับความสนใจต่างหากไม่ได้ดื้อ พอคุณพ่อคุณแม่เปลี่ยนจากจับตาแต่ตอนแกล้งน้อง เล่นแรง มาสนใจมองตอนน้องภูเล่นดีๆ การเล่นแรง แกล้งน้องก็ลดลงไปจนแทบไม่มีแล้ว”

เปิดใจ”พนักงานเก็บขยะ” ปลื้ม!ลูกสวมครุยกราบเท้า

จากกระแสโลกออนไลน์ที่มีการแชร์ภาพ และข้อความจากเฟซบุ๊กของ Klanarong Srisakul ซึ่งเป็นภาพของบัณฑิตใหม่ป้ายแดง จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคนหนึ่ง ขณะก้มลงกราบเท้าพ่อ ที่ทำงานเป็นพนังงานขับรถขนขยะ … พร้อมระบุข้อความในใจว่าด้วยเรื่องของพ่อ โดยบัณฑิตคนดังกล่าวได้พูดถึง “พ่อ” ที่ทำงานเป็นพนังงานขับรถขนขยะ ว่าในสมัยเด็กนั้นตนอายที่พ่อทำงานนี้ แต่พอโตขึ้นพ่อได้พยายามส่งเสียให้เรียนจน ทำให้ลูกคนเก็บขยะคนนี้ มายืนตรงนี้ได้ พร้อมเล่าเรื่องราวสุดประทับใจ และทิ้งท้ายว่า “ขอบคุณที่มีพ่อเป็นพ่อ ขอบคุณที่สนับสนุนทุกอย่าง ขอบคุณที่เหนื่อยไปด้วยกัน ร้องไห้ด้วยกัน ซึมไปด้วยกัน วันนี้ก็อยากให้พ่อมีความสุขกับความสำเร็จ ที่เราเหนื่อยมาด้วยกัน ขอบคุณจริงๆ ลูกคนเก็บขยะคนนี้ทำให้พ่อของมันภูมิใจได้แล้ว พ่อไม่ต้องอายอะไรใครทั้งนั้น เพราะพ่อคือ พ่อคนดีที่หนึ่ง ไม่แพ้ใคร แม็กภูมิใจ” ภายหลังภาพดังกล่าว และเรื่องราวสุดประทับใจนี้ ได้ถูกเผยแพร่และมีการแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมาก จนเกิดเป็นกระแสแสดงชื่นชมในความรักของพ่อลูกคู่นี้ ซึ่งผู้เป็นพ่อ ได้เปิดใจเล่าให้ฟังว่า หลังจากลูกชายไปรับชุดครุย ได้โทรศัพท์มาถามว่า ตนเลิกงานเวลาใด จากนั้นก็มาหาตน พร้อมกับก้มลงกราบเท้าหน้ารถถังขยะ “วันนั้นผมตกใจมาก ที่เห็นลูกทำแบบนั้น รู้สึกดีใจและภูมิใจจนพูดไม่ถูก ผมร้องไห้ เขาก็ร้องไห้ ตอนเด็กๆ เขาเคยถามผมว่า ทำไมผมไม่เป็นทหาร เป็นตำรวจแต่งตัวดีๆ ผมบอกว่าผมจบแค่ ป.4 ไม่มีความรู้ทำงานแบบนั้นไม่ได้ ผมสอนเขาเสมอให้ตั้งใจเรียนให้สูงๆ จะได้เป็นเจ้าคนนายคน […]

