4 พฤติกรรมที่พ่อแม่..ทำร้ายลูกโดยไม่รู้ตัว
2. อย่าพูดว่าไม่รัก
ไม่มีเด็กคนไหนไม่อยากให้พ่อแม่รักหรอกค่ะ ลูกต้องการความรักต่อพ่อแม่ แม้ว่าเราจะกระทำให้ลูกเห็นว่าเรารักลูกมากแค่ไหน แต่การพูดว่า ถ้าทำอย่างนี้ จะไม่รักแล้วนะ ก็สามารถบั่นทอนความรู้สึกและความมั่นใจว่าพ่อแม่รักไปได้มากเลยทีเดียวค่ะ อย่าใช้ความรักมาเป็นข้อต่อรองในการกระทำใด ๆ ก็ตามของลูก ควรทำให้ลูกรู้สึกได้ว่าพ่อแม่รักลูกแบบไม่มีเงื่อนไข ไม่ว่าจะทำอย่างไรพ่อแม่ก็รักดีกว่าค่ะ
3. อย่าขู่ให้ลูกกลัว
จริงอยู่ว่าการขู่ให้ลูกกลัว จะทำให้ลูกหยุดการกระทำหรือสิ่งที่ผิดนั้น ๆ ได้ง่าย และลูกก็จะไม่ทำอีก (เพราะกลัว) แต่ในระยะยาว การขู่ให้ลูกกลัวสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จะสร้างผลเสียมากกว่าผลดี ลูกจะกลัวสิ่ง ๆ นั้นไปจนโต ดังนั้น หากต้องการขู่ลูก ควรขู่ในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจริงหากลูกทำสิ่ง ๆ นั้น เช่น หากลูกยังคงกินแต่ขนมและไม่ยอมแปรงฟันอีก ฟันของลูกจะผุจนต้องไปถอนฟัน และไม่มีฟันให้เคี้ยวอาหารอีกจนกว่าฟันแท้จะขึ้น เป็นต้น
4. หยุดเปรียบเทียบลูกตนเองกับลูกคนอื่น
“ดูสิลูกบ้านนั้นทำไมเรียนเก่งจัง ทำไม่ไม่เรียนเก่ง ๆ เหมือนเค้าบ้าง” “ทำไมดื้ออย่างนี้ ไม่เห็นน่ารักเหมือนน้องเค้าเลย” “เมื่อไรจะทำให้พ่อแม่ภูมิใจได้เหมือนพี่เค้าบ้างนะ” แน่นอนว่าการพูดเปรียบเทียบจากปากของพ่อแม่นั้น เป็นไปด้วยความปรารถนาดี อยากให้ลูกทำตามแบบอย่างที่ดี หรืออาจจะพูดเพราะโมโห เพราะลูกทำไม่ได้ดั่งใจ แต่รู้หรือไม่คะ ว่าความปรารถนาดีเหล่านี้ กำลังทำร้ายจิตใจลูกอย่างใหญ่หลวงเลยค่ะ เพราะเด็กจะรู้สึกแย่กับตนเอง หมดความมั่นใจในตนเอง และเมื่อลูกได้รับฟังอยู่ทุก ๆ วัน ลูกจะเริ่มรู้สึกว่าตนเองเป็นเด็กไม่ดี ไม่มีความสามารถทำได้เหมือนคนอื่น ทำให้รู้สึกด้อยค่า มองไม่เห็นคุณค่าในตนเอง ไม่กล้าแสดงออก ไม่มั่นใจในตนเอง นานวันเข้าจะไม่กล้าลงมือทำอะไรเพราะขาดความมั่นใจว่าตนจะทำได้สำเร็จ
ในทางตรงข้ามเด็กบางคนอาจจะรู้สึกโกรธ อิจฉา หรือแสดงพฤติกรรมต่อต้าน รุนแรง ก้าวร้าวตอบโต้กลับไป มีน้อยมากที่อาจจะฮึดสู้กับคำพูดเปรียบเทียบของผู้ใหญ่ และกลายเป็นแรงผลักดันในการทำสิ่งที่ดีๆ เพราะส่วนใหญ่เด็ก ๆ มักจะทำในทางตรงกันข้าม คือทำสิ่งที่ไม่ดีตรงกันข้ามกับที่ผู้ใหญ่บอกให้ทำ เพื่อให้เกิดความรู้สึกสะใจที่พ่อแม่มักจะเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น
สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรมองเห็นคือ เด็กแต่ละคนมีความเป็นปัจเจกที่แตกต่างกันไป ทั้งหน้าตา ท่าทาง พฤติกรรมการแสดงออก รวมทั้งศักยภาพและความสามารถ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเหมือนคนอื่น
พฤติกรรมเหล่านี้ หากคุณพ่อคุณแม่ยังคงทำต่อไปเรื่อย ๆ ในตอนนี้คุณพ่อคุณแม่จะยังไม่เห็นผลกระทบต่อจิตใจลูกหรอกค่ะ แต่เมื่อลูกโตขึ้น ลูกจะค่อย ๆ แสดงผลกระทบที่พ่อแม่เคยกระทำไว้ให้เห็นเอง ดังนั้น เราจึงควรหยุดสิ่งเหล่านี้ให้ได้ก่อนที่จะสายเกินแก้นะคะ ลองเปลี่ยนจากคำดุด่า เป็นคำชื่นชม เปลี่ยนสิ่งที่ลูกทำไม่ได้ดั่งใจ เป็นช่วยกันค้นหาศักยภาพในตัวของลูกด้วยกัน เปลี่ยนคำว่าไม่รัก เป็นไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไรแม่ก็รัก กันดีกว่าค่ะ
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
พ่อแม่จ๋า อย่าทำร้ายหนูด้วยการสอนคนละทาง
10 เคส เลี้ยงลูกดี แต่กลับทำให้เป็นเด็กมีปัญหา
รวมพฤติกรรมยอดแย่ที่พ่อแม่ไม่ควรทำต่อหน้าลูก
10 แบบอย่างที่ดี ที่พ่อแม่ควรทำให้ลูกเห็น
ขอบคุณข้อมูลจาก : siriallergyguard.blogspot.com, มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่