[Blogger พ่อเอก-60] ปูนปั้นกับเพื่อนบนกำแพง .. เปลี่ยนความกลัวเป็นโอกาสเรียนรู้

เราได้ยินเสมอๆที่กับประโยคที่คุณพ่อ คุณแม่ หรือ อาจจะเป็นปู่ย่าตายายที่มักใช้หลอกเจ้าตัวเล็ก (ถ้าใช้คำตรงๆ คงใช้คำว่า ขู่ น่าจะถูกต้องกว่า) ประมาณว่า ถ้าไม่ทำโน่นทำนี่แล้วจะมีตัวนั้นตัวนี้มาทำอะไรกับเจ้าตัวเล็ก เช่นถ้าไม่รีบนอนจะเรียกตุ๊กแกมากินตับ (เขาขู่กันอย่างนี้ใช่มั้ยฮะ) หรือ ถ้าไม่กินข้าวเดี๋ยวจะเรียกตำรวจมาจับไปเลยนะเป็นต้น สำหรับครอบครัวเราแล้ว เราพยายามหลีกเลี่ยงการขู่เด็กในลักษณะนี้ฮะ เพราะจะเป็นการสร้างให้เด็กเกิดความกลัวที่ผิดๆ เกิดมุมมองที่ผิดเข้าไปในความคิดยกตัวอย่างหนึ่งใกล้ๆตัวของครอบครัวเรา (และครอบครัวคุณพ่อคุณแม่ที่แวะมาอ่านก็คงเจอเหมือนกัน) คือ เจ้าปูนปั้นเคยรู้สึกกลัวจิ้งจกโดยที่เราเองไม่รู้มาก่อน แล้วมีอยู่วันหนึ่ง หลังกลับมาจากโรงเรียนเจ้าปูนปั้นเห็นจิ้งจกเกาะอยู่เหนือประตูเข้าบ้าน จึงทำท่าจะไม่ยอมเข้าบ้าน บอกว่า “ปูนปั้นกลัวอะ” ต้องเรียกให้คุณยายมาพาเข้าบ้าน ปัญหาคือบ้านเราก็จิ้งจกเยอะเสียด้วย บางทีแปรงฟันอยู่ก็เจอจิ้งจกในห้องน้ำ เจ้าปูนปั้นก็จะทำท่าวิตกกังวลแล้วมีอยู่ช่วงหนึ่ง คุณยายก็เลยเผลอใช้จิ้งจกเป็นเครื่องมือในการจัดการเจ้าตัวป่วน เช่น ไม่ไปอาบน้ำเดี๋ยวจิ้งจกมานะ หรือ ไม่กินนมเดี๋ยวเอาจิ้งจกมาเลย เป็นต้น หม่าม๊าและปะป๊าก็รู้สึกว่าการจะปล่อยให้เขากลัวอะไร อย่างนี้ไม่น่าจะดี หม่าม๊าเลยเป็นคนบอกคุณยายว่าอย่าไปหลอกเจ้าปูนปั้นให้กลัวเรื่องพวกนี้ แล้วปะป๊า หม่าม๊า ก็สอนปูนปั้นให้รู้ว่า ‘จิ้งจกไม่ใช่สัตว์อันตรายอะไร จิ้งจกไม่ทำร้ายเรา และจิ้งจกก็มีประโยชน์ด้วย เพราะจิ้งจกจะมาคอยกินแมลงที่บินไปบินมา’ และเราก็อธิบายให้เขาฟังเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ปูนปั้นเจอเจ้าจิ้งจกและทำท่าไม่ค่อยจะถูกใจเท่าไหร่ สิ่งที่เปลี่ยนไปทั้งที่ใช้เวลาไม่นานคือ ‘เจ้าปูนปั้นเริ่มถามถึงจิ้งจกในวันที่ไม่เจอเจ้าจิ้งจก’ยกตัวอย่าง เวลาแปรงฟันก่อนเข้านอนเจ้าปูนปั้นก็จะถาม “ปะป๊า จิ้งจกไปไหน” เราก็จะบอกว่า “จิ้งจกเขาก็ต้องกลับบ้านเหมือนกัน […]

4 เมนูกล้วยๆ ทำเองง่าย ลูกน้อยได้ประโยชน์

การให้ลูกรับประทานกล้วยเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้ไม่ท้องผูก แต่กล้วยแบบเดิมๆ อาจทำให้ลูกเบื่อ เพราะความซ้ำซากจำเจ แม่น้องเล็กจึงมี เมนูกล้วยๆ ทำเองง่าย มาฝาก

ปัญหาฝ้ากระ จุดด่างดำหลังคลอด

ฝ้า กระ รอยดำคนที่ยังไม่เป็น หรือเป็นแล้ว ก็ควรป้องกันไม่ให้เป็นมากขึ้นด้วยการหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้านและเลือกครีมกันแดดควรจะเลือกที่มี SPF และก็ PA อยู่ในหลอดเดียวกันด้วย

อุทาหรณ์ เกือบเสียลูกรักเพราะลูกไม่ยอมเคี้ยว

มีประสบการณ์หนึ่งจากคุณแม่ ที่โพสต์เล่าเหตุการณ์เอาไว้เป็นอุทาหรณ์ เมื่อลูกรักของคุณแม่ รับประทานมะม่วงเข้าไปแต่ ไม่ยอมเคี้ยว ซึ่งปกติคุณแม่จะหั่นผลไม้ให้ลูกน้อยหยิบรับประทานเองเป็นชิ้นเล็กๆ ลูกน้อยฟันขึ้น 10 ซี่แล้ว จึงสามารถเคี้ยวได้ แต่ปัญหาคือลูกน้อยไม่ชอบเคี้ยว

สุดเศร้า! ทารกมีชีวิตอยู่ได้แค่ 100 นาที พ่อแม่บริจาคอวัยวะเพื่อต่อชีวิตให้ผู้ป่วยคนอื่น

เว็บไซต์มิร์เรอร์ของอังกฤษเผยแพร่เรื่องราวอันน่าเศร้าสลดใจของสามีภรรยาคู่หนึ่ง “เจส อีแวนส์ และ ไมค์ โฮลสตัน” ที่ต้องสูญเสีย “เทดดี้” ลูกน้อยที่เพิ่งจะลืมตาออกมาดูโลกได้เพียงไม่ถึง 2 ชั่วโมงเท่านั้นไป เนื่องด้วยเกิดมาพร้อมกับสภาวะที่เรียกว่า “อเนนเซฟาลี” หรือสภาวะไร้สมองใหญ่ ทำให้ทั้งสมองและหัวกะโหลกไม่สามารถเจริญเติบโตได้ ถือเป็นความผิดปกติที่หายาก ในช่วงที่เจสท้องลูกฝาแฝด 2 คน ซึ่งก็คือเท็ดดี้และพี่ชายชื่อโนอาห์ ได้ 12 สัปดาห์ แพทย์ก็มาแจ้งข่าวร้ายให้ทราบว่าเทดดี้เป็นภาวะไร้สมองใหญ่ เธอและสามีจะมีเวลาอยู่กับลูกได้อีกไม่นาน ฉะนั้นแล้ว ไม่ถึง 2 ชั่วโมงหลังจากที่เทดดี้คลอดออกมา เจสและไมค์จึงตัดสินใจที่จะทำให้ช่วงเวลาอันสั้นกลายเป็นความทรงจำที่มีค่าและพิเศษที่สุด ด้วยการบริจาคอวัยวะของลูกให้กับทางการแพทย์ เพื่อที่จะได้นำไปใช้ต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์คนอื่นๆอีกต่อไป ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญมาก ทำให้แม้ครั้งนี้คู่สามีภรรยาจะสูญเสียลูกชายไป แต่นั่นก็ไม่ใช่ความสูญเปล่า ทั้งหมดนี้ทำให้เทดดี้ได้ชื่อว่าเป็นผู้บริจาคอวัยวะที่อายุน้อยที่สุดในอังกฤษ และทางครอบครัวยังได้ได้รับใบประกาศเกียรติคุณในพิธี “Pride of Britain” (ความภาคภูมิใจแห่งอังกฤษ) ของหนังสือพิมพ์เดลีมิร์เรอร์อีกด้วย ท่ามกลางน้ำตาแห่งความซาบซึ้งของบรรดาคนที่มาร่วมงาน “เป็นเวลาที่สั้นๆเพียง 100 นาทีที่ลูกมีชีวิตอยู่กับเรา แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่มีค่าที่สุด มันผ่านไปเร็วมาก” เจสกล่าว ที่มา : Mirror ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : www.khaosod.co.th

keyboard_arrow_up